ผลงาน CEN โชว์ไตรมาส 3 กำไรทะยาน 88.90% “วุฒิชัย” ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 15, 2010 15:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--IR network CEN เทิร์นอะราวด์แล้ว สะท้อนผลงานที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นภายหลังประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึง 581.40% สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการขยายตัวที่เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทในเครือ ทั้ง 4 แห่ง นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/2553 สิ้นสุด 30 กันยายน 2553 ว่ามีกำไรสุทธิ 68.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.90% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ที่กำไรสุทธิ 36.26 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 129.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 581.40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 26.82 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรเฉพาะไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถลดต้นทุนเป็นผลให้บริษัทมี EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 86.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2552 จำนวน 49.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76.99% ซึ่งการเพิ่มขึ้นเกิดจากการขยายตลาดรวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่มีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2553 อีกทั้งบริษัทมีการควบคุมในการซื้อวัตถุดิบรวมทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาดการผลิต (economy of scale) ด้วยการจัดตั้งคณะทำงาน (steering committee) ที่ประกอบด้วยผู้บริหารของบริษัทในเครือที่มีความชำนาญในแต่ละสาขามาทำงานร่วมกันในภาระดังกล่าว “จากความมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการทำงานของคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯทำให้วันนี้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนแล้วว่า CEN มีอัตราการเติบโตดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในอดีต ซึ่งวันนี้แตกต่างออกไป ปัจจัยพื้นฐานของ CEN เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ด้านในทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการทำกำไรของบริษัท 5 ไตรมาสติดกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้กลยุทธ์ด้านการบริหารวัตถุดิบ การเพิ่มปริมาณการผลิตและที่สำคัญคือ CEN มีการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบซึ่งผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจโดยใช้วิธีติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจึงทำให้มีกำไรสุทธิ ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึง 581.40% ” สำหรับบริษัทลูกทั้ง 4 แห่งในช่วง 9 เดือน ของปี 2553 สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดย บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) สามารถผลิตสินค้าเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า และตามแผนการดำเนินงาน บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาทั้งในด้านของปริมาณขายและยอดขายมีอัตราการขยายตัวที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวประกอบกับการบริหารต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด ก็บริหารงานได้อย่างน่าพอใจโดยสามารถผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าอีก 1 โครงการ โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2554 และบริษัท ซีอีเอ็น-ไอเอ็มซี จำกัด ก็บริหารงานได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงแนวโน้มธุรกิจว่าในช่วงที่เหลือยังคงมีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่องบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่งมีการเน้นการดำเนินงานในเชิงรุกมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัว โดยเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมียอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค ทำธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 4 บริษัท ผลิตเส้นลวดแรงดึงสูงใช้ในอุตสาหกรรมโรงหล่อเสาเข็มสะพาน และตึกสูง ผลิตเสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูง เสาโทรคมนาคมโรงไฟฟ้าสถานีย่อย และโครงสร้างเหล็กทุกชนิด ผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนขายให้กับอุตสาหกรรมเซรามิค รับบริการเจาะอุโมงค์ใต้ดินโดยไม่ต้องเปิดหน้าดิน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ