กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--กบข.
กบข.เผย 10 เดือนบริหารสินทรัพย์กว่า 4.85 แสนลบ. สมาชิกเปลี่ยนแผน MIC กว่าครึ่งพัน สวัสดิการเข้าเป้า สมาชิกตอบรับดี ปีหน้าเน้นลงทุนอย่างรับผิดชอบ และสื่อสารเชิงรุกให้ถึงตัวสมาชิก
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ณ 31 ตุลาคม 2553 กบข.มีสมาชิกทั่วประเทศจำนวน 1,156,492 คน มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลมูลค่า 485,904 ล้านบาท โดย กบข.บริหารเงินออมของสมาชิก ด้วยการลงทุนภายใต้กรอบพรบ.กบข. พ.ศ. 2539 และกฎกระทรวงที่ใช้บังคับ
อย่างไรก็ดี กบข. ได้เพิ่มทางเลือกในการบริหารเงินออมด้วยโครงการ My Choice…My Chance เราเลือกได้ ใน 10 เดือนแรกของปีนี้มีสมาชิกเปลี่ยนแผนการลงทุน 572 ราย แบ่งเป็น แผนผสมหุ้นทวี 534 ราย แผนตราสารหนี้ 25 ราย แผนตลาดเงิน 13 ราย
นอกจากนี้ กบข.ยังเพิ่มทางเลือกในการออมสำหรับสมาชิกปัจจุบัน ด้วยโครงการออมเพิ่ม สมาชิกสามารถออมเพิ่มได้อีก 12% ของเงินเดือน ปัจจุบันมีสมาชิกออมเพิ่มกับ กบข.จำนวน 10,388 ราย
สำหรับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการ พ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกของ กบข.ก็มีทางเลือกเช่นกัน โดยสมาชิกสามารถเลือกขอรับเงินทั้งจำนวน, ทยอยรับเงิน หรือให้ กบข.บริหารเงินต่อก็ได้
ด้านการให้ความรู้สมาชิก ในปี 2553 กบข.ได้ปรับรูปแบบการให้ความรู้ ความเข้าใจแก่สมาชิก เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ แผนการลงทุนสำหรับสมาชิก สวัสดิการใหม่ต่างๆ เป็นต้น โดยในปีนี้ กบข.เน้นนโยบายเชิงรุกในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ แบบเข้าถึงตัวและครอบคลุมสมาชิกทุกกลุ่มทั่วประเทศมากกว่า 20,000 คน ผ่านโครงการฝึกอบรม ดังนี้
1.โครงการปฐมนิเทศสมาชิกบรรจุใหม่ สำหรับข้าราชการบรรจุใหม่ที่เข้าเป็นสมาชิก กบข.
2.โครงการ กบข. สมาชิกสัมพันธ์สัญจร (ภูมิภาค) สำหรับสมาชิกทั่วไป
3.โครงการ กบข. สมาชิกสัมพันธ์สัญจร (กรุงเทพฯและปริมณฑลฯ) สำหรับสมาชิกทั่วไป
4. โครงการหลักสูตรฝึกอบรม กบข. เพื่อสำหรับให้ความรู้การออมการลงทุนสำหรับสมาชิกทั่วไป
5. โครงการปัจฉิมนิเทศสมาชิก กบข และ อบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน สำหรับสมาชิกใกล้เกษียณอายุราชการ
นอกจากนี้ กบข.ยังจัดกิจกรรมสำคัญประจำปี ได้แก่ งานประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก และ กบข.ยังเพิ่มการจัดงานสัมมนาขึ้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างตัวแทนสมาชิกกับผู้บริหารกองทุนโดยตรงนั่นคือ งานสัมมนาผู้แทนสมาชิกประจำปี และ งานสัมมนาสำนักงานคลังเขต / จังหวัด โดยในปี 2554 กบข.มีนโบบายดำเนินโครงการเหล่านี้ต่อเนื่อง
ปลื้มผลตอบแทน สิ้นเดือน ต.ค.ก้าวกระโดด.7.47%
กบข.ปลื้มตอบแทนงวด 10 เดือนโตก้าวกระโดด หลังตลาดหุ้นเอเชียเนื้อหอม ต่างชาติทะลักเข้าลงทุน ส่งผลให้ผลตอบแทนจากหุ้น และพันธบัตรสวยหรู เตรียมจ่อลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 1/2554 และสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนแก้ไขกฎกระทรวง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองกบข.เมื่อสิ้นตุลาคม 2553 อยู่ที่ 7.47% โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็นตราสารหนี้ในประเทศจำนวน 68.12% ตราสารทุนในประเทศจำนวน 10.47% ตราสารหนี้โลก 4.77% ตราสารทุนโลก 10.51% อสังหาริมทรัพย์ 3.64% นิติบุคคลเอกชนไทย 2.49% โดย กบข.มีสินทรัพย์ในการบริหารกว่า 485,904 ล้านบาท
ด้านแผนการลงทุนในอนาคตของ กบข.เตรียมจะเข้าลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อ(Inflation linked bond)ที่โดยพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกลุ่มที่มีความมั่นคงสูงที่เป็นนโยบายหลักของ กบข.ที่ลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของเงินกองทุน เหตุที่ กบข.ให้ความสนใจลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงเงินเฟ้อก็เพราะพันธบัตรดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะตัวที่นอกจากจะสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามช่วงเวลาที่กำหนดและได้รับเงินต้นคืนเมื่อพันธบัตรครบอายุแล้ว จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกปรับมูลค่าตามอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนยังรักษามูลค่าที่แท้จริงไว้ได้ไม่ถูกทำให้ด้อยค่าเพราะเงินเฟ้อ ทั้งนี้พันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยจริงที่คงที่ล่วงหน้าไว้ก่อนและมีการปรับตามเงินเฟ้อเมื่อเวลาผ่านไปและคาดว่าจะลงทุนได้ในไตรมาส 1/2554
ขณะเดียวกัน กบข.ยังสนใจลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อาทิเช่น น้ำมันดิบ ทองแดง ดีบุก ตะกั่ว เป็นต้น โดยสินค้าโภคภัณฑ์จะอยู่ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของการลงทุน ขั้นตอนการลงทุนอยู่ระหว่างการทำรายงานไปยังกระทรวงการคลังให้ออกประกาศกำหนดให้สินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลักทรัพย์ที่ กบข.ลงได้ และหลังจากนั้นยังต้องให้บอร์ดอนุมัติประกาศรองรับการลงทุนสินค้าในกลุ่มนี้ต่อไป
“ผลตอบแทนสิ้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 7.47% เพราะได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวดีขึ้นของตลาดหุ้นไทยและพันธบัตร เนื่องจากปีนี้ต่างชาติให้ความสนใจเข้าลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นพิเศษ ด้านแผนการลงทุนในอนาคต กบข.อยู่ระหว่างการจะเข้าลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อซึ่งคาดว่าทางสำนกงานบริหารหนี้สาธารณะกำลังจะเสนอขายในช่วงไตรมาส 1/2554 และ กบข. ยังสนใจเข้าลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งอยู่ระหว่างการทำรายงานไปกระทรวงการคลังในการแก้กฏกระทรวงและให้ออกประกาศกำหนดให้เข้าลงทุนได้”นางสาวโสภาวดี กล่าว
กบข.ย้ำธรรมมาภิบาล เลือกบริษัทที่ลงทุนอย่างรับผิดชอบ
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2553 กบข.เดินหน้านโยบายสร้างความโปร่งใส เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่การเปิดเผยข้อมูลการกำกับดูแลกิจการมากขึ้น เพื่อให้เทียบเท่ามาตรฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากนั้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2553 บริษัทที่ปรึกษาด้านการกำกับดูแลกิจการระดับสากล อย่าง PWC เข้ามาประเมินธรรมาภิบาลของ กบข. โดย กบข.ได้รับข้อแนะนำเพื่อนำไปปรับปรุงธรรมาภิบาลต่อไป และล่าสุดได้ปรับปรุงระเบียบซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงาน โดยมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
หลักการลงทุนของ กบข. จะเลือกลงทุนกับบริษัทที่มีการลงทุนอย่างรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล (Environment, Social, and Governance หรือ ESG ) เป็นหลัก โดยเชื่อว่าบริษัทที่ลงทุนด้าน ESG จะประสบความสำเร็จได้ดี และมีความมั่นคงเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยส่วนรวม และเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2553 กบข. ได้ตกลงร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ผลักดันให้นักลงทุนสถาบันในประเทศไทยมีการพิจารณาการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในกระบวนการตัดสินใจลงทุน
เกี่ยวกับ กบข. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข.เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข.มีสมาชิกกว่า 1.2 ล้านคน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 485,000 ล้านบาท
ติดต่อฝ่ายสื่อสารสมาชิก ปุณยนุช จันทศร / เรืองอุไร เพชรสังข์ / ปิยะณัฐ สวนอภัย โทร. 02 636 1000 ต่อ 263 / 267 / 254