กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนขับรถช่วงฝนตก ถนนมีน้ำท่วมขัง เป็นบางช่วง อาจเกิดอาการรถเหินน้ำ ทำให้รถลื่นไถลทรงตัวได้ยาก เป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ พร้อมแนะผู้ขับรถหากรถเหินน้ำอย่าตกใจ เหยียบเบรกจนล้อหมุน อาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ง่าย ให้ควบคุมพวงมาลัยให้มั่น ลดความเร็วลง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าในช่วงฤดูฝนมักเกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง ทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขณะฝนตกพื้นถนนจะเปียกลื่นมีน้ำท่วมขัง เป็นแอ่งน้ำในบางช่วงของพื้นถนน ทำให้รถวิ่งบนผิวน้ำแทนที่จะวิ่งสัมผัสกับพื้นถนนเรียกอาการนี้ว่า “รถเหินน้ำ” ทำให้การควบคุมทิศทางรถเป็นไปได้ยาก จึงเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายโดยปัจจัยที่ทำให้รถเกิดอาการเหินน้ำ ได้แก่ การใช้ความเร็วสูง ความดันลมอ่อนกว่าค่าที่กำหนดปริมาณน้ำบนท้องถนนมาก สภาพถนนลื่นและสภาพยางเก่าทำให้การยึดเกาะพื้นถนนไม่ดี เป็นต้น ดังนั้น หากต้องขับรถ ในช่วงที่ฝนตกและมีน้ำท่วมขังพื้นถนน ผู้ขับขี่ไม่ควรขับด้วยความเร็วสูง เพราะจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดอาการ ”รถเหินน้ำ” มากขึ้น ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หมั่นตรวจเช็คลมยางและสภาพยาง เป็นประจำ เพิ่มลมยางให้มากกว่าปกติประมาณ 2-3 ปอนด์ เพื่อให้หน้ายางแข็งจะช่วยให้กำลังในการรีดน้ำดีขึ้น กรณีที่ดอกยางสึกหรอมาก ควรเปลี่ยนยางใหม่ โดยเลือกใช้ยางที่มีดอกยางละเอียดและมีร่องยางที่สามารถรีดน้ำได้ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและหยุดรถ กรณีที่ขับรถ แล้วเกิดอาการรถเหินน้ำ อย่าเหยียบเบรกจนล้อรถหยุดหมุนในทันที จะทำให้รถพลิกคว่ำได้ง่ายให้ค่อยๆถอนคันเร่งเพื่อเบาเครื่อง พยายามควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคงและลดความเร็วลงโดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป