กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,387.85— $1,397.25 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ10 อยู่ที่ 19,550 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 40 บาทจากวันก่อนหน้า ที่ 19,510 บาทออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆแม้ว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำจะถูกกดดันจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาเหนือความคาดหมายทั้งนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนตุลาคมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในขณะที่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.6% ซึ่งตัวเลขจ้างงานของบริษัทเอกชนมีการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้อัตราการจ้างงานภาคเอกชนขยับขึ้นถึง 159,000 ตำแหน่ง ส่วนการจ้างงานภาครัฐมีการปรับตัวลดลงเพียง 8,000 ตำแหน่ง แน่นอนว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 151,000 ตำแหน่งนั้นอาจดูเหมือนว่าจะมากแต่สำหรับมุมมองของวายแอลจีแล้วถือว่าไม่มากพอถ้าเปรียบเทียบกับการว่างงานในสหรัฐที่มีถึง 14.8 ล้านคน นอกจากนี้นักวิเคราะห์หลายๆสำนักยังได้ให้มุมมองว่าสหรัฐยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์อันยุ่งยากนี้ไปอีกนานและมีการประเมินกันว่าในปีหน้าสหรัฐยังคงครุ่นคิดกับการแก้ปัญหาการว่างงานนี้ต่อไปโดยคาดว่าอัตราการว่างานในปีหน้าจะยังคงอยู่ที่ 9% ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นระดับที่สูงอยู่ดี หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้นจะเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะออกมาตรการ QE 3,QE 4 หรือมีการขยายปริมาณเงินเพื่อเพิ่มอัตราเร่งให้การจ้างงานถีบตัวสูงขึ้นเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและการดำเนินการเช่นนั้นจะหนุนให้ราคาทองคำขยับสูงขึ้นต่อไป
นอกจากประเด็นตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ไม่สามารถกดดันให้ราคาทองคำอ่อนค่าลงได้แล้วปัญหาเกี่ยวกับยุโรปก็ยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนยังคงต้องติดตามและจับตาดูต่อไปแม้ว่าในระยะหลังๆนี้ประเด็นของหนี้สาธารณะค่อนข้างจะจางหายไปจากกระดานข่าวสารบ้างก็ตามแต่คงไม่มีใครปฎิเสธความจริงที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยุโรปนั้นยังคงมีอยู่เพียงแต่ ณ ปัจุบันยังไม่มีการหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงมากนักสำหรับข่าวสารล่าสุดในยุโรปคงเป็นในส่วนของไอซ์แลนด์ที่ได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดซึ่งก็ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อสกุลเงินยูโรให้อ่อนค่าลงอย่างนักภายหลังจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก อานิสงส์ของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของเฟด และถ้าหากในที่สุดแล้วปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปกลับมาอีกครั้งจริงๆก็จะยิ่งหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างที่นักลงทุนหลายท่านคาดไม่ถึงก็เป็นได้
ด้วยปัจจัยต่างๆทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นบวกกับปัจจัยทางเทคนิคที่ยังหนุนราคาทองคำอยู่ในขณะนี้ทำให้ทางวายแอลจียังคงแนะนำให้นักลงทุนระยะยาวยังคงถือครองทองคำต่อไปและเดินหน้าสะสมอย่างต่อเนื่องส่วนนักลงทุนระยะสั้นและระยะกลางให้เข้าเก็งกำไรตามแนวรับแนวต้านที่ทางวายแอลจีประเมินไว้โดยให้เน้นกลยุทธ์ทั้งแบบตั้งรับคือรอรับซื้อบริเวณแนวรับหรือกลยุทธ์เชิงรุกคือทำการ FOLLOW BUY หากราคาร BREAK OUT แนวต้านขึ้นไปสำหรับระยะนี้ทางวายแอลจีประเมินแนวรับแนวต้านไว้ดังนี้
แนวรับ 1,365 1,350 แนวต้าน 1,400 1,420
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวัน จันทร์, พุธ เวลา 14.00-16.00 น.และ วันเสาร์ เวลา 10.00-12.00 น. สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139