PHOL เคาะราคา IPO เอาใจนลท. 3.60 บ./หุ้น KGI ควง 4 อันเดอร์ไรท์เปิดจอง 29 พ.ย. — 1 ธ.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--IR PLUS บมจ.ผลธัญญะ สวมบท "พ่อบุญทุ่ม " เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่กรอบล่าง 3.60 บาท/หุ้น มีส่วนลดให้กว่าร้อยละ 35 แถมแจกปันผลอีก 0.15 บาท ย้ำตั้งราคาจูงใจหวังเอาใจผู้ถือหุ้นใหม่ ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและ ลีด อันเดอร์ไรท์ เตรียมจูงมือ 4 อันเดอร์ไรท์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป บล.ธนชาติ บล.ทิสโก้ และ บล.บัวหลวง เปิดจองหุ้นทันที 29 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ เชื่อเสียงตอบรับคับคั่ง เหตุผลประกอบการโต โดดเด่นแถมมีทิศทางการขยายตัวชัดเจนในระยะยาว นายพรศักดิ์ ชุนหจินดา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้นำในธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจร เปิดเผยว่าบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน40 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 3.60 บาท/หุ้น โดยราคาหุ้นดังกล่าวถือว่ามีส่วนลดให้กับนักลงทุนในอัตราร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai พร้อมกันนี้ บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้เป็น ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยบริษัทหลักทรัพย์อีก 4 แห่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Underwriter) ได้แก่ บริษัท หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลังจากนี้จะเปิดเสนอขายหุ้น IPO ของ บริษัทฯ ให้กับประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 - วันที่ 1 ธันวาคม 2553 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประมาณวันที่ 9 ธันวาคม 2553 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "PHOL" “มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ บมจ.ผลธัญญะ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีจุดเด่นที่มีสองธุรกิจที่ทั้งเติบโตมั่นคงและธุรกิจที่กำลังจะเป็น Star เติบโตแบบก้าวกระโดด มาอยู่ในบริษัทเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ มีทิศทางการเติบโตที่โดดเด่นและมั่นคงในระยะยาว โดยผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท เติบโตถึงร้อยละ 131 จากช่วงเดียวกันของปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ซึ่งผลกำไรที่เติบโตขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเติบโตของลูกค้าซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของบริษัท ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และการเริ่มรับรู้รายได้ของบริษัทย่อย คือ บริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งในปีหน้าจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปี คาดว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการยิ่งเติบโตอย่างโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น จากการรับรู้รายได้ของธุรกิจระบบบำบัดน้ำเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 และจะรับรู้เต็มปีในปี 2554 ซึ่งธุรกิจบำบัดน้ำถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดย ณ เดือน วันที่ 31 ตุลาคม 2553 มีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ จำนวน 20.71 ล้านบาท และมีงานที่อยู่ระหว่างรอ เซ็นสัญญาอีกหลายโครงการ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาสนใจหุ้น IPO ของบริษัทฯ " เขากล่าวต่อว่า เงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ PHOL จะนำไปใช้ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตน้ำ เพื่อจำหน่ายของบริษัทย่อย คือ บริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำนวน 70 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และพร้อมรองรับการขยายธุรกิจบริษัทในอนาคต นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน มั่นใจว่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PHOLจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ประกอบกับการกำหนดราคาขาย ไอพีโอ 3.60 บาท/หุ้น มีค่าP/E ประมาณ 13.98 เท่า โดยคิดจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E เฉลี่ยของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วง1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 21.70 เท่า คิดเป็นส่วนลดประมาณร้อยละ 35 ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนเพื่อหวังผลในอนาคต ประกอบกับในปีหน้าคาดว่า P/E ของบริษัทจะปรับลงได้อีกจากการเติบโตของธุรกิจเซฟตี้ เองและธุรกิจบำบัดน้ำ ที่จะมีการ รับรู้รายได้เพิ่มเติม อีกทั้งผู้ลงทุนในหุ้น IPO มีโอกาสได้รับเงินปันผลในเดือน มกราคม อีก 0.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตรา ผลตอบแทนเงินปันผลประมาณร้อยละ 4 และอาจมีโอกาสได้รับเงินปันผล เพิ่มเติมสำหรับผลการดำเนินงานทั้งปีของ 2553 อีกด้วย จึงถือเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้หุ้นน้องใหม่ PHOL ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และคาดว่าเมื่อเข้าทำการซื้อขายจะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง ทั้งนี้มีสัดส่วนการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนที่เป็นผู้มีอุปการคุณของ PHOL ประมาณร้อยละ 30 นักลงทุนสถาบันประมาณร้อยละ 25 ที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นผู้มีอุปการะคุณของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ "เรากำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.60 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมมีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาผลประกอบการงวด 9 เดือน ที่โตกว่าร้อยละ 131 จากปี 2552 จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัท นอกจากนี้ ธุรกิจรีไซเคิลน้ำและสายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2554 เป็นต้นไปเนื่องจากสามารถรับรู้รายได้เต็มปี โดยมีงานที่รอส่งมอบ ณ ตุลาคม มูลค่าประมาณ 20.71 ล้านบาทและ มีงานที่จะเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่สามารถใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าเดิมซึ่งเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่กว่า 4,000 ราย ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทมีความน่าสนใจและมีราคาที่จูงใจต่อนักลงทุน โดยราคาดังกล่าวมีส่วนลดจากเป้าหมายของนักวิเคราะห์ประมาณร้อยละ 20-25 คิดเป็น P/E ปีหน้า เพียงประมาณ 8 เท่า และนักลงทุนมีโอกาสได้รับเงินผลระหว่างกาลอีก 0.15 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก " นางสาวพัชพร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ