กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--IR PLUS
HTECH สุดเจ๋ง โชว์กำไรไตรมาส 3/2553 กระฉูด ส่งผลกวาดกำไร 9 เดือนแรกปีนี้พุ่งกว่าร้อยละ 85.07 แตะ77.82 ล้านบาท เหตุธุรกิจแกร่ง ยอดขายฟื้นตัวจากอุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัว ไม่หยุดยั้ง 'พีท ริมชลา' ระบุเดินหน้ารุกธุรกิจยานยนต์มากขึ้น หลังตลาดบูมหวังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม มั่นใจผลประกอบการปี 2553 เป็นไปตามเป้าหมาย รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า50% จากปี 2552 ที่มีรายได้ 245.33 ล้านบาท
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต รับจ้างผลิต และจำหน่ายเครื่องมือที่ใช้ในการตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) เพื่อรองรับงาน ด้านอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 3 ปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 99.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 73.84 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 25.54 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.58 ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 25.57 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.11 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 22.85 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 2.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.90
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 บริษัทฯ มีรายได้รวม282.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 163.83 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 118.51 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.33 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 77.82 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.33 บาทเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.05 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.20 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 35.77 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.07
สำหรับปัจจัยที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในงวดดังกล่าว มาจากยอดขายเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของบริษัท ประกอบกับต้นทุนการขายลดลง เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับยอดขาย เนื่องจากในไตรมาส3 /2552 ต้นทุนอยู่ในระดับสูง จากที่ไม่สามารถลดต้นทุนคงที่ เช่น ค่าเสื่อมราคาได้ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 3/2553 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 40.89 ในไตรมาส 3 ปี 2552 เป็นร้อยละ 43.27 ในไตรมาส 3 ปี 2553 หรือมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.38
นายพีท กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 /2553 ว่า มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3 เนื่องจากธุรกิจขยายตัวโดดเด่นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เติบโตแบบมีนัยสำคัญจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เตรียมขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ลูกค้าในอุตสาหกรรมดังกล่าวมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งล่าสุด บริษัทฯได้ส่งแบบตัวอย่างผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์ให้ลูกค้าทดลองใช้บริการหลายราย และมีผลตอบรับที่ดี ส่งผลให้ขณะนี้ เริ่มมีคำสั่งซื้อในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว และคาดว่าภายในไตรมาส4 ปี 2553 น่าจะมีสัดส่วนลูกค้าจากอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการปี 2553 จะเป็นไปตามเป้าหมาย รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ50 จากปี 2552 ที่มีรายได้ 245.33 ล้านบาท ขณะเดียวกันคาดว่าจะรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ไว้ที่ประมาณร้อยละ 26 ได้สำเร็จ จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
เขายังกล่าวด้วยว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ ในปีหน้า ยังขยายตัวต่อเนื่อง ตามความต้องการของอุตสาหกรรมที่เติบโตทั้งธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จากการเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์อุตสาหกรรมพบว่ามีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทฯ ต้องเพิ่มความสนใจและหันมาลงทุนในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ และ อุตสาหกรรมเครื่องกลหนักมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นอย่างดี
สำหรับในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยบริษัทฯ ได้วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ลงสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้สินค้าปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเฉือนโลหะให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ HARD DISK DRIVE (HDD) โดยได้ทดลองทำต้นแบบสินค้า และเริ่มวางตลาดแล้วในบางผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการพัฒนาดังกล่าวพร้อมจำหน่ายเป็นทางการในช่วงไตรมาส 1ปี 2554.และจะรับรู้รายได้อย่างชัดเจนในปี 2554 ซึ่งจะสะท้อนให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS
คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549396
E-mail : phapada@irplus.in.th