กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--แสนสิริ
กลุ่มแสนสิริ แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2553 สร้างยอดขายรวม 6,959 ล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 3,473 ล้านบาท และกำไรกว่า 248 ล้านบาท ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายสร้างยอดขายได้แล้วกว่า 7,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นถึง 76% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,600 ล้านบาท วางแผนธุรกิจสร้างกำไรต่อเนื่อง ด้วยการเปิดการขายโครงการ “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์จำนวน 24 ยูนิต มั่นใจกำลังซื้อไตรมาสสุดท้ายดีขึ้นอีกตาม Seasoning ของการขาย เหตุลูกค้าตัดสินใจซื้อ รวมทั้งทิศทางจากดอกเบี้ยและการเมืองทรงตัว
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาส 3/2553 สามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมกว่า 6,959 ล้านบาท มียอดรับรู้รายได้รวมกว่า 3,473 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท ซึ่งนับว่าความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 2/2553 ที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรสุทธิ 238 ล้านบาท จากยอดรับรู้รายได้ 4,187 ล้านบาท และยอดขาย 4,800 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 4/2553 (1 ต.ค. — 15 พ.ย.53) บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วกว่า 7,400 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 1 เดือนครึ่งหรือคิดเป็นถึง 76% จากเป้าหมายยอดขายไตรมาสสุดท้ายที่ตั้งไว้ 9,600 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของกลุ่มบริษัทแสนสิริ จะรุกขยายฐานในตลาดอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรต่อเนื่องเพื่อให้การเติบโตของธุรกิจครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยจะเปิดการขายบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์จำนวน 24 ยูนิต ภายใต้ชื่อโครงการ “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ซื้อคืนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ โดยหลังจากเปิดการขายอย่างไม่เป็นทางการในช่วงที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าโดยขณะนี้มียอดขายแล้วจำนวน 5 ยูนิต มูลค่าการขาย 178.5 ล้านบาท
“เรามองเห็นโอกาสที่ดี จากการที่แสนสิริมีโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลาย และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป ทั้งเรื่องของคุณภาพ ดีไซน์ที่สวยงาม มีบริการหลังการขาย และการบริหารการจัดการในด้านการอยู่อาศัยที่ดี ทำให้มูลค่าของที่อยู่อาศัยเหล่านี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ลูกค้าได้ซื้อ ในขณะที่แสนสิริก็มีความสามารถในการจัดหาผู้เช่าที่มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพกลางใจเมือง ทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเปิดขายโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ที่มีความหรูหราสง่างามตามแนวคิด "Penthouse on the Ground" บนที่ดินซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวผืนสุดท้ายในทำเลสุขุมวิท โดยก่อนหน้านี้มีจำนวนผู้เช่าในอัตรา 95% มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 2-3 แสนบาท/ยูนิต เน้นกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติที่ต้องการอาศัยอยู่ในใจกลางย่านสุขุมวิทเป็นหลัก โดยบริษัทเตรียมจัดงานเปิดตัวการขายอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดตัวบ้านตัวอย่างตกแต่งพิเศษ 4 สไตล์ ได้แก่ English Eccentric, Cool Grace, Oriental Exotic touch และ Simplicity Classic ในงาน “ The Ultimate Living No.67” วันที่ 27 — 28 พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและปล่อยเช่าใหม่” นายเศรษฐา กล่าว
โครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 38 ไร่ บริเวณซอยสุขุมวิท 67 ซึ่งเป็นทำเลสำหรับการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิท อยู่ใกล้ย่านธุรกิจหลักใจกลางเมือง ใกล้เส้นทางคมนาคมที่สะดวก อาทิ ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา-อาจณรงค์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS เพียง 300 เมตร ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแหล่งสาธารณูปโภคที่สำคัญ ส่วนสไตล์การออกแบบเป็น Sukhumvit Modern Contemporary ที่ให้บรรยากาศของสังคมคนสุขุมวิทยุคใหม่ เน้นความเป็นชุมชนสมบูรณ์แบบ ระดับ Exclusive High-class ภายในโครงการมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน ตั้งแต่ถนนภายในโครงการความกว้างสุดถึง 18 เมตร ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า ระบบโทรศัพท์และระบบเสาอากาศแบบฝังใต้ดินทั้งโครงการ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบโทรทัศน์วงจรปิด บริเวณหน้าประตูทางเข้า-ออกต่อเข้ากับโทรทัศน์ของทุกบ้าน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถติดต่อกับเจ้าของบ้านด้วยระบบโทรศัพท์ภายใน รวมถึงมีระบบควบคุมการเข้า-ออก Access Control ด้วยระบบ By Pass Gate แยกทางเข้าของเจ้าของบ้าน และแขกผู้มาเยี่ยม ส่วนสวนสาธารณะมีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาด 1 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา ได้รับการออกแบบให้สวยงามตามแบบสวนจิวานนี่ (Givanni) ของโมเน่ และสวนหย่อม (Pocket Park) ที่ประดับด้วยงานศิลปะที่งดงาม (Art Wall) สโมสรที่ออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำแยกชาย-หญิง นอกจากนี้ยังมีบริการผู้ช่วยพิเศษ “Plus Concierge” เสมือนหนึ่งในบริการผู้ช่วยของโรงแรมระดับ 6 ดาว ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้นด้วย
“สำหรับทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าจะดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายนับเป็น Seasoning ของการขายที่ดี จากการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าที่เลือกหาโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆมาตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับทิศทางดอกเบี้ยและความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังทรงตัว โดยในส่วนของแสนสิรินั้น ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่อยู่อาศัยของแสนสิริเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการตอบรับที่ดีในงาน Sansiri Iconic Living ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการรวมทั้งกำไรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 นี้ดีกว่าช่วงไตรมาสที่ 3 อย่างแน่นอน” นายเศรษฐา กล่าว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
กลุ่มบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)