กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--มูลนิธิโลจิสติกส์และการขนส่ง
เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศต่างๆ พยายามที่จะเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการขนส่ง ประเทศไทย ก็เช่นเดียวกัน ที่ต้องการเป็นศูนย์กลางทางด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชีย และด้วยความพร้อมของพื้นที่ ที่มีอาณาเขตเชื่อมต่อได้หลายประเทศ จึงทำให้รัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ในภูมิภาค” เพื่อที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในอนาคตได้
การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนและการจัดการโลจิสติกส์และการขนส่งอย่างบูรณาการทั้งระบบ จึงมีความสำคัญ ด้วยกระแสที่เกิดขึ้นส่งผลให้หลายมหาวิทยาลัยได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับหลักสูตรโลจิสติกส์เฉพาะทางขึ้น และหนึ่งในนั้น คือ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มีการพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านแรงงานอย่างแท้จริง
อาจารย์ชานนท์ โรจน์วิรัตน์ ผู้อำนวยการและกรรมการมูลนิธิโลจิสติกส์ และการขนส่ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ระบบโลจิสติกส์ ในประเทศไทยนับว่าเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาไปสู่การศูนย์กลางทางการค้าและการขนส่ง เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเขตพื้นที่อยูระหว่างกลางที่มีอาณาเขตเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อบ้านในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ลาว เขมร หรือ เวียดนาม ซึ่งหากมีการเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ ในการพัฒนาการขนส่งทางเรือ หรือ รถไฟ จะส่งผลให้มีการขยายเขตการเชื่อมต่อผ่านไปยังจีน และอินเดีย ได้
ดังนั้นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพนับว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะสามารถลดต้นทุนทางโลจิสติกส์และการจัดการโลจิสติกส์และการขนส่งอย่างบูรณาการทั้งระบบ ดังนั้นผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องมีความเข้าใจถึงแนวโน้มของสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อนำการจัดการโลจิสติกส์มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะสามารถสร้างให้องค์กรธุรกิจและประเทศเกิดความได้เปรียบในระยะยาว
และด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงได้ร่วมกับมูลนิธิโลจิสติกส์และการขนส่ง (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมจัดทำโครงการ “หลักสูตรอบรมระดับสากลเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์” เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนที่ต้องการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ไทยให้ก้าวไปแข่งขันกับนานาประเทศได้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจนำเข้าและส่งออกของประเทศขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นและก้าวสู่ระบบโลจิสติกส์มาตรฐานระดับสากล เพื่อการพัฒนาศักยภาพทางด้านบุคลากรเป็นสำคัญ
อาจารย์ชานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเรียนในหลักสูตรนี้ เป็นการเรียนหลักสูตรวุฒิบัตรวิชาชีพ หรือ The CLIT Certificate in logistics and transport ที่ใช้เวลาในการเรียนเพียง 3 เดือนเท่านั้น โดยผู้เรียนจะรับความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงาน เพราะทางมหาวิทยาลัยได้เชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญและปฎิบัติงานในด้านโลจิสติกส์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านระบบซอฟต์แวร์ มาถ่ายทอดความรู้ พร้อมกับการศึกษาดูงานในสถานที่จริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน)
สำหรับวุฒิบัตร หรือ The CLIT Certificate in logistics and transport ที่ผู้เรียนได้รับนั้น มี 2 ทางเลือก คือผู้เรียนที่เข้าเรียนครบตามจำนวนเวลาที่กำหนดได้รับวุฒิบัตร CLIT ที่ออกโดยประเทศไทย ซึ่งเหมาะสมกับผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของกิจการที่ต้องการพัฒนาความรู้ สำหรับทางเลือกที่ 2 นั้น ผู้เรียนสามารถสอบเพื่อรับวุฒิบัตร CLIT ที่ออกโดยประเทศอังกฤษ ซึ่งจะต้องผ่านการสอบเพื่อวัดความรู้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับผู้ที่ทำงานในสายงานด้านโลจิสติกส์ ที่ต้องการทำงานในต่างประเทศ เพราะวุฒิบัตรนี้ได้รับการยอมรับจาก จาก 22 ประเทศทั่วโลก
การเรียนในหลักสูตรนี้ไม่ได้จำกัด ว่าผู้เรียนจะต้องมีพื้นฐานความรู้ฉพาะด้านมาก่อน แต่หากเป็นกลุ่มผู้บริหาร , กลุ่มผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ทำงานด้านโลจิสติกส์ จะได้รับความรู้อย่างมาก หรือแม้แต่ผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ารับการอบรมได้ ซึ่งสามารถนความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการทำธุรกิจได้ในอนาคต
หลักสูตรอบรมระดับสากลเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดกลางสามารถที่จะมาศึกษาความรู้เพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาธุรกิจได้ และตอบสนองด้านตลาดแรงงานอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ารับการอบรม สอบถามข้อมูลติดต่อ ศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โทร.0-2940-1532 กด 1,2 และ 0-2579-1111 ต่อ 2292-3 เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ — วันที่ 25 สิงหาคม 2550 นี้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net