กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงาน วันคนพิการสากล ประจำปี ๒๕๕๓ ในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ภายใต้แนวคิด“Keeping the Promise: Mainstreaming Disability in the Millennium Development Goals towards 2015 and beyond” หรือ“การยึดมั่นคำสัญญา : การผนวกประเด็นความพิการเข้ากับการพัฒนากระแสหลักในเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ และต่อจากนั้น”เพื่อมุ่งเน้นเปิดโอกาสให้คนพิการแสดงออกถึงศักยภาพให้สังคมได้ตระหนักถึงความเท่าเทียมและยอมรับความสามารถของคนพิการ
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้มีมติประกาศให้วันที่ ๓ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล เพื่อเป็นการระลึกถึงวันครบรอบที่สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติมีมติรับแผนปฏิบัติการโลกว่าด้วยเรื่องคนพิการ และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนพิการ ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกได้ดำเนินการให้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคนพิการสากลเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี ๒๕๕๓ นี้ กำหนดให้มีการจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน — ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ในหัวข้อ “ยิ้มสู้...เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียม” โดยได้น้อมนำชื่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งพระองค์ได้แต่งบทเพลงนี้ เพื่อเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้กับคนพิการ ประกอบกับในปี ๒๕๕๔ จะเป็นปีมหามงคลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่คนพิการและผู้มาร่วมงานวันคนพิการสากลในปีนี้ จะได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ โดยในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน และประกาศนโยบายด้านคนพิการ รวมถึงการมอบรางวัลแก่บุคคล หน่วยงาน องค์กรดีเด่น ที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านคนพิการ องค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพิการ รวมจำนวน ๙๒ รางวัล และในปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการขอพระราชทานรางวัล “ยิ้มสู้” เพื่อมอบเป็นมงคลสูงสุดและรางวัลเกียรติยศแก่หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และบุคคลพิการ ผู้ดูแล คนพิการ และผู้สนับสนุนงานด้านคนพิการ รวมจำนวน ๙ รางวัล อันเป็นการแสดงถึงการเชิดชูคุณค่าแห่งความเท่าเทียมในสังคม ณ ห้องรอยัลจูบีลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
นายอิสสระ กล่าวอีกว่า ในรอบปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสิทธิ โอกาส และความเสมอภาค เท่าเทียมของคนพิการอย่างมาก โดยได้ผลักดันนโยบายหลายเรื่อง เช่น การจัดสวัสดิการสิทธิเบี้ยความพิการ เดือนละ ๕๐๐ บาท ให้แก่คนพิการทุกคน จำนวนมากกว่า ๘ แสนคน และมีมติคณะรัฐมนตรีหลายประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เช่น การจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการอย่างทั่วถึงและครบถ้วนภายในปี ๒๕๕๔ เรื่องกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน ๑๐๐ : ๑ คน เรื่องมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ รวมถึงจัดระบบสวัสดิการต่างๆ โดยคำนึงถึงการไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ เช่น คนพิการสามารถเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี บริการล่ามภาษามือ ผู้ดูแลคนพิการ และผู้ช่วยคนพิการ และการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับ คนพิการ
“จากการที่รัฐบาลมีนโยบายสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า ภายในปี ๒๕๖๐ พม.ในฐานะที่รับผิดชอบกลุ่มเป้าหมายคนพิการ ได้รับฟังข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจะได้เสนอแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านคนพิการของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลต่อไป อาทิ การส่งเสริมความเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ และการจัดระบบงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ” นายอิสสระ กล่าว