เมล์นรก หมวยยกล้อ

ข่าวทั่วไป Friday March 23, 2007 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--อาร์เอส
เมล์นรก หมวยยกล้อ เมื่อความสนุกของสงกรานต์ เจอความน่ารักของรถเมล์ไทย ไทย เรื่องราวฮา ๆ ของคนอยากกลับบ้าน กับมหัศจรรย์แห่งวันสงกรานต์
ในภาพยนตร์ “เมล์นรก หมวยยกล้อ” จับเบาะที่นั่งของคุณไว้ให้ดี รถเมล์กำลังจะซิ่งแล้ว...
“คิดดูนะ ..ถ้ารถเมล์คันนี้มีป๋าเทพเป็นคนขับ โน้ส อุดม เป็นกระเป๋ารถ แล้วพี่ ( กิ๊ก ) เป็นผู้โดยสาร จะเกิดอะไรขึ้นว่ะ? ... โอ๊ะ !! ฉิบหายแหละ เมล์นรกชัดๆ!!!”
ซูโม่กิ๊ก - เกียรติ กิจเจริญ — คำนิยาม บริษัท อาวอง จำกัด ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์ไทย “เมล์นรก หมวยยกล้อ” ผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย “เรียว กิตติกร” นำแสดงโดย อุดม แต้พานิช , เกียรติ กิจเจริญ , เทพ โพธิ์งาม , เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ , อริศรา วงษ์ชาลี , คมสัน นันทจิต , ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ , อชิตะ ธนาศาตนันท์ ,ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์, พิมพ์ชนก พลบูรณ์ , อัญชนา เพ็ชร์จินดา
เรื่องย่อ ( Synopsis )
ผมชื่อ “โก๋” ( โน้ส-อุดม แต้พานิช ) อาชีพ กระเป๋ารถเมล์ จะเรียกให้หรูดูดีก็คือ พกส. หรือ พนักงานเก็บค่าโดยสาร เส้นทาง “สนามหลวง-รังสิต” วิ่งเส้นทางเดิมทุกวัน ใครอยากเจอไปดักรอขึ้นรถได้
แค่งานโหนรถเมล์ เก็บตังค์ผู้โดยสาร ชีวิตผมก็ครึกครื้นพอแล้ว ยั๊งอุตส่าห์มี “วันสงกรานต์” เทศกาลอยากสาดน้ำ ใครๆ ก็สาดได้ สาดน้ำตำรวจยังไม่โดนจับเลย แล้วก็ชอบสาดกันนัก รถเมล์เนี้ย... แถมเอาแป้งมาปะรถเมล์อีก ผมนะ...ขี้เกียจล้างรถ จริง ๆ
วันสงกรานต์ปีนี้ ... “เฮียหลา” ( เทพ โพธิ์งาม ) ทะเลาะกับกระผมตามปกติ บวกกับโดนรถกระบะคันข้างๆ สาดน้ำอีก เฮียหลา พขร. เลยมีอารมณ์ ซิ่งไม่จอดป้ายที่ผู้โดยสาร “ทรัพย์” ( กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ) จะต้องลง
คิดดู แค่รถเมล์ไม่จอดป้าย เป็นเรื่องเลยครับท่าน คุณผู้โดยสาร “ทรัพย์” แกปี๊ดขึ้นมาพร้อมด้วยประโยคเด็ด “มึงนึกว่ากูไม่กล้าใช่ไหม ?” ว่าแล้ว ก็ควักปืนมาจี้รถเมล์
แล้วผู้โดยสารคนอื่น ๆ บนรถเมล์ล่ะครับท่าน แต่ละท่านก็มีป้ายรถเมล์ที่ตัวเองจะลงด้วยกันทั้งนั้น เจ๊ผ่อง - แม่ค้าจอมงก ( เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ) ที่กำลังจะเอาของไปขายตลาดนัดจตุจักร , ดอน ( คมสัน นันทจิต ) หนุ่มหน้าตาหื่นกาม, ปลา ( อริศรา วงษ์ชาลี ) สวยหุ่นดี แต่งตัวโป๊เซ็กซี่
“ติ๊ก” ( อ้น-ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ ) สาวท้องแก่ กำลังไปโรงพยาบาลมั้ง? มากับผัวขี้บ่น “ซ้ง” (ซ้ง - ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์ ) พูดมากพอกัน , สวย ( อิม-อชิตะ ธนาศาตนันท์ ) สาวตดเหม็น หน้าตาก็ดี แต่ตดเหม็นขนาดนี้ พี่ว่าน้องไปอึ๊เลยดีกว่านะ น้องสวยเขามีสาวทอม ( อัญชนา เพ็ชร์จินดา ) ควงมาเป็นเพื่อนนั่งเบาะหลังอยู่ด้วยกัน
รถเมล์โดนจี้ วิ่งซิ่งขนาดนี้ โทรศัพท์ผมก็ดังไม่หยุด ก็ “น้องหมวย” ( เฟิร์น-พิมพ์ชนก พลบูรณ์ ) แฟนสาวสวย ขาวหมวย น่ารักของผม โทรศัพท์มาจิกตัวผมให้ไปเจอพ่อแม่เธอในวันสงกรานต์ให้ได้ พอบอกไปไม่ได้ รถเมล์โดนจี้อยู่ ก็โกรธจะเป็นจะตาย คิดมากไปถึงไหน ๆ
บนรถเมล์มี หญิงท้องแก่ใกล้คลอด สาวสวยปวดอึ๊สุด ๆ มีผู้โดยสารคนหนึ่งถือปืน อีกคนขับที่ถือพวงมาลัย ( รถ ) ไว้กับผู้โดยสารทั้งหลายที่เอาแต่ร้อง “จอดป้าย ฉันจะลง” ... กระเป๋ารถ ชายไทยธรรมดาอย่างผมจะไปทำอะไรด้ายยยยย....
“เมล์นรก หมวยยกล้อ” จะซิ่งไปถึงปลายทางไหน เรื่องราวจะจบยังไง โก๋จะทำให้รถเมล์จอดได้หรือไม่? จับเบาะนั่งให้มั่น ๆ มาร่วมพิสูจน์ มหัศจรรย์แห่งวันสงกรานต์กับ “เมล์นรก หมวยยกล้อ” สงกรานต์มหัศจรรย์ ที่คุณจะต้องถามตัวเองว่า “อะไรคือความหมายของการเดินทาง??” พบความหมายของวันสงกรานต์ และความสนุกสนานของภาพยนตร์ได้ วันที่ 10 เมษายน 2550 ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
สงกรานต์ : มหัศจรรย์ตรงไหนหว่า ? ( Director’s Note )
หลังจากทำหนังมาหลายแนว พากะเทยฝ่าดงระเบิด ควงปืนตะลุยตรอกเมียน้อย นั่งคุยกับเวรกรรมก็ทำมาแล้ว หนนี้ “เรียว-กิตติกร เลียวศิริกุล” ไม่พาไปไหนไกล แต่ชักชวนทุกท่านมานั่งรถเมล์ เที่ยวดูเรื่องราวสนุก ๆ ใกล้ตัวกัน
“ผมคิดมานานแล้วว่า อยากทำหนังแบบสนุก เอารถเมล์คันหนึ่งไปถ่ายกัน สนุกดี ถ่ายกันบนรถเมล์ หนีไปไหนกันไม่ได้หรอก ประจวบกับเหตุการณ์ คนเลี้ยงน้องที่บ้าน พอสงกรานต์ปุ๊บ เขาก็จะพร้อมใจกันกลับบ้านหมดทุกคน เห็นเลยว่า คนไทยจะตื่นตัวเรื่องกลับบ้านสงกรานต์มาก เราก็คิดว่า เออ...คนในกรุงเทพ ฯ นี่ เป็นคนต่างจังหวัดเยอะจริง ๆ
แค่คำว่า เทศกาลสงกรานต์นะ ...กลายเป็นสถานการณ์จำเพาะ เป็นข้อยกเว้น มันสำคัญมากกกกกก ถามว่า ไม่กลับวันนี้ได้ไหม ? ได้...ไม่ตายหรอก แต่พอเป็นสงกรานต์ คนมันก็อยากกลับ ก็ต้องกลับน่ะ
เมื่อประเด็นหลักของสงกรานต์ คือ การกลับบ้าน คนกรุงเทพฯ คนต่างจังหวัด ทุกคนก็จะกลับบ้านกันหมด เพราะฉะนั้น มันจึงเกิดการเดินทาง แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องราว ความมหัศจรรย์ของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงที่ เรื่องนี้ต้องเกิดวันสงกรานต์เท่านั้น... ไม่มีทางเกิดวันอื่นเด็ดขาด
เป็นภาพยนตร์เหตุเกิด ณ เทศกาลสงกรานต์ เรื่องของลิ้นกับฟันวันสงกรานต์ สนุกสนานไปกับเรื่องราวหลากหลายของคนบนรถเมล์ คนเดินทาง คนจะคลอดลูก คนกำลังจะมีครอบครัว มาอัดอยู่ในที่เดียวกัน ”
เรียว - กิตติกร เลียวศิริกุล ลงมือเขียนบท “เมล์นรก หมวยยกล้อ” เอง อาศัยจากประสบการณ์บนรถเมล์ล้วน ๆ ทั้งของตัวเองและของคนอื่น รวมกับสภาพความรู้สึกต่อบ้านเมืองในยุคปัจจุบัน และก็พบความมหัศจรรย์อีกข้อ คือ ประสบการณ์แปลกๆ ลำบากๆ บนรถเมล์นั้น เมื่อหยิบยกมาเล่า มันกลับกลายเป็นเรื่องตลก
“ตัวเราค่อนข้างรู้เรื่องรถเมล์ เพราะตอนเด็กนั่งรถเมล์ไป-กลับ วันละ 4 ชั่วโมง และคิดว่าทุกคนก็จะมีประสบการณ์ แต่พอเอาประสบการณ์ที่วันนั้นตอนเจอมันไม่ตลก พอเอามาเล่าทีไร มันกลับเป็นเรื่องตลกทุกทีเลย”
ประวัติผู้กำกับภาพยนตร์ ( เรียว — กิตติกร เลียวศิริกุล )
ผลงานการกำกับภาพยนตร์
2542 18-80 เพื่อนซี้ ไม่มีซั้ว
2542 ปาฏิหาริย์ โอม-สมหวัง
2544 Goal Club เกมล้มโต๊ะ
2545 พรางชมพู
2548 เดอะเมีย
2548 อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
2550 เมล์นรก หมวยยกล้อ
โปรดิวเซอร์ ( Producer’s Note )
“เรื่องชีวิตประจำวันบนรถเมล์นี่แปลก” จันทิมา เลียวศิริกุล โปรดิวเซอร์ - ผู้ควบคุมงานสร้าง กล่าวว่า
“ตอนเราเจอเรื่องราวบนรถเมล์ เราไม่ขำ ขำไม่ออก ณ วันนั้น วันเกิดเหตุมันซีเรียส แต่ถ้าเรามาเล่าประสบการณ์วันนั้นแล้วเราจะขำ กลายเป็นเรื่องตลกที่ทุกคนหัวเราะกับมัน”
เอมี่ - จันทิมา มอง “เมล์นรก หมวยยกล้อ” ว่า เป็นหนังจับเรื่องราวเกิดในวันเดียว — วันสงกรานต์ บอกเล่าเหตุการณ์บนรถเมล์ ชีวิตประจำวันถ่ายทอดโดยนักแสดงตลก 3 สไตล์ คือความสนุกขำขันบนสถานการณ์ตรึงเครียด
เราอยากให้ “เมล์นรก หมวยยกล้อ” เป็นหนังที่คนดูจะรู้สึกร่วมกัน
“ใช่ ๆ บนรถเมล์มันมีอย่างนี้แหละ วันก่อนฉันก็เจอ เราคิดถึง “เมล์นรก หมวยยกล้อ” ในแบบหนังครอบครัว หนังสงกรานต์ ไปดูกันทั้งบ้านเถอะ
เรื่องบนรถเมล์มันเหมือนชีวิตประจำวันของเรา แต่ละวันผ่านไป เราอาจจะมองว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย แต่มันมีนะ ไอ้เรื่องที่บอกว่า ชีวิตประจำวันที่บอกไม่มีอะไร คุณดูซิ มันมี ...
มันเปลี่ยนเราทุกวัน เดี๋ยวมันก็อย่างนี้ เดี๋ยวมันก็อย่างนั้น จนกว่าเราจะลงรถไป เจอเรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง เรื่องที่เราไม่นึกว่า เป็นเรื่องเป็นราวได้
วันสงกรานต์ การกลับบ้าน จุดเริ่มต้นของมัน มาจากคำว่า ครอบครัวเหมือนกันนะ ก็คนอยากกลับบ้านไง วันนี้วันครอบครัวแล้วฉันไม่ได้กลับไง คนขับก็หงุดหงิด คนโดยสารจะกลับบ้านก็ไม่ได้กลับ สิ่งที่เราพบเห็นบนรถ คือ ทุกๆ คนกำลังไปหาใครอีกคนที่บ้าน เรื่องราวพวกนี้ล่ะชีวิตคนจริง ๆ เลย”
Profile จันทิมา เลียวศิริกุล ( โปรดิวเซอร์ - ผู้ควบคุมงานสร้าง )
ผลงานภาพยนตร์ที่ดูแลควบคุมงานสร้าง
พ.ศ. 2544 มือปืน/โลก/พระ/จัน
พ.ศ. 2544 ผีสามบาท
พ.ศ. 2546 พันธ์ร็อกหน้าย่น
พ.ศ. 2546 สังหรณ์
พ.ศ. 2547 ซาไกยูไนเต็ด
พ.ศ. 2548 จอมขมังเวทย์
พ.ศ. 2548 เดอะเมีย
พ.ศ. 2548 อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
พ.ศ. 2549 ผีเสื้อสมุทร
พ.ศ. 2549 รักจัง
พ.ศ. 2549 ผีคนเป็น
พ.ศ. 2549 แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า
พ.ศ. 2550 ผีไม้จิ้มฟัน
พ.ศ. 2550 เมล์นรก หมวยยกล้อ
ตลก 3 เจนเนอเรชั่น : มหัศจรรย์ยิ่งกว่า
ซูโม่ กิ๊ก หรือ เกียรติ กิจเจริญ เล่าถึงนักแสดงแต่ละคนที่มาร่วมแสดงใน “เมล์นรก หมวยยกล้อ” ว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจรับแสดง หนังใหญ่ อีกครั้งในรอบนับ 10 กว่าปีที่ห่างหายจากแผ่นฟิล์มไป
“ส่วนหนึ่งที่อยากแสดงเรื่องนี้ เพราะได้เล่นกับพี่เทพ เล่นกับโน้ส แต่ถึงเราไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ เราก็อยากดูนะ ถ้ารถเมล์คันนี้มีพี่เทพเป็นคนขับรถ โน้สเป็นกระเป๋ารถ แล้วพี่เป็นผู้โดยสาร จะเกิดอะไรขึ้นว่ะ??? พี่รู้สึกอย่างนี้มากกว่า โอ๊ะ !! ฉิบหายแหละรักสามเส้าแบบนี้ แถมในรถมี คมสัน หน้าตาบ้ากามอยู่ในรถ มี อิม-อชิตะ ปวดท้องขี้ ร้องแอ้ะ ๆ อยู่ในรถ มี พี่จิ๊ก - เนาวรัตน์ เป็นแม่ค้าโหนรถคันนี้ ..... เมล์นรกชัด ๆ!!! ทำให้พี่มีความรู้สึกว่า เรื่องนี้น่าเล่น
จริง ๆ พี่ว่า หนังเรื่องนี้ เราจะขำในความจริง เพราะทุกคนเคยเจอเรื่องแบบนี้ อารมณ์อย่างนี้ เราก็เคยเป็น เคยเจอแบบรถเมล์ไม่จอดป้ายเหมือนกันนะ แล้วเราก็แอบหงุดหงิดว่า ทำไมคนขับไม่ยอมจอดให้เราลงตรงป้าย แล้วเราก็เคยเจอกระเป๋ารถเมล์ที่กวน พูดกวน ชิดในหน่อยพี่ ชิดเต็มเหนี่ยวแล้ว ไม่รู้จะให้ชิดไปถึงไหน ผู้กำกับเขารู้จักเอาชีวิตจริงมาผูกกัน ”
ผู้กำกับภาพยนตร์ เรียว กิตติกร เล่าถึงการกำกับภาพยนตร์ที่มีนักแสดงทำงานกันบนรถที่วิ่งอยู่ตลอดเวลา “กำกับฯ นักแสดงที่ขับรถไปด้วยตลอดเวลา ก็เสี่ยงดี”
ป๋าเทพนี่เวลาสั่งแอ็คชั่น จะลืมขับรถไปเลยนะ ตั้งหน้าตั้งตาเถียงจนโน้สยังเงียบเลย ยอมเทคดีกว่า ปล่อยให้ป๋าเทพขับผ่านโค้งตรงนี้ไปก่อน ป๋าเทพ นี่คือ สมาธิอยู่ที่เล่นหนังเลยไง ใช่ มาเล่าตอนนี้มันขำ หัวเราะได้ แต่ตอนถ่ายทำ ระทึกใจเลย กลัวรถเมล์จะสาวเอาสามล้อติดมาด้วย
พี่กิ๊กก็คุยครั้งเดียว พี่กิ๊กเป็นคนชัดเจน แรงเยอะ เป็นนักแสดงมีวินัย แบบนักแสดงรุ่นเก่า ถ้าไม่บอกให้เลิกซ้อม เขาก็ไม่เลิกซ้อม ถามอยู่นั่น แบบนี้ใช่มั้ย หรือ ถ้ามาร์คตำแหน่งจุดแล้ว เขาก็จะไม่มีวันออกจากมาร์ค ถ้าไม่บอกให้ออก พี่กิ๊กจะเป็นแบบนี้เลย
อย่างโน้สนะ พอคิดถึงกระเป๋ารถเมล์ เค้าเป็นคนมูฟเม้นท์ดีมาก รู้สึกเค้าเป็นคนมีจังหวะของเค้า เดินไปขึ้นรถ-ลงรถ ลงประตูหน้า ขึ้นประตูหลัง โยกตัว เวลาเก็บตังค์ก็ยืนเอนไปเอนมา ยืนขาเดียวเก็บตังค์ได้ นักแสดงคนไหนที่จะมาเล่นอย่างนี้ได้ ก็น้อยคน เราไม่เคยทำงานร่วมกับโน้ส แต่คิดถึงคนที่มีจังหวะและลักษณะการแสดงแบบนั้น พอนึกถึงโน้ส ก็ใช่.... เขาเป็นคนที่มีจังหวะการแสดงแบบนั้นจริง ๆ แต่ตัวจริงเขาจะเป็นนักคิด จะทำอะไรเดี๋ยวนะ...ขอให้เขาคิดสักหน่อย แต่พอแสดงจะสมาธินิ่ง
อีกคนที่เล่นเหนือเลย คือ พี่จิ๊ก — เนาวรัตน์ ตัวนี้เป็นชาวบ้านมาก บนรถเมล์เราต้องการตัวแทนชาวบ้านสักคน ที่คอยร้องเรียน เรื่องรถเมล์ไม่จอดเนี้ย!!! พี่จิ๊กเล่นได้เบสิคชาวบ้านเลย เหนือกว่าที่เราคิด
ตัวละครประหลาดสุดคือ ดอน - คมสัน นันทจิต ชอบให้มีตัวละครอย่างนี้ อยากให้มันเป็นตัวประหลาด ที่มักพูดอะไรที่คนดูไม่เข้าใจ แล้วก็เป็นปัจเจกชนสูง ตัวนี้เป็นตัวละครที่สร้างมาเองตอนเขียนบท
และขาดไม่ได้ บนรถเมล์ ต้องมีคนปวดท้องขี้ ไม่รู้ทำไม บนรถเมล์มันต้องมีคนปวดขี้ แล้วถ้ามันเป็นผู้หญิงล่ะ นักแสดงหญิงที่แสดงตลกได้เนียน ๆ ตอนแรกเราคิดไม่ออก แต่พอได้ อิม — อชิตะ มาเล่น เค้ามีทางแสดงของเค้าขึ้นมาเลย ผู้หญิงคนนี้ แล้วตัวจริง อิมก็เป็นคนปวดขี้บ่อยมาก เข้าห้องน้ำได้ทั้งวัน
จริง ๆ หนังเรื่องนี้มันจะมีธรรมชาติของมันเกิดขึ้นเอง เราถ่ายทำก็ตามลำดับเส้นทางรถเมล์จากสนามหลวง จนถึงรังสิต หลังจากนั้น หนังก็ไปเรื่อยแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้น มันมาตามเส้นทางเลย ผ่านไปไหน เรื่องมันก็เกิดขึ้นเอง เราแค่เก็บเรื่องราวมา”
รถเมล์” โลเคชั่น เก๋ กู๊ด… แต่ร้อน
ด้วยโจทย์ว่า ถ่ายทำบนรถเมล์ทั้งเรื่อง วิ่งไปบนถนนเส้นทางจริง ๆ “รังสิต —สนามหลวง”
รถเมล์” 1 คัน จึงถูกซื้อมาเพื่อเป็นโลเคชั่นเคลื่อนที่ เก๋ กู๊ด ถ่ายทำได้ เคลื่อนที่ได้ แต่ทุกฝ่ายต้องระดมกำลังและมันสมองกัน เพื่อคิดค้นวิธีการถ่ายทำ ตลอดจนอุปกรณ์ เพื่อให้ถ่ายทำได้บนรถเมล์จริง ๆ ที่กำลังแล่นอยู่
“ถ่ายหนังบนรถเมล์ พื้นที่น้อย-มีจำกัด เลยมีทั้งข้อดีและข้อเสีย” เรียว - กิตติกร เล่า
“ข้อดีคือ ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะมันเป็นรถเมล์อยู่แล้ว เราจะตั้งใจไม่ตั้งใจมันก็เป็นรถเมล์ ที่สำคัญคือ เคลื่อนไหวได้ แง่ดีของมันคือ ทำให้หนังตื่นเต้นขึ้น เพราะรถมันเคลื่อนที่ แต่การอยู่บนรถนาน ๆ มันเหนื่อยหนักใช้ได้ วันที่ปิดหน้าต่างถ่ายทำ ร้อนอยู่กันไม่ได้เลย แต่ก็ต้องปิดเพราะลมมันพัด แล้วเสียงลมเข้าไมค์บูม
แต่ข้อเสีย คือ ไม่มีพื้นที่ให้คนเข้าไปทำงานได้ ที่จะให้ตากล้องอยู่ยังไม่มีเลย ไม่ต้องพูดถึงคนวัดแสง เหมือนพอเราขึ้นไปปุ๊บ มันก็ไม่มีพื้นที่ให้ผู้ช่วยกล้องแล้ว ทุกคนก็เลยต้องทำกันคนละหลาย ๆ หน้าที่พยายามทำตัวให้เล็ก ๆ และถ่ายหนังไป ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ถ่ายเองบ้าง วัดแสงเอง แล้วทุกคนก็ทำอย่างนี้ เดี๋ยวถ่ายภาพนิ่ง เดี๋ยวมาดันรถ ผู้ช่วยผู้กำกับฯ ก็เล่นหนังไปด้วย คนถ่ายภาพนิ่งก็วัดแสงไปด้วย แถมด้วยช่วยตีเสลทได้ด้วย
แล้วสิ่งรอบตัวเรามันควบคุมยากหมด เสียงก็ยาก เสียงจริงบนถนนไม่เท่ากัน แสงเดี๋ยวก็มาซ้ายที ขวาที แบล็คกราวน์ของรถเป็นคลอง ถ่ายไปอยู่ด้านซ้าย พอรถวิ่งไปสักพัก คลองกลับมาอยู่ขวา ก็ต้องเริ่มตั้งต้นกันใหม่ เสียงเครื่องยนต์อีก เรื่องนี้สุดยอดเลย
แต่เราตั้งใจจะถ่ายทำให้ภาพบรรยากาศจริง ก็จะหาทาง หาอุปกรณ์เครื่องมือ คิดกันเอง รางดอลลี่ก็ใช้ราวโหนรถเมล์นั่นแหละ ถอดที่ยึดมันออก ให้ราวโหนรถเมล์เป็นรางดอลลี่กล้องได้ ก็บนรถมันไม่มีที่ตั้งกล้อง ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น เราก็คิดว่า จะเอาแบบนี้ ทีมงานบ้านริก ก็ไปคิดแบบมา
พอเข็นกล้องมาไม่ได้ ติดเสาหน้าประตูทางขึ้นรถ เราก็ต้องถอดเสา คิดไปเรื่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ เราจะถ่ายอะไร เจออุปสรรคอะไร ค่อยหาทางแก้ไข เจออุปสรรค เราค่อยคิดอุปกรณ์มาแก้
สุดท้ายแล้ว กว่าจะเสร็จเป็นหนังทั้งเรื่อง สตูดิโอรถเมล์เคลื่อนที่นี้ นอกจากจะถูกดัดแปลงภายในตัวรถแล้ว ตัวถังรถภายนอกก็โดนเจาะ โดนผ่า แม้กระทั่งฝาเติมน้ำมันก็แอบโดนเจาะเป็นมุมกล้องมุมพิเศษให้เรา ๆ ได้เห็นบรรยากาศแท้ ๆ บนรถเมล์กันอีกด้วย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ