กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ศุภาลัย
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV) สำหรับการให้สินเชื่อหรือให้เงินกู้ยืมเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัย โดยได้กำหนด LTV สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม ที่ 90% บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัทได้มีการเรียกเก็บเงินดาวน์สำหรับลูกค้าคอนโดมิเนียมที่อัตราเฉลี่ย 16-17% อยู่แล้ว และในโครงการที่มีการเรียกเก็บเงินดาวน์ต่ำที่สุด ก็เรียกเก็บอยู่ในอัตรา 13% ซึ่งทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ ไม่ได้มีความต้องการสินเชื่อที่อยู่ในอัตราสูงกว่า 90% ทำให้ผลกระทบกับลูกค้าคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ในด้านการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้นมีอยู่น้อยมาก
ในขณะเดียวกันการกำหนด LTV สินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวราบที่กำหนดที่ 95% และจะมีผลบังคับใช้สำหรับสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 ม.ค.55 เป็นต้นไปนั้น นายไตรเตชะมองว่าจะไม่มีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในระยะสั้น เนื่องจากมีเวลาให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้อีกกว่า 1 ปี แต่ก็คงจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการปรับตัว มาเป็นการขายแบบมีการผ่อนดาวน์ (Pre-Sale) เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ LTV ที่จะลดลงในอนาคต
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ประทุมทิพย์ รอดเจริญ (น้อง)
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.ศุภาลัย
โทร. 02-725-8888 ต่อ 117