กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--โมโด
“เฟรเกรนท์ กรุ๊ป” เปิดแผนลุยตลาดอสังหาฯ ปี 2554 เพิ่มทุนเป็น 800 ล้านสร้างความแข็งแกร่งองค์กรทุกด้าน รองรับแผนนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใน 2-3 ปี จากนั้นเตรียมสยายปีกลงทุนลุยธุรกิจอสังหาฯ ข้ามชาติ คาดสิ้นปีนี้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท และพุ่งขึ้น 3,000 ล้านบาทในปีหน้า ขณะที่ “Circle The Futurescape of Bangkok” ขายพื้นที่ได้แล้วกว่า 85% พร้อมเตรียมเปิดตัว “Circle Living Prototype” ด้วยคอนเซ็ปท์รูปแบบใหม่ปฏิวัติวงการอสังหาไทย
นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเกรนท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยมูลค่ารวมตลาดโอนอสังหาฯ เฉพาะในเขตกทม.และปริมณฑลในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 200,000 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 140,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดคอนโดมิเนียมประมาณ 48 % สำหรับภาวะฟองสบู่ที่มีนักวิชาการหลายคนออกมาเตือนว่าอาจจะเกิดขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ นั้น เชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริงจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดทั้งระบบ แต่อาจจะเกิดขึ้นกับบางบริษัทที่ไม่แข็งแกร่ง ซึ่งทางรอดที่จะช่วยให้พ้นจากวิกฤตได้คือ การมีแผนรองรับที่ดี และมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง แผนการขายและ การตลาดที่ดี
นายเจมส์กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯว่า ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 800 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 450 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ และเสริมสร้างศักยภาพการทำงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนประมาณ 17-22 % ตั้งเป้าในปี 2554 จะมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 30% รวมทั้งมีแผนจะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 2-3 ปี ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีความพร้อมในทุกด้านแล้ว และได้จัดหาบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่จะเข้ามาดูแลและดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดเป็นที่เรียบร้อย หลังจากดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการกระจายหุ้นไปขยายการลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากจากการขยายตัวของประชากรที่เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการทำโรดโชว์ให้กับกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนในหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศพม่า ลาว และบังคลาเทศในปลายปีนี้ โดยจัดทำโครงการ “Bangkok, your second home หรือ กรุงเทพ บ้านหลังที่ 2 ของคุณ” เป็นการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายของการอยู่อาศัย สิทธิในการถือครอง การลงทุนในไทยเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และได้รับความสนใจเป็นอย่างดี คาดว่าภายใน 5 ปี จะสามารถเข้าไปบรรยายให้ความรู้ภาคบริการเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ประมาณ 10 กว่าประเทศ
สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2554 จะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่พร้อมกับนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในแต่ละโครงการ และให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งบริษัทฯ ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอด โดยการลงทุนในแต่ละโครงการ นอกจากเรื่องการวิจัยและพัฒนาแล้ว บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาโปรดักส์ไฮเอนด์ ที่จะสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคทราบว่า สิ่งที่บริษัทฯ ทำคือ การสร้างวิถีชีวิตของผู้บริโภคเพื่อเป็นต้นแบบชีวิตที่ดีให้กับสังคม ซึ่งดำเนินงานภายใต้แนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับนำเสนอโปรดักส์ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ 50% เป็นคนต่างชาติที่ต้องการจะซื้อบ้านในไทยเป็นหลังที่ 2 และอีก 50% เป็นคนไทยที่ซื้ออยู่อาศัยเองและคนที่ลงทุนระยะยาว ขณะที่แนวทางการบริหารองค์กร จะเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ ด้วยระบบการจัดการและการบริหารที่ดีมีประสิทธิภาพ
ส่วนความคืบหน้าโครงการ “Circle The Futurescape of Bangkok” นายเจมส์กล่าวว่า ในขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 85% ส่วนโครงการหน้า บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ในชื่อ “Circle Living Prototype” ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3,650 ล้านบาทจะเริ่มเปิดตัวในเดือนมกราคม ปี 2554 โดยจุดเด่นของโครงการ นอกจากการออกแบบอาคารที่สวยงามแล้ว ยังเน้นสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย ที่สำคัญเป็นโครงการที่บริษัทฯ มีแนวคิดต้องการจะสร้างมาตรฐาน คุณค่าใหม่ในการใช้ชีวิต และเป็นต้นแบบที่ดีในการใช้ชีวิตให้กับสังคม
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
บริษัท โมโด จำกัด
เอมิกา รพีรัตนกุล
โทร.02-513-2677