กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
มร.ไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างมาก ทั้งในด้านการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ รวมถึงต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากนั้น กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและได้กำหนดนโยบายให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันของบริษัทฯ ที่มีภูมิลำเนาตามที่แจ้งไว้ในกรมธรรม์ ที่ประสบอุทกภัยในเขตจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์เพชรบูรณ์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี จันทบุรีตราด สระแก้ว นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ หนองบัวลำภูกาฬสินธ์ มหาสารคาม สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่นๆที่บริษัทฯมีประกาศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งผู้เอาประกัน ประชาชนทั่วไปและบุคลากรฝ่ายขาย โดยเริ่มจากผู้เอาประกันของบริษัท ดังนี้
สำหรับผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมที่กรมธรรม์ครบกำหนดชำระเบี้ยประกัน ระหว่างเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 2553 บริษัทฯ เพิ่มระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันกรมธรรม์รายสามัญ เพิ่มระยะเวลาผ่อนผันจากเดิม 31 วัน เป็น 91 วัน ซึ่งกรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยประกันในช่วงระยะเวลาผ่อนผันดังกล่าวถือว่ากรมธรรม์มีผลบังคับ สามารถใช้สิทธิ์เคลมสินไหมได้ตามปกติทันทีที่จ่ายเบี้ยประกันในช่วงระยะเวลา 91 วันดังกล่าว สำหรับกรมธรรม์ขาดอายุในช่วงเดือนตุลาคม กับ พฤศจิกายน ลูกค้าสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้ทันทีภายในระยะเวลา 6 เดือน หลังกรมธรรม์ขาดอายุ โดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยและตรวจสุขภาพใดๆ ลูกค้าผู้เอาประกันสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2689-4800
ทั้งนี้บริษัทฯได้มอบความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยทำการบริจาคเงินผ่านรายการร่วมมือร่วมใจ สถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อเร็วๆนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมแผนกสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์
บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด+66-2770-9029
อีเมล์: sukanya.isa@krungthai-axa.co.th