กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--IR PLUS
'ปกรณ์ บริมาสพร' ปลื้ม L&E โชว์กำไรงวดไตรมาส 3 /2553โตร้อยละ 356 ส่วนงวด 9 เดือนกำไรทะยานถึงร้อยละ 1763จาก1.57 ล้านบาทงวดปีก่อน เป็น29.25 ล้านบาทงวดปีนี้ หลังรับงานโครงการใหม่เพิ่ม เน้นโรงแรม คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า ชูกลยุทธ์บริหารต้นทุนเยี่ยม ส่งผลอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ระดับสูง คาดไตรมาส 4 จะมียอดขายดีที่สุดของปี ปัจจุบันมี Backlogกว่า 600 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีนี้กวาดรายได้โตตามเป้า10 - 15%
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ในประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 439.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.44 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 374.61 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ โดยไตรมาส 3 ปี 2553 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 28.4 เทียบกับไตรมาส 3/2552 ที่ร้อยละ 25.6
ด้านกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในงวดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2553 อยู่ที่ 18.7 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 0.41 บาท เพิ่มขึ้น 14.57 ล้านบาท หรือร้อยละ 356จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.13 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 0.09 บาท โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากยอดขายที่ขยายตัว ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ในระดับสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจ่ายลดลง และค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงเกือบร้อยละ 2 จากร้อยละ 23.4 ในไตรมาส 3 ปี 2552 เป็นร้อยละ 21.6 ในไตรมาส 3 ปี 2553
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม - กันยายน 2553) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,149.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.72 จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,038.44 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.64 บาท เพิ่มขึ้น 27.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1,763 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.57 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.03 บาท
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการรับงานโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการห้างสรรพสินค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม และที่อยู่อาศัยต่างๆ นอกจากนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์โคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างปรับตัวดีขึ้น และบริษัทฯ ยังบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังขยายตัวโดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการอุปกรณ์แสงสว่าง เพื่อใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซม ร้านค้าต่างๆ รวมถึงอาคารบ้านเรือนมากขึ้นจากช่วงต้นปีที่มีสถานการณ์การเมือง รวมถึงสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งตามปกติธุรกิจของบริษัทฯ ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นฤดูกาลขาย (High Season) โดยเฉพาะในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มียอดขายดีที่สุดของปี ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจโดยเน้นความสามารถบริหารต้นทุนสินค้า ในสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลง ส่งผลโดยตรงให้รักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ในระดับสูง และสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 600 ล้านบาท และผลประกอบการปี 2553 มั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 10-15% ตามเป้าหมาย เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีรายได้ 1,475.61 ล้านบาท.
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549396 E-mail : phapada@irplus.in.th