PHOL เคาะช่วงราคาขาย IPO 3.6-3.8 บาท/หุ้น แถมเงินปันผล 0.15 บาท พร้อมโชว์ผลงานงวด 9 เดือนกำไรพุ่ง 131%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 23, 2010 16:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--IR PLUS บมจ.ผลธัญญะหรือ PHOL " เคาะกรอบราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.60-3.80 บาท/หุ้น มีส่วนลดให้กว่า 35% ที่พ่วงปันผลอีก 0.15 บาท "พรศักดิ์ ชุนหจินดา" คุยตั้งราคาจูงใจหวังเอาใจผู้ถือหุ้นใหม่ คิดเป็น P/E ปีหน้า เพียงประมาณ 8 เท่า พร้อมโชว์ผลงาน 9 เดือนยอดเยี่ยม กำไรพุ่ง 131% จาก 13 ลบ. ในปีก่อนมาเป็น 30 ลบ. หลังยอดขายและบริการเพิ่ม แต่ต้นทุนลด มั่นใจไตรมาสสุดท้ายยังโชว์ผลงานเติบโต ต่อเนื่องได้ ส่วนปีหน้า ส่งสัญญาณรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยเต็มปีมั่นใจมีโอกาสโตโดดเด่นจากปี 2553 นายพรศักดิ์ ชุนหจินดา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้นำในธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจร เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ ได้กำหนดช่วงราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 40,000,000 หุ้นแล้ว ในช่วงราคาเสนอขายหุ้นละ 3.60 - 3.80 บาท โดยราคาที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชน คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้น ต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อดีต อยู่ที่ประมาณ 13-14 เท่า เมื่อคิดจากผลกำไรใน4 ไตรมาสย้อนหลังซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2009 กอปรกับมีการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจระบบบำบัดน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในปลายปี 2552 ซึ่งเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2553 เป็นต้นไป สำหรับราคาหุ้นดังกล่าวถือว่ามีส่วนลดให้กับนักลงทุนในอัตราร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วง 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 21.70 เท่า ในขณะที่ P/E ของบริษัทจะปรับลงได้อีกมากจากการเติบโตของ ผลประกอบการในปีหน้า อีกทั้งผู้ลงทุนในหุ้น IPO มีโอกาสได้รับเงินปันผลในเดือน มกราคม อีก 0.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณร้อยละ 4 นอกจากนี้ผู้ลงทุนอาจมีโอกาสได้รับเงินปันผลเพิ่มเติมสำหรับปี 2553 อีกด้วย "เรากำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่จูงใจในระดับราคา 3.60-3.80 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมาก หากพิจารณา ผลประกอบการที่โตกว่า 131% จากปี 2552 นอกจากนี้ ธุรกิจรีไซเคิลน้ำและสายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2554 เป็นต้นไปเนื่องจากสามารถรับรู้รายได้เต็มปี ทำให้ราคาหุ้นน่าสนใจ ประกอบกับราคาดังกล่าวมีส่วนลดจากเป้าหมายของนักวิเคราะห์เฉลี่ยประมาณ 20 -25% คิดเป็น P/E ปีหน้า เพียงประมาณ 8 เท่า เท่านั้น นอกจากนั้น ยังจะได้รับเงินปันผลระหว่างกาลอีกในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ตามที่บอร์ดบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัทฯ รวมทั้งผู้ซื้อหุ้น IPO ด้วย จึงถือเป็นการเอาใจผู้ถือหุ้นใหม่ ที่จะเข้ามาถือหุ้น PHOL ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก " นายพรศักดิ์กล่าว ทั้งนี้ PHOL รายงานผลประกอบการรวมบริษัทย่อยในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท เติบโตถึงร้อยละ 131 จากช่วงเดียวกันของปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท โดยผลกำไรที่เติบโตขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในงวด 9 เดือนแรกของปี 2553 ผลธัญญะมีรายได้รวม 472 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 41 จากงวดเดียวกันของปี 2552 ที่มีรายได้รวม 338 ล้านบาท ในขณะอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 99 ล้านบาท ในปี 2552 มาเป็น 147 ล้านบาท โดยเติบโตกว่าร้อยละ 48 ในปี 2553 คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นกว่าร้อยละ 30 โดยการเติบโตของรายได้เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และ การเติบโตของลูกค้าซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของบริษัท ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และการเริ่มรับรู้รายได้ของบริษัทย่อย คือ บริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ประเภทจัดการมลภาวะทางน้ำเข้ามาเสริม อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เพียงครึ่งหลังของปี 2553 โดยจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2554 ในขณะที่กำไรในงวด 9 เดือนเติบโตอย่าง โดดเด่น เพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับสูงขึ้นจากปีก่อน จากสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง และบริษัทยังได้รับผลดีจากการแข็งค่าของเงินบาท จึงส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนดังกล่าว นายพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเติบโตของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยลูกค้ากว่า 4,000 ราย ยังมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ส่วนหนึ่งยังได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เพราะบริษัทฯ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศประมาณ 70% ประกอบกับจะรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยเข้ามาเพิ่มขึ้น บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) มีแผนจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.63 ของทุนที่เรียกชำระแล้ว โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนในครั้งนี้ บริษัท มีนโนบายจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนไปใช้ลงทุน ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตน้ำเพื่อจำหน่าย จำนวน 70 ล้านบาทในปี 2554 ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 11/2553 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัทจัดสรรกำไรจากกำไรสะสมเพื่อจ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20.25 ล้านบาท โดยจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท รวมถึงผู้ลงทุนในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วย โดยบริษัทมีเงื่อนไขว่าบริษัทต้องดำเนินการขายหุ้นต่อประชาชนแล้วเสร็จ และหุ้นของบริษัทได้รับการจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกันนี้ ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทใน วันที่ 20 ธันวาคม 2553 เพื่อพิจารณายืนยันแผนการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลข้างต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ