กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--สวนนงนุช
นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการและเจ้าของสวนนงนุช ได้เล็งเห็นคุณประโยชน์เรื่องพันธุ์ไม้หายากจากต่างประเทศ จึงได้ให้นายแอนเดรส รินสตรอม ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ไม้นำต้น บุกและดอกบุกที่ปลูกไว้ภายในสวนนงนุชออกมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2550 ขนาดความสูงวัดได้จากโคนถึงปลายดอก 1.20 เมตร และคาดว่าจะเบ่งบานเต็มที่ในเร็วๆ นี้ ส่วนคุณสมบัติของดอกบุก จะมีกลิ่นเหม็นเมื่อดอกบุกเบ่งบาน เพื่อล่อแมลงมาดอมดมสู่การผสมเกสรเพศผู้ เพศเมีย เข้าสู่ระบบการแพร่ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ ดอกบุกที่เรานำมาโชว์ ได้นำเข้ามาจากสวนโบเกอร์ (Bogor The Botanic Garden) เป็นสายพันธุ์มาจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาดอกไม้ด้วยกัน หาชมได้ยาก ในอดีตเคยพบดอกบุกยักษ์ สูงถึง 3.3 เมตร กว้าง 2 เมตร ประเทศอินโดนีเซียนำภาพดอกบุกไปตีพิมพ์ไว้ในธนบัตรประจำชาติ ชนิดใบละ500 รูเปีย ชาวต่างประเทศให้ความสำคัญมากเมื่อดอกบุกออกดอกครั้งใดจะฮือฮา……
สวนนงนุช ได้นำมาปลูกไว้เมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจที่ดอกได้ออกก่อนกำหนด ซึ่งปกติแล้วจะออกดอกได้ใช้เวลานานถึง 10 ปี และขณะนี้ดอกบุกต้นดังกล่าวมีความสูงประมาณ 1.40 เมตร คาดว่าจะเบ่งบานเต็มที่ภายในเร็วๆ นี้
ซึ่งครั้งแรกสวนนงนุช ได้นำดอกบุกออกมาแสดงและเบ่งบาน ระหว่างวันที่ 12-22 มิถุนายน 2546 ความสูง 1.46 เมตร และครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน — 5 กรกฎาคม 2548 ความสูง 1.30 เมตร สูงน้อยกว่าดอกแรกเนื่องจากมีแมลงกัดกินที่โคนดอก สำหรับดอกที่สามเบ่งบานระหว่างวันที่ 16-28 พฤษภาคม 2549 ความสูง 1.49 เมตร และดอกที่ 4 ที่กำลังนำออกมาโชว์ความสูง 1.20 เมตร
ดอกบุกยักษ์ มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Corpse หรือภาษาลาติน Amorphophallus Titanum ซึ่งมีความหมายว่า ศิวลึงค์ยักษ์ ต้นบุกทั่วโลกมีประมาณ 300 กว่าชนิด ส่วนในประเทศไทยมีประมาณ 30 ชนิด แต่ชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก และยังมีคุณสมบัติพิเศษก็ออกมา คือ เมื่อดอกเริ่มผลิบานจะส่งกลิ่นเหม็นเหมือนสุนัขเน่า แมลงวันจะตามมาตอมกันเป็นจำนวนมาก
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net