กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ปภ.
เหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 6.1 ริคเตอร์ ที่เกิดขึ้นบริเวณเขตชายแดนลาวกับพม่าห่างจากจังหวัดเชียงราย ของประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและกรุงเทพฯ สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผู้อาศัยบนตึกสูงบางส่วนต้องหนีลงมาอยู่นอกอาคารเพราะเกรงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากอาฟเตอร์ช็อคที่จะเกิดขึ้นตามมา เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป และหวั่นเกรงว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกบ่อยครั้ง จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวทั้งสิ้น 61 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความตื่นตระหนกของประชาชน และเตรียมพร้อมของหน่วยปฏิบัติ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะนำถึงข้อปฏิบัติตนสำหรับประชาชนทั่วไป ในการเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อป้องกันอันตรายจากแผ่นดินไหว ดังนี้
1. ช่วงก่อนเกิดแผ่นดินไหว
ผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหรือเจ้าของบ้าน ควรตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของบ้านและเครื่องใช้ภายในบ้าน และทำการยึดอุปกรณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น ตู้และชั้นหนังสือ ยึดติดกับฝาบ้านหรือเสาให้มั่นคง พร้อมทำการซักซ้อมความพร้อมของสมาชิกในครอบครัว โดยกำหนดวิธีปฏิบัติตนในยามเกิดแผ่นดินไหว และกำหนดจุดนัดพบที่ปลอดภัยนอกบ้านไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้มีที่ปลอดภัยหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น และควรสอนสมาชิกในครอบครัวให้รู้จักวิธีตัดไฟ ปิดวาล์วน้ำและถังแก๊ส และแนะนำสมาชิกในครอบครัวให้เรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สมาชิกในครอบครัว ควรจัดเตรียมไฟฉาย ถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ใช้ในบ้าน และแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเก็บไว้ในจุดใด ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น โดยสมาชิกทุกคนในบ้านควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซสะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า ไม่ควรวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูงๆ เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวอุปกรณ์เหล่านั้นอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้ จึงควร
ผูกเครื่องใช้หนักๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน ควรมีการวางแผนกำหนดจุดนัดพบ สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไป
ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวช่วงที่ 2 ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ให้ตั้งสติอย่าตื่นตระหนกตกใจ ถ้าอยู่ในอาคาร ควรอยู่ในจุดที่มีโครงสร้างแข็งแรงที่สุด หรือหาที่หลบกำบังให้พ้นจากสิ่งหล่นทับ และอยู่ห่างจากประตูระเบียง และหน้าต่าง งดใช้ลิฟท์ ห้ามใช้เทียนหรือไม้ขีดไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
ถ้าอยู่นอกอาคาร ควรอยู่ห่างจากอาคารสูงเสาไฟฟ้า หรือต้นไม้ใหญ่ และไม่ขับรถในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว หากอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล เมื่อได้รับประกาศแจ้งเตือนให้รีบอพยพขึ้นที่สูงและอยู่ห่างจากชายฝั่งให้มากที่สุดเพราะอาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามิได้ถ้าอยู่ในรถ ให้หยุดรถและอยู่ภายในรถจนกระทั่งแผ่นดินไหวหยุด ไม่เข้าไปอยู่ใกล้อาคาร สะพาน เสาไฟฟ้า หน้าผาหรือไหล่ถนนที่สูงชัน ซึ่งอาจจะเกิดแผ่นดินถล่มได้ เมื่อขับรถต่อไปให้ระมัดระวังถนนที่ได้รับความเสียหาย
กรณีที่อยู่ในตึกสูง หากตึกมีความสูงเกิน 4 ชั้นขึ้นไป ไม่ควรวิ่งลงจากตึก ให้หาที่หลบที่ปลอดภัยใต้โต๊ะที่อยู่ภายในอาคารนั้น และให้รอจนกว่าเหตุการณ์สงบลงแล้วจึงค่อยออกจากตึก เนื่องจากตึกสูงที่สร้างหลังปี 2540 จะมีการออกแบบที่รองรับการสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวไว้ด้วย จึงปลอดภัยกว่าการวิ่งลงบันได และที่สำคัญ การวิ่งลงมาออที่บันไดพร้อมๆ กันอาจทำให้บันไดหักได้ แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในตึกที่มีความสูงไม่เกิน 4 ชั้น ให้วิ่งลงมาจากตึกทันทีเพราะความสูงเพียงเท่านี้เราสามารถวิ่งลงมาได้ทันหากเกิดตึกถล่มขึ้น หากอยู่ในอาคารเก่าที่มีสภาพชำรุดไม่มั่นคงแข็งแรงให้หาทางออกจากอาคารให้เร็วที่สุด แต่ถ้าอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถวิ่งออกมาได้ให้หมอบหรือหาวิธีป้องกันตัวเองให้มากที่สุด และรอจนมีผู้เข้ามาช่วยเหลือ
ช่วงที่ 3 เมื่อแผ่นดินไหวสงบแล้ว ควรตรวจสอบตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากได้รับบาดเจ็บให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน รีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้ ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือเศษวัสดุแหลมคมอื่นๆ ตรวจสอบสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊สถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟหรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว และรีบออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง เพราะอาจเกิดไฟฟ้าดูด ควรเปิดวิทยุเพื่อรับฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริงๆ สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้ อย่าเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูงหรืออาคารพัง เพราะอาจได้รับอันตรายได้ และอย่าหลงเชื่อข่าวลือ ต้องฟังคำประกาศแจ้งเตือนจากภาครัฐเท่านั้น
นอกจากนี้ การเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย และพื้นที่ส่วนใหญ่ชุ่มน้ำมากแล้ว การเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงและมีการสั่นไหวตามมาอีกหลายครั้ง จะเป็นเหตุให้หินและพื้นดินที่ชุ่มน้ำบนพื้นที่สูงของพื้นที่เสี่ยงภัยถล่มลงมาทับเส้นทางและบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตอนล่างได้ เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินสไลด์และหินถล่ม สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และผู้ขับขี่ยานพาหนะใช้เส้นทางสัญจรไป-มา
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยประสานให้จังหวัดดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย
หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทุกพื้นที่ ให้ทราบเกี่ยวกับภัยจากดินสไลด์และหินถล่ม สำหรับผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะสัญจรไป-มา บนเส้นทางที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ ตลอดจนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อำเภอ/กิ่งอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดและแก้ไขปรับปรุงในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์เฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งใช้ประโยชน์จาก “มิสเตอร์เตือนภัย” ซึ่งประจำหมู่บ้านเสี่ยงภัยในการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ หากพื้นที่ใดมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดดินสไลด์และหินถล่มให้จังหวัดพิจารณาอพยพประชาชนในพื้นที่นั้นไปในที่ปลอดภัย โดยดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที
แม้เราไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อใด การเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากหน่วยงานภาครัฐจะเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ประชาชนก็ควรมีส่วนร่วม
ในการเตรียมพร้อมรับมือ ด้วยการศึกษาถึงวิธีการป้องกันภัยจากแผ่นดินไหวเพื่อเตรียมการรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น เพราะหากประชาชนมีการเตรียมพร้อมที่ดีแล้ว จะช่วยลดการสูญเสียได้มาก และที่สำคัญควรปฏิบัติตามคำแนะนำ
ของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน