กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็กเพิ่มเป้าดัชนีสิ้นปีแตะ 1,050 จุด จากเป้าเดิม 920 จุด รับกระแส Fund Flow ไหลเข้าไม่หยุด กองทุน LTF/RMF แห่เก็บหุ้นถูกช่วงปลายปี หวั่นปัจจัยเสี่ยงคดียุบพรรคประชาธิปัตย์กดดันดัชนี เตือนเสี่ยงสูงลงทุนระมัดระวัง ชี้ตลาดoverbought แล้ว พร้อมแนะลดพอร์ตลงทุนในหุ้นเหลือ 70% ลดความเสี่ยง ชูหุ้นพลังงาน-แบงก์ยังน่าสนใจ
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ส่งผลให้ดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/2553 ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งหากออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จะทำให้นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศอาจมีการปรับน้ำหนักการลงทุน และส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นจะยังได้รับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF และ RMF ที่รอจังหวะเข้าซื้อในช่วงที่ดัชนีมีการปรับฐานลง
“หากเรามองการปรับขึ้นของหุ้นตอนนี้ไม่ได้ขึ้นเป็นรายกลุ่ม แต่เป็นการซื้อขายทำกำไรรายตัวมากกว่า โดยส่วนมากจะมาจาก Fund Flow ที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมา แต่ในทางกลับกันก็มีการขายทำกำไรออกเช่นกัน เพราะในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนธันวาคมเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว แต่ในช่วงดังกล่าวน่าจะเป็นจังหวะที่กองทุน LTF และ RMF จะเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงปลายปี แต่แนะนำนักลงทุนให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยอาจจะมีการกระจายความเสี่ยงหรือลดความเสี่ยงด้วยการลงทุนประเภทอื่นๆ เนื่องจากดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจน overbought แล้ว”
ด้านนายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2553 ว่า ขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,000 จุดได้จากกระแส Fund Flow ที่เข้ามา แต่มองว่ามีการซื้อขายเกินความเป็นจริง (overbought) ซึ่งมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร ฝ่ายวิเคราะห์จึงประเมินดัชนีสิ้นปี2553ไว้ที่ 1,050 จุด P/E อยู่ที่ 15 เท่า จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 920 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม โดยอาจจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง ทั้งในเรื่องของการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีการขยายตัวลดลง จนส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าธปท.จะไม่ออกมาตรการที่รุนแรงเพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน บล.โกลเบล็กแนะนำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจาก 100% เหลือเพียง 70% เพื่อลดความเสี่ยงลง โดยหุ้นที่โกลเบล็กแนะนำลงทุน ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงานอาทิ PTT TOP BANPU จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงปลายปี2553 นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มธนาคารที่น่าสนใจ ได้แก่ KTB ที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2553 ออกมามีกำไรเพิ่มขึ้น และสินเชื่อเติบโตโดดเด่นสุด
รายละเอียดข้อมูลกรุณาติดต่อ : บริษัท มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร: 02-664-4233 Fax : 02-664-4232 e-mail : mediaplannerconsult@hotmail.com