กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
ในช่วงการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ JTEPA (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement) มีประเด็นหนึ่งที่กลุ่มสิ่งแวดล้อมมีความเป็นห่วงกันมากคือ การที่ความตกลง JTEPA นี้อาจทำให้ญี่ปุ่นนำเข้าขยะ/ของเสียอันตราย รวมทั้งขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาขยะเทศบาล (municipal waste) จำนวนมาก มาทิ้งในประเทศไทย เนื่องจากไทยได้ลดภาษีศุลกากรให้แก่สินค้าใช้แล้วหรือของเสียบางรายการ
ในช่วงนั้น รัฐบาลไทยชี้แจงว่า ในทางกฎหมาย รัฐบาลไทยยังสามารถบังคับใช้กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยความตกลง JTEPA ก็ยืนยันสิทธิของไทยในเรื่องการควบคุมการนำเข้าขยะ/ของเสียอันตรายตามกฎหมายไทย ดังนั้นขยะ/ของเสียอันตรายที่ไทยห้ามนำเข้า ก็ไม่สามารถนำเข้าได้เมื่อมีการทำความตกลง JTEPA นอกจากนี้ นักวิชาการก็ชี้ว่า การลดภาษีศุลกากรตามข้อผูกพันภายใต้ความตกลง JTEPA ก็น่าจะไม่ทำให้เกิดการไหลบ่าของขยะ/ของเสียเข้าสู่ประเทศไทย เนื่องจากเป็นการลดภาษีศุลกากรเพียงแค่ร้อยละ 1-5 เท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะคุ้มกับค่าส่งและค่าจัดการเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษด้านภาษี
หลังการบังคับใช้ความตกลง JTEPA ครบ 2 ปี ผู้เขียนได้วิเคราะห์การนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยโดยใช้ข้อมูลของกรมศุลกากร พบว่า นับตั้งแต่ความตกลง JTEPA มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 จนถึงเดือนธันวาคม 2552 ไม่มีการนำเข้าขยะ/ของเสียอันตรายภายใต้ JTEPA เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาขยะเทศบาลที่เคยเป็นห่วงกันมาก ทั้งนี้ ในหมวดที่เกี่ยวข้อง มีเฉพาะการนำเข้าสินค้าที่ใช้แล้วบางรายการ ได้แก่ ตู้แช่แข็งแบบเปิดด้านบน 2 เครื่อง (ปี 2550) โทรทัศน์สี 1 เครื่อง (ปี 2551) กล้องถ่ายภาพดิจิทัล/กล้องถ่ายบันทึกวิดีโอ 2 เครื่อง (ปี 2551) แบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว 40 กิโลกรัม (ปี 2551) และยางที่ใช้แล้ว 6.87 ตัน (ปี 2552) เท่านั้น (ดูตารางประกอบในส่วนของปริมาณการนำเข้าภายใต้ JTEPA)
ตารางดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า มีการนำเข้าขยะ/ของเสีย/ของที่ใช้แล้วบางประเภทเช่น ขยะ/ของเสียเคมีภัณฑ์ ขยะพลาสติก และยางที่ใช้แล้วโดยชำระภาษีศุลกากรในอัตราปรกติเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำเข้าดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับความตกลง JTEPA แต่อย่างใด
ข้อมูลดังกล่าวน่าจะชี้ว่า ความวิตกกังวลที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเจรจาทำความตกลง JTEPA นั้น น่าจะเกินเลยจากความเป็นจริงมาก และในกรณีนี้ การทำความตกลงการค้าเสรีไม่ได้มีผลต่อการทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในลักษณะที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ในทางทฤษฎี แม้การค้าระหว่างประเทศอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จริงก็ตาม แต่หลักฐานทางวิชาการที่มีอยู่ก็ยังไม่มีความชัดเจน การให้ความคิดเห็นต่อสาธารณะของฝ่ายต่างๆ จึงควรมีข้อมูลและหลักฐานต่างๆ สนับสนุน ความคิดเห็นดังกล่าวจึงจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะสูงสุด
สรุปการนำเข้าสินค้าใช้แล้ว/ขยะจากญี่ปุ่นในช่วงปี 2548 ถึงปี 2552
ประเภท หน่วย ปริมาณการนำเข้าทั้งหมด ปริมาณการนำเข้าภายใต้JTEPA
2548 2549 2550 2551 2552 2550 2551 2552
ขี้เถ้า ตัน 0 0 0 0 0 0 0 0
เศษน้ำมัน ตัน 554.36 409.39 367.99 244.55 156.14 0 0 0
ขยะ/ของเสียเคมีภัณฑ์ ตัน 0 0.05 5.13 12.08 5.38 0 0 0
ขยะพลาสติก ตัน 368.21 383.64 690.23 1,491.30 950.23 0 0 0
ยางที่ใช้แล้ว ตัน 62.24 114.77 51.59 121.68 412.29 0 0 6.87
แบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว ตัน 4,098.59 160.85 54.85 58.86 82.25 0 0.04 0
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้แล้ว เครื่อง 235.08 ล้าน 304.57 ล้าน 266.85ล้าน 111.64ล้าน 35.93ล้าน 2 3 0
ที่มา: รายงานฉบับสมบูรณ์ “โครงการเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมภายใต้นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทย (ระยะที่ 1)” เสนอต่อสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย