กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--คอร์ แอนด์ พีค
เออาร์ไอพี ปิดท้าย คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010 อย่างสวยงาม ผ่านวิกฤตน้ำท่วมแบบมีลุ้น โค้งสุดท้ายปลายปีแฟนพันธุ์แท้ไอทีได้ของดี ราคาถูก ยอดขายกระฉูดประเดิมการจัดงาน 5 วัน เงินสะพัด 4,000ล้านบาท อานิสงค์ค่าเงินบาทแข็งส่งผล โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน ราคาถูกสุดในรอบปี อันดับหนึ่งขายดีที่สุด คือโน้ตบุ๊ก รองลงมาสมาร์ทโฟน อันดับสามเป็นของจอมอนิเตอร์ กระแสดีกว่าที่คาด ด้านแท็บเล็ตเปิดตัวได้ดีในงานยอดจองมาแรง มั่นใจปีหน้าตลาดนี้โตแน่นอน
นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010” ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งทางผู้จัดงานถือว่าประสบความสำเร็จในสถานการณ์บ้านเมืองเกิดภาวะอุทกภัยน้ำท่วมเช่นนี้ สามารถสร้างเม็ดเงินในงานสะพัดกว่า 4,000ล้านบาท ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นส่งผลให้ราคาเครื่องโน้ตบุ๊กและ สมาร์ทโฟนถูกลง ทำให้กระตุ้นยอดซื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโน้ตบุ๊กเพิ่มขึ้น 25-30% ประกอบกับเป็นช่วงเปิดภาคเรียนจึงมีนักเรียน นักศึกษา จำนวนมากมาซื้อโน้ตบุ๊กเพื่อใช้ประกอบการเรียน ส่งผลให้ครั้งนี้ยอดขายปริ้นเตอร์มาแรงเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ควบคู่ไปกับโน้ตบุ๊ก รวมทั้งกระแสนิยมสมาร์ทโฟนที่มีแอพพลิเคชันเพิ่มมากขึ้นจึงผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“’งานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010 ครั้งนี้ ถือว่าปิดท้ายงานไอทีที่ยิ่งใหญ่แห่งปีอย่างสวยงาม ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งถือว่าเป็นงานคอมพิวเตอร์แห่งปีที่มีแต่ของดี ราคาถูก ตอบโจทย์ผู้บริโภค และเวนเดอร์ ที่งัดกลยุทธ์โปรโมชัน แบบทิ้งทวนปลายปีกันสุดๆ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กยังครองความนิยมเช่นเคย ส่วนสมาร์ทโฟน ครั้งนี้ถือว่ายอดขายเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเออาร์ไอพีได้เพิ่มโซน “Smartphone pavilion” ทำให้กลุ่มลูกค้ามีโอกาสได้เลือกชมและเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่าย รวมทั้งสามารถจองมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดในงาน และราคาพิเศษที่นำมาลดราคา ผ่อน 0% พร้อมของแถมอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนกระแสนิยมของแท็บเล็ต ที่มีผู้สนใจมากนั้น เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนเครื่องในการขายภายในงาน แต่เป็นที่น่าพอใจสำหรับการเปิดตัวครั้งแรก เชื่อว่าภายในปีหน้ากระแสแท็บเล็ตต้องมาแรงอย่างแน่นอน ซึ่งในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ได้มีการเปิดจองและวางจำหน่ายแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่างโตชิบา AS 100 , Samsung Galaxy Tab และ Dell Steak ต่างมียอดจองเข้ามาจำนวนมาก คาดว่าภายในปีหน้าจะมีบริษัทไอทีเปิดตัวจำหน่ายแท็บเล็ตอีกหลายบริษัท”
ลำดับสินค้าที่ขายดีที่สุดอันดับหนึ่งคือโน้ตบุ๊ก ที่ยังเป็นพระเอกในงานเช่นเคย ซึ่งยอดขายรวมทั้งงาน2,500 ล้านบาท รองลงมาสมาร์ทโฟนยอดขาย488 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่ต้องจองในงานอย่าง ไอโฟน 4 ส่วนอันดับสาม จอมอนิเตอร์ 220ล้านบาท นอกจากนี้ พวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็ขายดีเช่นกัน
นายปฐมกล่าวว่า เออาร์ไอพี พอใจกับภาพรวมการจัดงานคอมมาร์ตครั้งนี้ ที่ตอบสนองลูกค้าจัดงานถึง 5 วัน และภายในปีหน้าทางคณะผู้จัดงาน จะจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2011 ถึง 5 วันเช่นกันเนื่องจากพบว่าผู้เข้าชมงานพอใจกับการขยายวัน โดยเฉพาะวันแรกมีผู้เข้าชมงานจำนวนมาก ซึ่งผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80-90% ตั้งใจจะมาซื้อสินค้าโดยเฉพาะ และซื้อสินค้ามากกว่า 1 รายการ โดยจะศึกษาข้อมูลสินค้าเบื้องต้นมาก่อนแล้วผ่านเว็ปไซต์ต่างๆ ซึ่งในปีหน้าทางคอมมาร์ต มีแผนการตลาดเพิ่มยอดขายสินค้าในแต่ละวันให้มากขึ้น อาทิ วันแรกมีโปรโมชันสำหรับสมาร์ทโฟน วันที่สองมีโปรโมชันสำหรับโน้ตบุ๊ก เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมเวิร์คชอป และสัมมนาเสริมความรู้ภายในงาน คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010 ครั้งนี้ตอบโจทย์กระแสนิยมสมาร์ทโฟน “ปะฉะดะ iPhone Vs Black Berry Vs Window Phone7 ใครเจ๋งสุดงานนี้ได้รู้กัน” ซึ่งจะพบข้อดีข้อเสียของเหล่าสมาร์ทโฟนเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเต็มทุกหัวข้อ ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากระแสความต้องการสมาร์ทโฟนเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากและแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสสังคมโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กในโลกมือถือบวกออนไลน์
นายปฐม กล่าวต่อว่า การจัดงาน คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010 นี้ ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้ม และกระแสความต้องการใช้งานไอทีในปีหน้า ที่ตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะมาแรง ทั้งในการใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนในองค์กร บริษัทห้างร้านต่างๆ ด้วยขนาดและประโยชน์ใช้สอยที่สะดวกกว่า อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีไอทีก็ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างปฏิเสธไม่ได้ รวมถึงผู้บริโภคทั่วไปก็จำเป็นต้องใช้ไอทีในชีวิตประจำวันและเทคโนโลยีก็มีการเปลี่ยนแปลง อัพเกรดตลอดเวลา
ดังนั้นทิศทางของการจัดงาน คอมมาร์ตในปี 2011 ครั้งต่อไป เออาร์ไอพี ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอการจัดงาน คอมมาร์ตอย่างต่อเนื่อง จะเน้นในลักษณะที่ให้ความรู้ การใช้งานในแต่ละสินค้าการบริการต่างๆ ที่ครบวงจร ผู้เข้าชมงานจะได้หลายอย่างกลับไปทั้งสินค้า ความรู้และได้ลุ้นโชค โดยยึดมั่นในหลักการที่ต้องการให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า และให้การรับรู้ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยจะเดินหน้าร่วมกับพันธมิตรจัดงานคอมมาร์ตต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวม 4 งาน ได้แก่ งานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ,คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011, งานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ มาร์ท (ซีมาร์ท) งานมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ (ภาพและเสียง) และ คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2011 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.commartthailand.com
ทั้งนี้ สินค้าขายดีในงาน คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010 มีรายละเอียดดังนี้
No. Category Commart Comtech Thailand 2010
1 Notebook 2,504,033,400
2 Smartphone 488,503,650
3 Monitor / LCD TV 219,850,400
4 Digital Camera 207,562,340
5 Accessory 203,650,000
6 Desktop Computer 154,603,000
7 Printer 134,578,600
8 External Harddisk / Storage 90,708,897
9 Software 42,390,000
10 Air Card 10,905,798
11 Memory + RAM 7,034,385
12 Flash Drive 5,993,198
13 อื่นๆ 32,678,500
TOTAL SALES 4102492168
ตารางการจัดงานคอมมาร์ตในปี 2011
คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ มาร์ท 2011 (ซีมาร์ท) ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คอมมาร์ต์ คอมเทค ไทยแลนด์ 2011 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณธนิษฐา วิทยานนท์ (ปุ๊ก) ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด02-439-4600 ต่อ 8302 อีเมล์ : tanithav@corepeak.com