ซีพีเอฟทำกำไรทะลุเป้า 9 เดือน 11,511ล้านบาท โต 42% จากปีที่แล้ว ยังไม่พิจารณาการขายหุ้นซื้อคืน

ข่าวทั่วไป Thursday November 11, 2010 08:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--ซีพีเอฟ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กลุ่มบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกปี 2553 ด้วยยอดขายรวมจำนวน 141,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปี 2552 และมีกำไรสุทธิจำนวน 11,511 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 42% เกินจากเป้าหมายที่ได้ตั้งใจไว้ จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกิจการในต่างประเทศ กิจการในต่างประเทศของกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย อินเดีย และตุรกี เป็นส่วนงานที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งยอดขายและอัตราการทำกำไรจากปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายจากกิจการต่างประเทศในส่วนนี้คิดเป็น 27% ของยอดขายรวม และคาดว่ายังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในปีหน้าด้วย โดยซีพีเอฟได้มีแผนการขยายการลงทุนในประเทศต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวางแผนขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวถึงกิจการในต่างประเทศว่า เป็นการลงทุนขยายงานเพื่อเสริมการเติบโตของซีพีเอฟในอนาคต ประเทศต่างๆเหล่านี้ยังคงมีศักยภาพในการขยายตัวของการเลี้ยงสัตว์อีกมาก จากจำนวนประชากรและอัตราการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ยังคงมีอัตราที่ต่ำมาก และยังเชื่อว่ากิจการในต่างประเทศนี้น่าจะยังคงขยายตัวได้ประมาณ 20% ต่อปี สำหรับกิจการในประเทศไทยนั้น ธุรกิจกุ้งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการส่งออกกุ้งไทยยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดโลก นอกจากนั้นบริษัทได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ในรอบ 9 เดือนปี 2553 ลดน้อยลงจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 11% และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 773 ล้านบาท อันเป็นผลจากการบริหารจัดการด้านเงินตราต่างประเทศ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นที่ผ่านมานั้น ย่อมทำให้ผู้ส่งออกเสียโอกาส แต่ซีพีเอฟได้พยายามเจรจาต่อรองกับคู่ค้าเพื่อปรับราคาขายสินค้า ทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในระยะที่ผ่านมา นายอดิเรกมั่นใจว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่มุ่งไปสู่ธุรกิจอาหาร และการขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับการให้ความสำคัญเรื่องการกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบในสังคม จะส่งผลให้บริษัทสามารถมีการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต และสามารถมีผลตอบแทนคืนให้กับผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง โดยในปี 2553 นี้มั่นใจยอดขายทะลุเป้าหมาย 180,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้เดิมแน่นอน พร้อมคาดการณ์ปี 2554 ซีพีเอฟจะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% และเห็นโอกาสในการสร้างกำไรในระดับที่ดีต่อเนื่องจากปีนี้ สำหรับเรื่องหุ้นซื้อคืนของบริษัทนั้น คณะกรรมการบริษัทยังไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากยังคงมีระยะเวลาตามกฎหมายเหลืออีกประมาณ 15 เดือนก่อนที่จะต้องลดทุนในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม นายอดิเรกได้ให้ความเห็นว่า การขายหุ้นที่ซื้อคืนกลับไปในตลาด หรือ การลดทุน ต่างก็มีประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ปัจจัยในการพิจารณาอยู่ที่การบริหารเงินสดประกอบกับความต้องการเงินทุนของบริษัทเป็นสำคัญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF โทร. 02-625-7343-5, 02-631-0641, 02-638-2713 E-mail : pr@cpf.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ