ปภ. รายงานยังมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด ผู้เสียชีวิตรวม 255 ราย ณ วันที่ 26 พ.ย. 53

ข่าวทั่วไป Friday November 26, 2010 10:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยรวม 51 จังหวัด คลี่คลายแล้วและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 42 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด 26 อำเภอ 206 ตำบล 1,293 หมู่บ้าน 1364,912 ครัวเรือน 461,439 คน ผู้เสียชีวิต 255 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่10 ตุลาคม — ปัจจุบัน ว่ามีพื้นที่ประสบภัยรวม 51 จังหวัด 558 อำเภอ 32,423 ตำบล 32,425 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,612,472 ครัวเรือน 8,970,653 คน คลี่คลายแล้ว 42 จังหวัด ขณะนี้ทั่วประเทศยังคงมีพื้นที่ประสบภัย ยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด 26 อำเภอ 206 ตำบล 1,293 หมู่บ้าน 134,912 ครัวเรือน 461,439 คน ผู้เสียชีวิต 255 ราย ดังนี้ - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง มีพื้นที่ประสบภัย รวม 39 จังหวัด 425 อำเภอ 3,098ตำบล 26,226 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,002,961 ครัวเรือน 7,038,248 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู 32 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว นครนายก กำแพงเพชร พิษณุโลก หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี สมุทรปราการ นครปฐม อุทัยธานี บุรีรัมย์ ฉะเชิงเทรา อ่างทอง ชัยภูมินครสวรรค์ นครราชสีมา สุรินทร์ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สระบุรี ขอนแก่น มหาสารคาม และศรีสะเกษ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 7 จังหวัด 17 อำเภอ 133 ตำบล 652 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 76,592 ครัวเรือน 276,819 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 7,784,368 ไร่ผู้เสียชีวิต 177 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี - ภาคใต้ มีพื้นที่ประสบภัยรวม 12 จังหวัด 133 อำเภอ 874 ตำบล 6,197 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 609,511ครัวเรือน 1,932,405 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู 10 จังหวัด ได้แก่ สตูล นราธิวาส ยะลา กระบี่ ชุมพร ระนอง ปัตตานี ตรัง สงขลา และนครศรีธรรมราช ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด 9 อำเภอ 73 ตำบล 641 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 58,320 ครัวเรือน 184,620 คน ผู้เสียชีวิต 78 ราย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 48 ครัวเรือน 166 คนพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 43,964 ไร่ ได้แก่ อำเภอฆ้องชัย และกมลาไสย ร้อยเอ็ด น้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 34 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 905 ครัวเรือน 2,738 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 39,822.50 ไร่ ได้แก่ อำเภอจังหาร โพนทราย และเชียงขวัญ อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 2 เทศบาล 29 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,610 ครัวเรือน 5,373 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 10 ตำบล 91 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 9,150 ครัวเรือน 26,460 คน ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และสองพี่น้องพระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 64 ตำบล 393 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 34,352 ครัวเรือน 108,142 คน ได้แก่ อำเภอบางไทร มหาราช ผักไห่ และบางบาล ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 19 ตำบล 2 เทศบาล 50 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,500 ครัวเรือน 62,000 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และสามโคก นนทบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 27 ตำบล 44 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 71,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี และปากเกร็ด ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 36 ตำบล 245 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 29,228 ครัวเรือน 91,394 คน ได้แก่ อำเภอพุนพิน วิภาวดี ไชยา บ้านนาเดิม และท่าชนะ พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 37 ตำบล 396 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 29,092 ครัวเรือน 93,226 คนพื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 482,330 ไร่ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ควนขนุน ปากพะยูน และบางแก้ว สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนกว่า 2,000 ลำ ถุงยังชีพกว่า 500,000 ชุด เต๊นท์ที่พักอาศัยกว่า 4,600 หลัง รถผลิตน้ำดื่ม 17 คัน น้ำดื่มกว่า 400,000 ขวด เครื่องสูบน้ำกว่า 400 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิดรวมกว่า 700 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 15 คัน กระสอบทรายกว่า 4,120,000 ใบ ยารักษาโรค 33,000 ชุด เครื่องนุ่งห่ม 700 ชุด รถสุขา/สุขาเคลื่อนที่ 7,158 หลัง พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 2,800 คน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจน จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งจ่ายเงินชดเชยและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ