ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยใน 12 จังหวัด ภาคใต้ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2553

ข่าวทั่วไป Tuesday November 9, 2010 09:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด 121 อำเภอ 705 ตำบล 4,325 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 283,951 ครัวเรือน 1,000,345 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ชุมพร และระนอง สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย และนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า อิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ 12 จังหวัด 121 อำเภอ 705 ตำบล 4,325 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 283,951 ครัวเรือน 1,000,345 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย ดังนี้ สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ 101 ตำบล 781 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 108,927 ครัวเรือน 383,996 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา สะบ้าย้อย สะเดา หาดใหญ่ นาทวี คลองหอยโข่ง จะนะ รัตนภูมิ ควนเนียง บางกล่ำ สทิงพระ ระโนด สิงหนคร นาหม่อม เทพา และกระแสสินธุ์ สตูล น้ำท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 31 ตำบล 239 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 38,609 ครัวเรือน 154,222 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสตูล ควนกาหลง ท่าแพ ควนโดน มะนัง ละงู และทุ่งหว้า ตรัง น้ำท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ 5 เทศบาล 55 ตำบล 358 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 18,051 ครัวเรือน 52,156 คน ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง รัษฎา นาโยง ห้วยยอด ย่านตาขาว วังวิเศษ ปะเหลียน และกันตัง นราธิวาส น้ำท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ 62 ตำบล 197 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,703 ครัวเรือน 16,405 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ จะแนะ แว้ง รือเสาะ สุไหงโกลก ศรีสาคร ระแงะ สุไหงปาดี สุคิริน เจาะไอร้อง ตากใบ และยี่งอ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัย คลี่คลายแล้วทุกอำเภอ ยะลา น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 14 ตำบล 46 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 746 ครัวเรือน 3,497 คน ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา ยะหา กาบัง และกรงปินัง ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วทุกอำเภอ ปัตตานี น้ำท่วมพื้นที่ 12 อำเภอ 97 ตำบล 405 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 23,694 ครัวเรือน 95,305 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี โคกโพธิ์ แม่ลาน มายอ สายบุรี กระพ้อ ยะรัง หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ ไม้แก่น และทุ่งยางแดงปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วทุกอำเภอ พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ 64 ตำบล 670 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 29,442 ครัวเรือน 94,626 คน ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ป่าบอน กงหรา ตะโหมด ศรีบรรพต ควนขนุน ปากพะยูน ป่าพะยอม บางแก้ว และศรีนครินทร์ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วทุกอำเภอ สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมพื้นที่ 14 อำเภอ 72 ตำบล 152 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,253 ครัวเรือน 9,106 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พนม เคียนซา พุนพิน วิภาวดี เวียงสระ พระแสง ท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร ไชยา ดอนสัก บ้านตาขุน และบ้านนาเดิม นครศรีธรรมราช น้ำท่วมพื้นที่ 23 อำเภอ 161 ตำบล 1,183 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 44,924 ครัวเรือน 155,740 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หัวไทร ลานสกา สิชล พิปูน ขะอวด ขนอม นบพิตำ ร่อนพิบูลย์ จุฬาลงกรณ์ ทุ่งสง ท่าศาลา ถ้ำพรรณรา ช้างกลาง ปากพนัง พระพรหม พรหมคีรี ฉวาง บางขัน นาบอน ทุ่งใหญ่ เชียรใหญ่ และเฉลิมพระเกียรติ กระบี่ น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 12 ตำบล 19 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 332 ครัวเรือน 1,277 คน ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่ คลองท่อม เขาพนม และปลายพระยา ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วทุกอำเภอ ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 26 ตำบล 240 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 12,121 ครัวเรือน 33,475 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร ละแม พะโต๊ะ หลังสวน ทุ่งตะโก และสวี ระนอง น้ำท่วมในพื้นที่ ๓ อำเภอ 10 ตำบล 29 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 149 ครัวเรือน 540 คน ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง ละอุ่น และกะเปอร์ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัยจัดส่งเรือท้องแบน 161 ลำ รถกู้ภัยทุกชนิด 60 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 4 คัน ถุงยังชีพ 5,063 ชุด เต๊นท์ที่พักอาศัย 3,000 หลัง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง เสื้อชูชีพ 100 ตัว รถผลิตน้ำ 1 คัน เครื่องอุปโภคบริโภค 560 ชุด ผ้าห่ม 150 ชุด ข้าวกล่อง 360 กล่อง พร้อมเจ้าหน้าที่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ