กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ดร. มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยตัวเลขการจ่ายเงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 51 จังหวัด และภัยหนาว 13 จังหวัด ยอดเบิกจ่ายแล้ว กว่า 1,635 ล้านบาท
ดร. มั่น พัธโนทัย เปิดเผยการดำเนินการของกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลาง ในสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2553 เป็นต้นมา จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมีจำนวน 51 จังหวัด โดยสิ่งแรกที่มอบนโยบายลงไปคือ การเพิ่มวงเงินทดรองราชการ สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด จาก 50 ล้านบาทเป็น 150 -250 ล้านบาท ตามความจำเป็น เพื่อสามารถให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันท่วงที และเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 ได้อนุมัติการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้ง 51 จังหวัด เป็น จำนวน 1,635,490,628.24 บาท โดยจังหวัดที่เบิกจ่ายงบประมาณมากมากที่สุด คือ นครราชสีมา จำนวน 152.99 ล้านบาท และ ลพบุรี นนทบุรี สระบุรี จำนวน 102.81 ล้านบาท 100.35 ล้านบาท และ 95.83 ล้านบาท ลดลงมาตามลำดับ
กรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นรายละ 5,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2553 นั้น ได้มีการเบิกจ่ายเงินให้ธนาคารออมสินรอบแรกแล้ว ประมาณ 150 ล้านบาท จากวงเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ตั้ง ไว้ จำนวน 3,361 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเมื่อได้รับข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะได้เบิกจ่ายให้ต่อไป
ดร. มั่น พัธโนทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนขอภัยหนาวในขณะนี้ ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีภัยหนาวแล้ว จำนวน 13 จังหวัด 174 อำเภอ 1,225 ตำบล 14,260 หมู่บ้าน เช่น เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอน โดยกรมบัญชีกลางได้ปร สานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกี่ยวกับการขอตั้งวงเงิน ทดรองราชการเพื่อรอการเบิกจ่ายในระบบ GFMIS แล้ว โดยมีจังหวัดที่ขอตั้งวงเงินแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย เลย อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จังหวัดละ 50 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว คือ จังหวัด สกลนคร และพะเยา ซึ่ งบประมาณในส่วนนี้หน่วยงานสามารถเบิกจ่ายได้ทันที