กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--การบินไทย
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทำการบินในเที่ยวบินพิเศษ มหากุศล นำคณะพุทธศาสนิกชน กราบสักการะพุทธสังเวชนียสถาน
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2553 ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงนำคณะพุทธศาสนิกชน กราบสักการะพุทธสังเวชนียสถาน สถานที่ ตรัสรู้ ณ ตำบลพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการก่อตั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
สำหรับ เที่ยวบินพิเศษมหากุศล เที่ยวบินที่ ทีจี 8842 มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางในราคาที่นั่งละ 500,000 บาท และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อการกุศลกับเที่ยวบินดังกล่าว โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมทบมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมทบกองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ (เพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ) ทั้งนี้มียอดเงินบริจาคทั้งสิ้นจากการจัดเที่ยวบินพิเศษมหากุศลครั้งนี้ รวมเป็นเงิน 50.5 ล้านบาท
มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาพระราชทานฯ ขึ้นเมื่อปี 2552 เป็นปีแรก และต่อเนื่องในปี 2553 ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง มูลนิธิ ทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทยที่เรียนดีหรือมีความขยันหมั่นเพียร มีความประพฤติดี มีคุณธรรม มีความยากจน ยากลำบาก ให้ได้มีโอกาสศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญและสายอาชีพต่อเนื่องไปจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุดหากมีความสามารถศึกษาได้ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและเป็นทรัพยากรบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยไม่มีภาระผูกพันต้องใช้ทุนคืน โดยพิจารณาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 2 ราย เป็นนักเรียนชาย 1 ราย นักเรียนหญิง 1 ราย ส่งผลให้มี นักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน รุ่นที่ 1 ถึงปัจจุบัน รวมแล้วกว่า 300 รายทั่วประเทศ
กองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ กำเนิดขึ้นมาจากพระราชปณิธานใน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระปณิธานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการที่จะให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้ทรงมีส่วนร่วมในการบำเพ็ญพระกุศล ที่ยังประโยชน์ให้เกิดแก่ สังคมและประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งรายได้จากการบริจาคในเที่ยวบินพิเศษมหากุศลในครั้งนี้จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หลักของกองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอันเกิดจากอุทกภัย
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงทำการบินในตำแหน่งนักบินที่ 1 ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ของบริษัทฯ และนาวาอากาศตรีอัษฎาวุธ วัฒนางกูร รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ ปฏิบัติหน้าที่นักบินผู้ช่วย นำพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พร้อมด้วยผู้โดยสารจำนวน 123 คน เดินทางกราบสังเวชนียสถาน ณ สาธารณรัฐอินเดีย ตำบลพุทธคยา (สถานที่ตรัสรู้)
เวลา 09.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จฯ ถึงห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เวลา 09.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทำการบินเที่ยวบินพิเศษ เที่ยวบินที่ทีจี 8842 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองคยา สาธารณรัฐอินเดีย ใน เวลา 11.15 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยมีนายกฤต ไกรจิตติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเดลี พร้อมด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต และผู้แทนฝ่ายอินเดีย เฝ้ารับเสด็จฯ
เวลา 11.45 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จฯถึงองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา เพื่อนมัสการพระพุทธเมตตา ซึ่งประดิษฐานภายในพระมหาเจดีย์พุทธคยา ต่อจากนั้นเสด็จ ฯ ไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงวาง พวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ และพระแท่นวัชรอาสน์ พระราชรัตนรังษี กราบบังคมทูลถวายรายงาน เกี่ยวกับพุทธประวัติของสังเวชนียสถาน สถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อจากนั้นนายกฤต ไกรจิตติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี กราบบังคมทูลเบิกพระภิกษุ Chalinda หัวหน้าพระภิกษุ วัดพุทธคยา เข้ารับพระราชทานเงินบำรุงพระมหาเจดีย์พุทธคยา
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงห่มผ้ารอบควงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในโอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราชานุญาต ฉายพระรูปร่วมกับแขกผู้มีเกียรติที่เป็นผู้โดยสารร่วมเดินทางในเที่ยวบินพิเศษมหากุศลนี้ บริเวณด้านหน้าพระมหาเจดีย์พุทธคยา
เวลา 12.45 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จ ฯ ถึงวัดไทยพุทธคยา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระพุทธธรรมิศรชมพูทีปนิวัติสุโขทัย พระประธานพระอุโบสถและพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ เพื่อบำรุงวัดไทยพุทธคยาแก่ พระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา จากนั้น ทรงพระราชทานเข็มกลัดที่ระลึกพระนามาภิไธยย่อ ม.ว.ก. ประดับเพชร แก่ผู้โดยสารที่ร่วมบริจาคเงินในเที่ยวบินพิเศษมหากุศล โดยมีนายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)กราบบังคมทูลถวายรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดเที่ยวบินพิเศษมหากุศล และนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เบิกผู้ร่วมบริจาคที่ร่วมเดินทางและผู้เกี่ยวข้องเข้ารับพระราชทานเข็มกลัดที่ระลึก จำนวน 88 ราย อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ นางมนูญศรี โชติเทวัญ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ในเวลา 15.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทำการบินด้วย เครื่องบินพระที่นั่ง เที่ยวบินพิเศษมหากุศล เที่ยวบินที่ ทีจี 8843 ออกจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองคยา พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และ ผู้ร่วมเดินทาง กลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 20.20 น. โดยสวัสดิภาพ