กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--โฟร์ฮันเดรท
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าในไตรมาสที่ 3 การแบ่งปันกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ที่แสดงในงบกำไรขาดทุนรวม อยู่ที่ 582 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2.53 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรอยู่ที่ 742 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 3.23 บาท
ความต้องการปูนซีเมนต์ภายในประเทศยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและการลงทุนด้านการก่อสร้างจากภาครัฐภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ถึงแม้ว่ามาตรการสนับสนุนด้านการยกเว้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ได้สิ้นสุดลง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ความต้องการปูนซีเมนต์จากด้านการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนี่อง
ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิรวมจากการขาย 5,023 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ซึ่งมีรายได้สุทธิรวมจากการขาย 4,915 ล้านบาทอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการปูนซีเมนต์ทั้งในประเทศและตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาขายในประเทศที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก มีผลทำให้อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 16.0 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 18.3 ถึงแม้ว่า บริษัทฯจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ข้อมูลการแบ่งปันกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ซึ่งแสดงในงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2553 อยู่ที่ 2,130 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 9.26 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 ซึ่งสามารถแบ่งปันกำไรสุทธิได้ 2,242 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 9.75 บาท ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เป็นจำนวน 6.00 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2553
ปูนซีเมนต์นครหลวง ได้คาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศตลอดทั้งปีนี้ จะสูงกว่าปีที่แล้วประมาณร้อยละ 8
บริษัทยังคงดำเนินการเพิ่มขยายกำลังการผลิตใน 2 โครงการหลักคือ การเพิ่มขยายกำลังการผลิตของโรงงานอินทรีมอร์ตาร์อีก 1 เท่า และการก่อสร้างสายการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 สายของโรงงานผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ คอนวูด ทั้งสองโครงการตั้งอยู่ภายในจังหวัดสระบุรี และจะดำเนินโครงการแล้วเสร็จในปี 2555
บริษัทได้เผยแพร่รายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนฉบับล่าสุด ในเดือนตุลาคม โดยมีเนื้อหารายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าขององค์กรทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านต่างๆ ตลอดจนแผนงานและกลยุทธ์ทางด้านนี้ในอนาคต สำหรับโครงการโรงเรียนสีเขียว (Green School) ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับปีนี้โดยมีอาคาร 3 หลัง ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนรวม 3 แห่ง ที่จะได้จัดส่งมอบให้กับทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียน บริษัทฯ จะดำเนินการปรับโครงสร้าง สายงานธุรกิจ จีโอไซเคิล ในช่วงต้นปี 2554 ให้เป็นบริษัทในเครือ และให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจการผลิตพลังงานจากกากของเสีย และการผลิตไฟฟ้าจากความร้อนเหลือใช้
สุดท้ายนี้ ปูนซีเมนต์นครหลวง ได้ระดมทรัพยากรและเครือข่ายพนักงาน รวมทั้งคู่ค้าและลูกค้า ในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ทั้งพนักงานและประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
แถลงข่าวในนาม : บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม : เรืออากาศโท คันธนิธิ์ สุคนธทรัพย์
รองประธานด้านธุรกิจสัมพันธ์
kantanit.sukontasap@sccc.co.th
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-797 7060