“ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ”เผยแผนบริหารเชิงรุก หลังเข้ารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของ BSEC

ข่าวทั่วไป Wednesday January 17, 2007 13:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--บีฟิท
“ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ”ประกาศพร้อมทุ่มเทความสามารถสุดตัว เพื่อพัฒนา บล.บีฟิท ให้เจริญรุ่งเรืองและมีการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต ภายหลังเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ เผยแผนงานในอนาคตจะมุ่งเน้นกระจายฐานรายได้ให้กว้างยิ่งขึ้นจากด้านวาณิชธนกิจ และบริหารพอร์ตลงทุน โดยไม่พึ่งพิงรายได้จากการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว พร้อมยืนยันความมั่นใจปี 2550 มีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 4%
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด(มหาชน) หรือ BSEC เปิดเผยภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ว่าพร้อมที่จะทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจอย่างสุดความสามารถ ในการทำงานให้กับบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนากิจการให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำให้องค์กรขับเคลื่อนต่อไปได้ เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานในวงการหลักทรัพย์มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี
“ผมมั่นใจว่าจะสามารถนำพา บล.บีฟิท ให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ จากประสบการณ์การทำงานในวงการหลักทรัพย์ที่สั่งสมมาเกือบ 20 ปี เริ่มจากเจ้าหน้าที่รับอนุญาต และเลื่อนระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง กระทั่งมาถึงตำแหน่งก่อนหน้านี้ และช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เรียนรู้งานด้านการบริหารมากพอสมควร ทำให้ผมมั่นใจว่าจะสามารถบริหารงานในตำแหน่งซีอีโอได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ควบคู่ไปกับการกำกับการดูแลกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยยึดหลัก ธรรมาภิบาลในการบริหารงานควบคู่กันไปด้วย”
เขากล่าวต่อว่านอกเหนือจากประสบการณ์ในการทำงานแล้ว ที่ผ่านมาในส่วนของ บล.บีฟิท เองได้มีการวางรากฐานและระบบงานภายในไว้แล้วเรียบร้อยแล้ว โดยคุณสุวิช รัตนยานนท์ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนเดิม) ดังนั้นจึงไม่ต้องวิตกเกี่ยวกับระบบการบริหารงาน
ส่วนสำหรับนโยบายการบริหารงานของ บล.บีฟิทในปี 2550 คณะกรรมการบริหารมีเป้าหมายจะเน้นการตลาดเชิงรุก โดยจะมุ่งเน้นทำธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ควบคู่ไปกับการบุกงานด้านวาณิชธนกิจอย่างเต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยมีทีมงานด้านวาณิชธนกิจมาก่อน และบริษัทมีแผนที่จะจัดทำพอร์ตการลงทุนด้วย
ในด้านธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทจะให้ความสำคัญกับอินเตอร์เน็ต เทรดดิ้ง เป็นสำคัญ ควบคู่ไปกับการพัฒนาให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท ในสถานการณ์ของธุรกิจที่ยังคงมีการแข่งขันรุนแรง ประกอบกับคาดว่านักลงทุนจะเริ่มหันมาซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เพราะเสียค่าคอมมิสชั่นถูกกว่าโดยจ่ายในอัตรา 0.15% เท่านั้น ดังนั้นคาดว่าในอนาคตนักลงทุนจะมีวิธีการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น 2 วิธีคือ การสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด และการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต พร้อมกันนี้ บริษัทวางแผนที่จะเข้าไปเจาะลูกค้าที่มีศักยภาพและนักลงทุนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น อาทิ การเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถาบันการศึกษา การเปิดบูธตามแหล่งชุมชน และการจัดสัมมนาตามต่างจังหวัดเป็นต้น เพื่อให้ชื่อเสียงของ บล.บีฟิท เป็นที่ยอมรับและรู้จักของนักลงทุนโดยทั่วไป จึงทำให้มั่นใจว่าในปี 2550 บริษัทจะครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับไม่ต่ำกว่า 4% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนงานวาณิชธนกิจของ บล.บีฟิท ปี 2550 จะมุ่งเน้นการให้บริการที่ปรึกษาทางด้านการออกหลักทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของตลาดแรก และตลาดรอง เป็นหลัก แม้ว่าสภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมา ค่อนข้างผันผวน รวมถึงมาตรการของภาครัฐบางมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ แต่บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าการระดมทุนทั้งในส่วนของตลาดแรกและตลาดรองยังคงเป็นทางเลือกอันดับแรกในการระดมทุนของกลุ่มลูกค้า และทีมวาณิชธนกิจก็มีนโยบายที่จะกระจายการให้บริการไปสู่ธุรกรรมการควบรวมกิจการ(Merger and Acquisition) ด้วย
นอกจากนี้ บล.บีฟิท มีแผนที่จะลงทุนในพอร์ตการลงทุนของบริษัท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ดี และบริษัทจดทะเบียนเองก็มีศักยภาพในการทำกำไรดีต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเห็นว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุน โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาถูก ซึ่งจะเป็นช่องทางในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับบริษัทในอนาคตอีกทางหนึ่ง
For more information:
วาทิณี หวังขจรกิจ
เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 02-200-2058
แฟกซ์ 02-632-2975
มือถือ 085-922-2128
อีเมล์ watinee@bfitsec.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ