กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--บมจ.ไออาร์พีซี
ดร.ปรัชญา ภิญญาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท. และกลุ่มบริษัทในเครือฯ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดตั้ง “หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน” หรือ Petroleum Outlook Team ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของ Oil Supply Chain Integration Management (OIM) เพื่อทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลาดน้ำมัน แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ประมวลผลประเมินราคาและสถานการณ์ และคาดการณ์ราคาน้ำมันขึ้น เพื่อใช้วางแผนทางธุรกิจปิโตรเลียม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวระหว่างหน่วยงานทั้งหมด รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงทางด้านราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นฐานข้อมูลเผยแพร่สู่สาธารณชนและองค์กรอื่นๆ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการบริหารจัดการทางธุรกิจต่อเนื่อง โดยมีการนำเสนอผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ www.pttplc.com และในอนาคต หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. มีโครงการที่จะพัฒนาไปสู่การจัดตั้งเป็นสถาบันด้านการวิเคราะห์พลังงานของประเทศต่อไป
พร้อมกันนี้ ยังได้ริเริ่มจัดสัมมนา “การวิเคราะห์สถานการณ์ปิโตรเลียมประจำปี ครั้งที่ 1” (1st PTT Group Annual Petroleum Outlook) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดตัวหน่วยงานดังกล่าว พร้อมกับเป็นช่องทางในการนำเสนอ
ผลงานและบทวิเคราะห์ต่างๆ ซึ่งจากนี้ไป จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
สำหรับกิจกรรมในปีแรกนี้ ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “ถอดรหัสราคาน้ำมัน ปี 2554” หรือ “2011 Decrypting The Oil Trend” ซึ่งประกอบด้วยการนำเสนอการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ปี 2554 โดยหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. และการเสวนาโดยกูรูด้านเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ ได้แก่ ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อระดมสมองและแลกเปลี่ยนมุมมองสำหรับจัดเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบและความผันผวนของราคาน้ำมันสำหรับทิศทางราคาน้ำมันในปี 2554 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในปี 2554 จะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องและไม่น่าจะกลับมาสู่ภาวะถดถอยอีก หลังจากรัฐบาลต่างๆ มีการออกมาตรการทั้งด้านการเงินและการคลัง เพื่อสร้างเสถียรภาพและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั้นกว่าครึ่งมาจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย สวนทางกับความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่อาจจะกลับไปหดตัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้อุปสงค์น้ำมันโลกจะปรับเพิ่มขึ้น แต่อุปทานก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มนอกโอเปกและก๊าซธรรมชาติของกลุ่มโอเปกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กลุ่มโอเปกยังจำเป็นต้องควบคุมกำลังการผลิตให้ใกล้เคียงกับปริมาณที่ผลิตได้ในปัจจุบัน เพื่อสร้างสมดุลทางด้านการตลาดนอกจากนั้น ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุน ภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมถึงฤดูกาลที่ผันแปร ก็ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในปี 2554 จะมีความผันผวนยิ่งขึ้นจากปัจจัยข้างต้น ทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. ได้คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบดูไบจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคา 75 — 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลแต่อาจจะมีโอกาสแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในระยะสั้นๆ หากมีปัจจัยอื่นที่ไม่คาดคิดหรือเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่าที่คาดไว้ เช่น ภัยธรรมชาติ สงครามในตะวันออกกลาง เป็นต้น เข้ามาเกี่ยวข้อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-649-7285 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.ไออาร์พีซี