กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--ธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาต จัดทัพ พร้อมขึ้นแท่นแบงก์ใหญ่หลังควบรวมนครหลวงไทยดัน “ศุภเดช พูนพิพัฒน์” ขึ้น ประธานกรรมการบริหาร ตั้ง “สมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ” เป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ“แบรนดอน คิง” เป็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ธนาคารธนชาต ประกาศจัดทัพผู้บริหารใหม่ขึ้นยกแผง เตรียมความพร้อมเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจเชิงรุกและรองรับการขยายธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด “ศุภเดช พูนพิพัฒน์” คุมทัพหลวงดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหาร” “สมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ” ขึ้นเป็น “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) “ ธนาคารธนชาต และ “แบรนดอน คิง” เป็น “รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ธนาคารธนชาต พร้อมชูนโยบาย “ทำงานเป็นทีม” โดยมีเป้าหมายเป็นธนาคารชั้นนำระดับ Top Five ของประเทศ ที่มีสินทรัพย์เติบโตเป็น 1 ล้านล้านบาทใน ระยะ 3-5 ปีข้างหน้า
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจเชิงรุกและรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มธนชาตที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการควบรวมกับธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารธนชาตก็ได้เตรียมความพร้อมด้วยการผนึกกำลังกันเสริมทัพผู้บริหารคุณภาพขึ้นมายกแผง โดยตนเองในฐานะประธานกรรมการบริหารจะทำงานร่วมกับนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายแบรนดอน คิง ดำรงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในการวางทิศทาง นโยบาย และแนวทางการบริหารให้การควบรวมกิจการเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด ให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่าเรามีทั้งความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องเงินทุน โปร่งใส มีการบริการที่ยอดเยี่ยม ทั่วถึง และยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
“ในรอบ 2 — 3 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มธนชาตประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างสูง มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยังมีความสำเร็จจากการที่ธนาคารธนชาต เข้าซื้อหุ้นในธนาคารนครหลวงไทย ทำให้กลุ่มธนชาตมีสินทรัพย์โตขึ้นเป็น 845,251 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 และเนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจการธนาคารยังคงมีเพิ่มสูงขึ้นรวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ประกอบกับกลุ่มธนชาตมี นโยบายในการขยายตัวตามแผนธุรกิจที่มีการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเติบโตทันกระแส เราจึงต้องมีทีมบริหารที่มีความพร้อม มากด้วยประสบการณ์ เข้าใจลูกค้า เข้าใจตลาด สามารถกำหนดกลยุทธ์และแผนงานในทุกมิติด้วยกันทั้งกระบวน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นนี้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำพา “ธนชาต” ไปสู่การเป็นสถาบันการเงินชั้นนำ 5 อันดับแรกของประเทศที่มีทรัพย์สินขนาด 1 ล้านล้านบาทของประเทศได้” นายศุภเดช กล่าว
อนึ่ง นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ เป็นหนึ่งในผู้บริหารของกลุ่มธนชาตตั้งแต่ช่วงก่อตั้งในปี 2523 มีประสบการณ์ในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุนมามากกว่า 30 ปีรวมทั้งประสบการณ์การทำงานในภาครัฐในระหว่างปี 2545-2551 ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) รับผิดชอบการบริหารจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพของระบบสถาบันการเงินทั้งระบบมูลค่าทางบัญชีกว่า 775,000 ล้านบาท และ ตำแหน่งรักษาการ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ผลักดันนโยบายการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการในโครงการบ้าน กบข. โดยมีมูลค่าการเบิกเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยกว่า 25,000 ล้านบาทในเวลาการบริหารจัดการ 7 เดือน นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาคมบริษัทหลักทรัพย์อีกด้วย
สำหรับ Mr. Brendan King (นายแบรนดอน คิง) เป็นผู้บริหารจากสโกเทียแบงก์ ซึ่งได้เข้าร่วมงานกับสโกเทียแบงก์มาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยล่าสุดได้ดำรงตำแหน่ง Vice President และ Head of Greater China and Corporate Development, Asia เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการให้สโกเทียแบงก์เข้าถือหุ้นธนาคารธนชาตในสัดส่วนร้อยละ 24.99 ในปี 2550 และต่อมาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 49 ในปี 2552 และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการของธนาคารและทีมผู้บริหารในการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.24 ของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้นายแบรนดอนยังได้รับผิดชอบการลงทุนของสโกเทียแบงก์ในการขยายเครือข่ายของสโกเทียแบงก์ในประเทศจีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และประเทศอื่นในแถบเอเชียอีกด้วย
ในการร่วมงานกับธนาคารธนชาต นายแบรนดอนได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคารและกรรมการบริหารธนาคารตั้งแต่ปี 2550 และได้ร่วมทำงานมาด้วยดีกับผู้บริหารของธนาคารตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา