กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--อินโดรามา
อินวิสต้า สปาร์แทนบรู๊ก ในเซาท์แคโรไลนาและ เกเรตาโร ในแมกซิโกผลักดันกำลังการผลิต ผลักดันกำลังการผลิต PET ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก
สปาร์แทนบรู๊ก เซาท์แคโรไลนา/เกเรตาโร แมกซิโก/ กรุงเทพฯ ประเทศไทย- 11-12 พฤศจิกายน 2553 บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ประกาศเซ็นสัญญาซื้อโรงงานผลิต PET โพลีเมอร์ และเรซิน ในสปาร์แทนบรู๊ก เอส.ซี. และ เกเรตาโร ในประเทศแมกซิโก ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ อินวิสต้า บี.วี.
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้มีมูลค่า 420 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาระหนี้สินบางรายการ และอีก 229 ล้านเหรียญสำหรับสินทรัพย์ถาวร รวมทั้ง 174 ล้านเหรียญสหรัฐในส่วนทุนของเครือข่ายธุรกิจ เงินลงทุนที่ใช้ในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินสด และส่วนหนึ่งมาจากวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน การโอนทรัพย์สินจากทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรก ปีพ.ศ. 2554 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการรออนุมัติตามกฎระเบียบ
อินวิสต้า สปาร์แทนบรู๊ก ในเซาท์แคโรไลนา ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ เรซิน และโพลีเอสเตอร์ สเตเปิล ที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม น้ำ เบียร์ น้ำผลไม้ ไวน์ อาหาร และบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค เส้นใย และโพลีเมอร์สังเคราะห์ชนิดต่าง ๆ โรงงานผลิตในสปาร์แทนบรู๊กมีกำลังการผลิตอยุ่ที่ 470 กิโลเมตริกตัน ต่อปีและมีการจ้างงานประมาณ 490 คน
อินวิสต้า เกเรตาโร ในประเทศแมกซิโก เป็นผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ เรซิน และโพลีเอสเตอร์ สเตเปิล เช่นเดียวกับโรงงานผลิตอินวิสต้า สปาร์แทนบรู๊ก โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 535 กิโลเมตริกตันต่อปี และมีการจ้างงานประมาณ 510 คน
การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะส่งผลให้ อินโดรามา เวนเจอร์ในฐานะผู้ผลิต PET ชั้นนำของโลก สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น การเข้าซื้อกิจการในทวีปอเมริกาเหนือครั้งนี้จะช่วยเสริมกำลังการผลิต PET ในโรงงาน StarPET เมือง แอชเชโบโร รัฐนอร์ทแคโรไลนา และโรงงานผลิต PET เรซิน AlphaPET ในรัฐอัลบามา และยังเป็นประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น
การเข้าถึงผู้บริโภคและตลาดกลุ่มใหม่ผ่านเมือง เกเรตาโร
การเจาะตลาด เส้นใย PET ในประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านเมือง สปาร์แทนบรู๊ก
เพิ่มความสามารถในงานวิจัยและพัฒนา
เสริมสร้างกำลังการผลิตในโรงงานผลิตที่มีอยู่ปัจจุบันทั้ง AlphaPET และ StarPET
เพิ่มความประสิทธิภาพในการผลิต
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ IVL ได้เต็มจำนวนนับตั้งแต่ปีแรกของการร่วมงาน โดยอินโดรามา เวนเจอร์สเชื่อว่าการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะสร้างโอกาสในการเพิ่มมุลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
“เราเชื่อว่า อินวิสต้า สปาร์แทนบรู๊ก และ เกเรตาโร จะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในประเทศสหรัฐอเมริกา” คริสต์ แฮมมัน ประธานอินวิสต้า โพลีเมอร์ และเรซิน กล่าว “ผมขอขอบคุณแลชื่นชมพนักงานของอินวิสต้าทั้งธุรกิจโพลีเมอร์ และเรซิน ที่ร่วมกันการสร้างธุรกิจที่จะช่วยสร้างนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า”
“แผนการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะช่วย IVL ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และทำให้เรากลายเป็นผู้ผลิต PET อันดับ 1 ของโลก และยังเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยเจาะตลาดในภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงทั้ง อเมริกากลางและ อเมริกาใต้” นาย อาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว “เราเชื่อว่ากิจการที่มีค่านี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ PET และเส้นใยของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการผลิตถึงล้านตัน นอกจากนี้แล้ว นวัตกรรม และการจดจำแบรนด์ของอินวิสต้า จะช่วยให้อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น การได้เข้าถึงการบริหารและองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งจากการผลิต งานวิจัยและพัฒนา การนำกลัยมาใช้ใหม่ (Post Consumer Recycling- PCR)” นายโลเฮียกล่าวเพิ่มเติม
พนักงานปัจจุบันของ อินวิสต้า โพลีเมอร์ และเรซิน ในหน่วยปฏิบัติการผลิต การตลาด การขาย บริการลูกค้า วิจัยและพัฒนาที่อยู่ในเมือง สปาร์แทนบรู๊ก และ เกเรตาโร จะได้รับการจ้างงานจากอินโดรามาต่อไปภายหลังที่มีการซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมกับการทำงานของพนักงานในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่อยู่ใน ชาร์ล็อตต์ นอร์ท แคโรไลนา และซานตาเฟ ในเมือง แมกซิโก
อินวิสต้า โพลีเมอร์ และเรซิน ในเมือง วิลมิงตัน นอร์ทแคโรไลนาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ รวมทั้งธุรกิจโพลีเมอร์ และเรซิน ของ อินวิสต้าใน ยุโรป โรงงานผลิตใน เยอรมัน อีกทั้งอินวิสต้าจะยังมีลิขสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวพันกับ ธุรกิจโพลีเมอร์และเรซินด้วย
ในการทำข้อตกลงทางธุรกิจครั้งนี้ IVL มีธนาคารดอยซ์ แบงก์ เป็นที่ปรึกษาการเงิน Lowenstein Sandler PC เป็นหัวหน้าที่ปรึกษา และJ?uregui Navarrete y Nader, S.C เป็นที่ปรึกษาในแมกซิโก ในส่วนของ อินวิสต้า มีมอร์แกน สแตนเล่ย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ Latham & Watkins LLP เป็นหัวหน้าที่ปรึกษา