กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--PRdd
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ว่า ภายหลังธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นเพดานสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% สำหรับมุมมองของวายแอลจีมองว่ามาตรการที่จีนได้ประกาศออกมาล่าสุดนั้นถือว่าเป็นมาตรการที่ดีสามารถแก้ปัญหาได้ตรงประเด็นแต่ยังขาดความเด็ดขาดพอสมควร ซึ่งมาตรการที่ออกมาส่งผลได้ทั้งทางบวกและทางลบต่อราคาทองคำ ทางบวกก็คือมาตรการดังกล่าวอย่างน้อยก็จะยังรักษาระดับราคาทองคำให้ทรงตัวอยู่ระดับนี้ต่อไป ในขณะที่ทางลบมองว่าความกังวลของนักลงทุนที่ว่าเมื่อไหร่จีนจะสร้างความประหลาดใจโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีกครั้ง ซึ่งความกังวลนั้นจะทำให้การขยับขึ้นของราคาทองคำเป็นไปแบบไม่แข็งแกร่งอย่างที่ผ่านมา จากปัจจัยดังกล่าวจึงมองว่าราคาทองคำในระยะสั้นอาจไม่ขยับไปไกลมากนัก ในส่วนของมาตรการของสหรัฐเองแน่นอนว่าการจะลดการว่างงานที่มีอยู่เกือบ 15 ล้านคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้สหรัฐจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวนั่นเอง โดยในระยะสั้นทางวายแอลจียังมองราคาอยู่ในช่วงการปรับฐานและจะสามารถขยับเพิ่มสูงขึ้นในระยาวต่อไป
ดังนั้นในสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีจึงแนะนำให้นักลงทุนทำการซื้อขายภายในกรอบในช่วงการปรับฐานของราคาทองคำไปก่อนโดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 1,330-1,385 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังอย่างมากต่อแรงขายทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบกรอบบนบริเวณ 1,385 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทางวายแอลจีคาดว่า ณ บริเวณดังกล่าวจะมีแรงขายทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงได้มากพอสมควร ในขณะที่แนวรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะอยู่ที่กรอบล่างคือระดับ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาลงมาไม่หลุดแนวนี้การดีดตัวของราคาทองคำก็สามารถทำให้นักลงทุนขายทำกำไรได้เช่นกัน ทั้งนี้หากราคามีการหลุดแนวรับดังกล่าวลงไปแนะนำให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อเพื่อออกมาดูทิศทางที่ชัดเจนของราคาทองคำทันที ส่วนแนวรับแนวต้านในสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีประเมินไว้ ดังตารางที่ 1
ตาราง 1: สรุปแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญในสัปดาห์นี้
แนวรับ2 แนวรับ1 แนวต้าน1 แนวต้าน2
1,330 1,342 1,375 1,385
ที่มา : YLG Bullion & Futures