กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--กยศ.
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมมือกับสำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม จัดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดีปีงบประมาณ 2554 ให้โอกาสสุดท้ายสำหรับผู้กู้ที่ค้างชำระหนี้และกำลังจะถูกดำเนินคดีกว่า 167,000 ราย เข้าเจรจาขอไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2553 — เมษายน 2554 เพื่อลดปริมาณคดีสู่ศาล และลดค่าใช้จ่ายติดตามหนี้
รศ. นพ. ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนฯ เปิดเผยในงานแถลงข่าวโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดีปีงบประมาณ 2554 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมดิ เอมเมอรัล เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ว่า กองทุนฯ ได้ร่วมมือกับสำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลแขวง และศาลจังหวัดต่างๆ จัดให้มีโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องคดีฯ ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2553-22 เมษายน 2554 ใน 27 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้เกิน 5 งวดขึ้นไป หรือผู้ค้ำประกัน ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีในปี 2554 กลับเข้าสู่กระบวนการชำระหนี้ โดยไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่เสียค่าธรรมเนียมศาล รวมถึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นในการเข้าร่วมโครงการ
กองทุนฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการผ่อนชำระหนี้คืนสำหรับการเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยฯ 2 กรณี คือ ทำคำรับรองขอชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมด หรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาล ผู้กู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความผ่อนชำระหนี้เป็นรายเดือน จะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 50 และถ้าผู้กู้ตกลงทำคำรับรองชำระหนี้ทั้งหมดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2554 จะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 80 แต่หากผู้กู้ยืมไม่มาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยฯ ผู้กู้จะไม่ได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ ไม่ว่าในกรณีใด เว้นแต่ศาลจะใช้ดุลพินิจลดให้
สำหรับข้อมูลกลุ่มผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ 5 งวดขึ้นไป มีจำนวนทั้งสิ้น 167,694 ราย เป็นมูลหนี้ที่ค้างชำระ 16,696,434,329.69 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 61,268 ราย มีมูลหนี้ค้างชำระ 4,991 ล้านบาท ภาคเหนือ 19,057 ราย มีมูลหนี้ค้างชำระ 2,072 ล้านบาท ภาคกลาง 42,672 ราย มีมูลหนี้ค้างชำระ 4,555 ล้านบาท ภาคใต้ 27,628 ราย มีมูลหนี้ค้างชำระ 3,325 ล้านบาท ภาคตะวันตก 6,660 ราย มีมูลหนี้ค้างชำระ 682 ล้านบาท ภาคตะวันออก 10,247 ราย มีมูลหนี้ที่ค้างชำระ 1,057 ล้านบาท และภาคอื่นๆ (ไม่พบที่อยู่และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ) 162 ราย มีมูลหนี้ที่ค้างชำระ 11 ล้านบาท ซึ่งหากมีการนำคดีดังกล่าวยื่นฟ้องต่อศาล จะทำให้กองทุนฯ ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่ถ้าได้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนดำเนินคดี จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีไปได้มากเช่นกัน
กองทุนฯ จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมกลุ่มดังกล่าวให้มาร่วมโครงการไกล่เกลี่ยฯ เพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ผู้กู้ยืมสามารถเข้าร่วมโครงการที่จัดขึ้นในจังหวัดใดก็ได้ที่สะดวกในการเดินทาง โดยจังหวัดแรกที่จัดโครงการดังกล่าว คือจังหวัดนครราชสีมา ระว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2553 ณ ศาลจังหวัดนครราชสีมานอกจากนั้นในปีนี้กองทุนฯ ยังเปิดสำนักงานกองทุนฯ ให้เป็นที่เจรจาไกล่เกลี่ยฯ ตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2553-22 เมษายน 2554 อีกด้วย ผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถตรวจสอบวัน เวลา สถานที่ รายละเอียดกำหนดการของแต่ละจังหวัด รวมถึงเงื่อนไขหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการได้ทาง www.studentloan.or.th หรือ โทร. 02-610 4888 ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด