กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กบข.
กบข. เผยวิสัยทัศน์ในอนาคต มุ่งยกระดับชั้นการบริหารงานสู่ World Class Pension Organization
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กบข. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจากนี้ไป กบข. จะยกระดับตัวเองขึ้นเทียบชั้นกองทุนบำเหน็จบำนาญหรือเพนชั่นฟันด์ในต่างประเทศ โดยมีการนำหลักการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงของเพนชั่นฟันด์เหล่านี้มาใช้พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์กับสมาชิกข้าราชการ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ หากจะเปรียบเทียบกับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศแล้ว การบริหารเงินลงทุนของ กบข. จะมีโมเดลลักษณะคล้ายกับกองทุน California Public Employees' Retirement System (CalPERS) หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวให้กับสมาชิก ซึ่งเป็นโมเดลการบริหารเงินออมให้แก่ข้าราชการเพื่อการเกษียณ ควบคู่ไปกับการมีธรรมภิบาลในการลงทุนที่มีความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลที่ดี ขณะที่รูปแบบการบริหารเงินลงทุนของ GIC(Government of Singapore Investment Corporation) ค่อนข้างแตกต่างจาก กบข. เพราะรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายการลงทุน
และที่สำคัญ “วัตถุประสงค์สำคัญในการบริหารงานของเราคือ การสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวให้กับสมาชิก และ กบข. เองถือเป็นกองทุนขนาดใหญ่ในเอเชีย ที่มีความหลากหลายในการลงทุน โดยนับจากนี้ กบข. ได้กำหนดแผนแม่บทและวิสัยทัศน์เป็นองค์กรบริหารเงินบำนาญในระดับสากลหรือ World Class Pension Organization ” นายวิสิฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ศักยภาพของ กบข. ในสายตาของกองทุนในประเทศและกองทุนต่างประเทศเป็นที่ยอมรับมานาน จนประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศติดต่อขอศึกษาดูงาน อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และบรูไน รวมทั้งธนาคารโลกได้ประสานงานนำคณะผู้แทนจากภูฏาน และศรีลังกามาเยี่ยมชมดูงานระบบต่างๆ ของ กบข.
ทั้งนี้ สินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ กบข. ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 3.5 แสนล้านบาท และน่าจะปรับระดับขึ้นแตะระดับใกล้เคียง 4 แสนล้านบาทได้ภายในปี 2552 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข.
โทร. 1179 กด 6
member@gpf.or.th / www.gpf.or.th