กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--ไอบีเอ็ม
บทความ
เคล็ดลับ 5 ข้อสำหรับบริษัทที่ต้องการสนับสนุนเงินทุนแก่โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมในปี 2007
โดย เตียว บี คิม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ IBM Global Financing ประจำภูมิภาคอาเซียน/เอเชียใต้
ถึงเวลาอีกครั้งที่บริษัทต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จะต้องพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์ในการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายและการจัดหาเงินทุนสนับสนุนโครงการขยายกิจการสำหรับช่วงปีนี้ โดยมากแล้วกิจกรรมทั้งสองส่วนนี้มักจะเกี่ยวข้องกัน เพราะเงินที่ประหยัดได้จากการจัดการโครงสร้างต้นทุนของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถนำไปใช้กับโครงการใหม่ๆ สำหรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและธุรกิจ แซม พาลมิซาโน่ ประธานและซีอีโอของไอบีเอ็ม สรุปว่า "ซีอีโอจำเป็นที่จะต้องผลักดันการเติบโตและลดค่าใช้จ่ายในขณะเดียวกัน ผมรู้ว่ามีวิธีเดียวที่เราจะสามารถทำอย่างนั้นได้ นั่นก็คือสิ่งที่เราเรียกว่านวัตกรรม”
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้บริหารระดับสูงจำนวนมาก การสร้างสรรค์นวัตกรรมอาจเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำได้ยาก แม้ว่าการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาจเป็นปัจจัยที่เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็คือ องค์กรต่างๆ มักจะขาดแคลนเงินทุนสำหรับสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมดังกล่าว เมื่อไม่นานมานี้ ไอบีเอ็มได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอ 765 คนทั่วโลก และพบว่างบประมาณการลงทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับที่สองสำหรับการกระตุ้นนวัตกรรม และสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ปัญหาท้าทายดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เพราะองค์กรเหล่านี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากกว่า
ดร. คาร์โลต้า เปเรซ นักวิชาการของเวเนซูเอล่า ระบุไว้ในหนังสือ Technological Revolutions and Financial Capital ว่า “การจัดหาเงินทุนนับเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี” ดังนั้นในการสำรวจตรวจสอบแผนการต่างๆ สำหรับปี 2007 ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) จึงควรพิจารณาแหล่งเงินทุนจากบริษัทที่เชื่อถือได้ซึ่งมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่บริษัทต่างๆ จะสามารถจัดหาเงินทุนสนับสนุนโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมในปี 2007:
1. สำหรับโครงการปรับเปลี่ยนขนาดใหญ่ในปี 2007 ให้ปรับค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการมีผลิตภัณฑ์และบริการมากมายในตลาดที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ มีวิธีที่ยืดหยุ่น จัดการได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็น ให้ลองตรวจสอบทั้งการจัดหาเงินทุนทางด้านไอทีและด้านอื่นๆ ในการสนับสนุนโซลูชั่นทางธุรกิจที่ทำให้คุณและคู่ค้าของคุณสามารถจัดหาเงินทุนสนับสนุนนวัตกรรมได้ดีขึ้น การเช่าซื้อและการกู้ยืมทั่วไปอาจช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นโครงการที่ซับซ้อนได้เร็วขึ้น โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นในจำนวนที่น้อยกว่า และมีการจ่ายเงินลงทุนเพิ่มเติมเป็นงวดๆ ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการ วิธีนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถก้าวนำหน้าคู่แข่ง รวมทั้งจัดการโครงสร้างต้นทุนได้อย่างเหมาะสมเพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า บริษัทที่ต้องการโซลูชั่นดังกล่าวควรมองหาบริษัทเงินทุนที่เสนอ:
- อัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจและค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้
- บริการเงินทุนแบบครบวงจรสำหรับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการทั้งหมด
- อนุมัติเร็ว
- ผลิตภัณฑ์และบริการที่ยืดหยุ่น สามารถตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกิจแบบออนดีมานด์ (on demand) ได้อย่างลงตัว
- คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการสนับสนุนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ และมีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก
2. ปลดปล่อยเงินทุนหมุนเวียนที่ผูกติดอยู่ในระบบ โดยอาศัยเงินกู้ การจัดหาเงินทุนสำหรับลูกหนี้/เจ้าหนี้การค้าและสินค้าคงคลัง
การให้กู้ยืมเงินโดยพิจารณาจากงบดุล, การจัดหาเงินโดยบัญชีลูกหนี้การค้า, เงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา และการจัดเงินทุนสำหรับสินค้าคงคลังและการจัดซื้อสินทรัพย์ จะช่วยให้ลูกค้าที่มีเครดิตเหมาะสมสามารถปลดปล่อยเงินทุนหมุนเวียนที่ถูกกักเก็บไว้ภายในโครงสร้างธุรกิจ โดยเงินทุนดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ รักษาเงินทุน และรองรับเป้าหมายการเติบโตและกำไร นอกจากนั้น บริษัทต่างๆ ควรพิจารณาทางเลือกที่ครอบคลุมเครื่องมือแบบออนไลน์สำหรับการตรวจสอบวงเงินสินเชื่อ การติดตามวันที่ชำระเงิน การเรียกดูใบแจ้งหนี้ การร้องขอเลขที่อนุมัติและการคาดการณ์บัญชีลูกหนี้การค้า ความสามารถเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้บริษัทรักษาความเรียบง่ายและความสามารถในการควบคุมได้ตลอดกระบวนการ
3. ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่
การทำข้อตกลง “การขายและเช่ากลับ” (sale leaseback) ร่วมกับบริษัทเงินทุนด้านไอทีที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้บริษัทสามารถขายสินทรัพย์ด้านไอทีที่มีอยู่ตามราคาตลาด แล้วเช่าสินทรัพย์ดังกล่าวโดยจ่ายเงินรายเดือนอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่ยืดหยุ่น เงินสดที่ได้รับจากขายและเช่ากลับนี้จะสามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนสนับสนุนในส่วนอื่นๆ ตั้งแต่การจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ไปจนถึงโครงการสำคัญๆ สำหรับการปรับเปลี่ยนธุรกิจ นอกจากนี้ลูกค้าจะได้รับประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยีจากการซื้อและเช่ากลับ ตัวอย่างเช่น:
- อัดฉีดเงินสดและเพิ่มสภาพคล่อง: เงินสดที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์จะสามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนสนับสนุนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หรือจ่ายหนี้ที่ค้างชำระ
- ปรับปรุงผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Assets - ROA) โดยลดมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์
- ปรับปรุงอัตราส่วนหนี้สิน (หนี้สินทั้งหมด / สินทรัพย์ทั้งหมด) โดยลดมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ และชำระหนี้โดยใช้เงินสดที่ถูกอัดฉีด
- ลดความเสี่ยงจากเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและการกำจัดฮาร์ดแวร์
- ป้องกันความเสียหายในกรณีที่เทคโนโลยีมีอายุการใช้งานสั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก
- ปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยอาศัยการเช่าซื้อ
4. พัฒนากลยุทธ์การกำจัดสินทรัพย์ด้านไอทีและใช้ประโยชน์จากโครงการขายต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าของคู่ค้าระดับโลกที่เชื่อถือได้
บริษัทส่วนใหญ่จะต้องประหลาดใจเมื่อรับทราบถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ล้าสมัยที่เก็บไว้ในห้องสตอเรจ ยิ่งกว่านั้นยังมีความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับการเปิดเผยข้อมูลลับที่อาจหลงเหลืออยู่ในอุปกรณ์ดังกล่าว กลยุทธ์การกำจัดสินทรัพย์ด้านไอทีอย่างครบวงจร พร้อมด้วยเครือข่ายที่มั่นคงสำหรับการขายต่ออุปกรณ์ไอที จะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจในระดับที่น่าพอใจ การขายคืนอุปกรณ์รุ่นเก่าช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทั้งนี้ หากดำเนินการอย่างเหมาะสม บริษัทต่างๆ จะสามารถขจัดปัญหาเรื่องการกำจัดอุปกรณ์ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการกำจัดอุปกรณ์ไอทีที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถกำจัดอุปกรณ์ในลักษณะที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยบริการเขียนทับข้อมูลอย่างปลอดภัย
5.พิจารณาบริษัทเงินทุนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อช่วยให้คุณสามารถบริหารสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
คุณคงไม่อยากให้บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจปศุสัตว์มาจัดการดูแลเรื่องการเช่าซื้อและการกู้ยืมสำหรับธุรกิจสายการบินของคุณ กรณีของเทคโนโลยีก็ไม่ได้ต่างไปจากนี้ เพราะบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับไอทีย่อมจะตระหนักถึงมูลค่าที่เหลืออยู่ของอุปกรณ์ของคุณ รวมถึงค่าใช้จ่ายระยะสั้นและระยะยาวเมื่อเทียบกับคุณประโยชน์ของโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี และวงจรการขายที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนของผู้จำหน่ายสินค้าไอที ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจทางเลือกต่างๆ ที่มีคุณมีอยู่ และเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่เหมาะสมสำหรับประเภทของสินทรัพย์ที่คุณมีอยู่
ผู้เขียนบทความ
เตียว บี คิม ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ IBM Global Financing (IGF) ประจำภูมิภาคอาเซียน/เอเชียใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเงินทุนของไอบีเอ็ม และเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการจัดหาเงินทุนแบบครบวงจรสำหรับผลิตภัณฑ์ไอทีจากผู้ผลิตหลายราย IGF มีสินทรัพย์ทั่วโลก 31,000 ล้านดอลลาร์ โดยจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ เงินทุนสำหรับธุรกิจ และบริการฟื้นฟูสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ 125,000 รายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ที่ http://www-03.ibm.com/financing/us/
ข้อมูลเพิ่มเติม : ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ โทร. 02 2734306 email:chujit@th.ibm.com