ปลายพ.ย. 76 ทูตพาณิชย์สรุปแผนทำตลาด พร้อมนำ QE2 ประเมินเป็นปัจจัยเสี่ยงเป้าส่งออกล่าสุด

ข่าวทั่วไป Monday November 15, 2010 11:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กรมส่งเสริมการส่งออก ปลายพ.ย. 76 ทูตพาณิชย์สรุปแผนทำตลาด พร้อมนำ QE2 ประเมินเป็นปัจจัยเสี่ยงเป้าส่งออกล่าสุด พร้อมจัดเสวนา 3 ฝ่าย หวังใช้เครื่องมือทางการเงินช่วยเอสเอ็มอีในยุคบาทแข็ง-วิกฤติภัยธรรมชาติ 25 พย.นี้ ที่ศูนย์สิริกิติ์ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการสรุปแผน กลยุทธ์และกิจกรรมการทำตลาดของทูตพาณิชย์ทั้ง 76 แห่งทั่วโลกภายหลังจากที่ได้มอบนโยบายให้ขยับตัวเลขแต่ละประเทศควรขยายตัวไม่น้อยกว่า 10% รวมถึงการนำปัจจัยล่าสุด การประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่สอง (QE2)ของประเทศสหรัฐฯ ผนวกเป็นปัจจัยใหม่ล่าสุดเข้าไปด้วย “ในปี 2554 จึงเชื่อว่าการส่งออกจะเป็นไปตามตัวเลขที่ตั้งไว้ที่ 10% หรือ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าตลาดสหรัฐฯที่มีสัดส่วนเพียง 10% ของทุกตลาด จะประสบปัญหาเศรษฐกิจ โดยพยายามออกมาตรการเพิ่มการส่งออกของสหรัฐฯ รวมถึงกระตุ้นให้คนภายในประเทศมีงานทำ ตามที่เรารู้มาตลอด อย่างไรก็ตามไทยยังมีหลายตลาดที่น่าสนใจและมีศักยภาพ อาทิ อาเซียน จีน อินเดีย เป็นต้น อย่างไรก็ตามตลาดสหรัฐฯปี 2553 ทั้งปี ทูตพาณิชย์สหรัฐฯยังมั่นใจคาดว่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 22 %” นางพรทิวา กล่าว นอกจากนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทย กรมฯ จัดเสวนา “ค้นทางเลือก หาทางรอดกลางวิกฤติธรรมชาติยุคบาทแข็ง” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ผู้บริหารจากธนาคารสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เข้าร่วมเสวนาเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาครัฐ เอกชนและสื่อมวลชน เกี่ยวกับมาตรการภาครัฐในการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา เอสเอ็มอี และทิศทางฟื้นฟูในระยะต่อไป รวมถึงเพื่อใช้เครื่องทางการเงินและเทคนิคการบริหารจัดการธุรกิจให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างมั่นคงในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะ ภายใต้สถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่า น้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง และเป็นปัจจัย QE2 ล่าสุด นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ได้รับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ในการประเมินและวิเคราะห์นโยบายQE2 ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าภายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จะรายงานให้รมว.พาณิชย์รับทราบเบื้องต้นถึงแผนการทำงานของกรมฯ ที่เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2553 ได้รับมอบนโยบาย ให้สอดรับกับยุทธ์ศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ทูตพาณิชย์จัดทำแผนและเป้าหมายการส่งออกของปี 2554 ให้ขยายตัวไม่น้อยกว่า 10% หรือ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยใหม่QE2 เป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องวางแผนรับมือ ไม่เฉพาะไทยเท่านั้น เพราะถ้าไทยกระทบ หลายประเทศก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการส่งออก โทร.02-507-7932 — 4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ