กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--MMM Digital
คำถาม: คุณช่วยพูดถึงฉากที่เฮอร์ไมโอนี่เผชิญหน้ากับเบลลาทริกซ์ให้ฟังหน่อยได้มั้ย ฉากที่เธอเขียนคำว่า ‘mudblood’ ไว้บนหัวใจของคุณ มันดูมีพลังมากเลย
เอ็มม่า วัตสัน: ขอบคุณมาก มันรู้สึกสะเทือนใจแบบแปลกๆ มากที่ต้องแสดงฉากนั้น มันค่อนข้างน่ากลัว ฉันว่าเฮเลน่าคงอยากบอกกับฉันหลังจากนั้นว่า ‘ฉันสนุกที่ได้ทำแบบนั้นจังเลย’ [หัวเราะ] โดยปกติแล้วเธอเข้าได้ถึงสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว แต่ฉันว่าเธอก็ไม่ค่อยสบายใจหรอกนะ
จริงๆ แล้วไอเดียของ ‘mudblood’ ไม่ได้อยู่ในสคริปต์ มันเป็นสิ่งที่ฉันกับเฮเลน่าเล่นกันขึ้นมา เพราะฉันบอกว่า ‘เอาล่ะ ถ้าเธออยากทำอะไรที่สะกดฉันเอาไว้ ฉันแสดงมันดูเจ็บปวดได้นะ แต่ฉันว่ามันจะดูมีพลังมากหากมีอะไรที่ผู้ชมสามารถเห็นเป็นภาพได้จริง’ เราเลยมี ‘mudblood’ ขึ้นมา พวกเรานั่งออกแบบลายมือของเบลลาทริกซ์อยู่ 40 นาที แล้วเราก็พูดกันว่า ‘เอาล่ะ ฉันว่าเธอน่าจะเขียนออกมาแบบนี้แหละ’ เราสนุกมากเลย
คำถาม: คุณบอกว่าตอนที่พวกคุณแสดงแบบนั้น นักแสดงและทีมงานรวมไปถึงทุกคนรู้สึกอึดอัดมาก เพราะมันรู้สึกเหมือนจริงสุดๆ
เอ็มม่า วัตสัน: ทุกคนรู้สึกอึดอัดจริงๆ มันตลกดี คาร์โลต้าที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันและเป็นคนทำผมแต่งหน้าให้กับภาพยนตร์ทั้งเรื่อง เธอใส่กลอนประตูเอาไว้ เธออยากเข้ามาช่วยฉันจริงๆ ฉันแสดงหนึ่งฉากที่เดวิดปล่อยให้กล้องถ่ายทำไป 2 นาทีเพื่อปล่อยให้ฉันกรีดร้อง [หัวเราะ] พอตอนที่ฉันดูการลำดับมันเหมือนกับ ‘ว้าว ไม่เลว’ เราจะไม่มีโอกาสเห็นฉันกรีดร้องถึงสองนาที แต่ฉันแสดงนานกว่าที่เห็นจริงๆ นะ แต่ไม่หรอก ฉันว่ามันเป็นการรบกวนทีมงานแต่ฉันมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันแสดงให้เห็นว่าฉันทำได้ดี แต่ฉันว่ามันไม่ใช่วันที่สนุกสนานสำหรับทุกคนในฉากหรอก
คำถาม: นั่นเป็นสิ่งยากที่สุดที่คุณเคยแสดงหรอ?
เอ็มม่า วัตสัน: จริงๆ แล้วมันแปลก ฉันคิดถึงมันเป็นเดือนๆ เลย เมื่อท้ายที่สุดฉันต้องแสดงขึ้นมา ฉันก็สร้างทุกสิ่งที่ฉันอยากขับไล่ขึ้นมา และมันเหมือนประสบการณ์ที่ออกมาจากตัว มันแปลกมาก ฉันทำมันไปแล้ว และเดวิดก็บอกว่า ‘โอเค เยี่ยมไปเลย เราทำสำเร็จแล้ว’
คำถาม: มีฉากพิเศษไหนในภาพยนตร์ที่คุณอยากกลับไปถ่ายทำใหม่ แม้ว่าจะต้องแสดงเป็นตัวละครที่ต่างออกไปมั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: โอ้ น่าสนใจจัง จริงๆ แล้วฉันมีช่วงเวลาดีๆ ที่ได้แสดงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ใจร้ายในสายตาของรอนนะ ถ้างั้นฉันอยากกลับไปแสดงเป็นคนเลวสักครั้งละกัน มันต้องสนุกแน่เลย
คำถาม: แดนแสดงความเห็นไว้ใน BBC อย่างชัดเจนว่าคุณเป็นนักจูบที่ค่อนข้างเร่าร้อน
เอ็มม่า วัตสัน: ฉันได้ยินแล้ว พวกนักข่าวก็มักพูดเรื่องนี้ขึ้นมา และฉันไม่รู้จะพูดอะไร ฉันว่าสำหรับฉากนั้น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องปั่นป่วนรอน ทำให้เขาหึงและเสียใจมาก ฉันเลยคิดว่าการจูบต้องเป็นสิ่งสะเทือนใจจากเฮอร์ไมโอนี่ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าฉัน, ตัวฉันอาจเหมือนกับ ‘สัตว์’ ฉันเดาว่าฉันน่าจะรับมันไว้เป็นคำชมนะ? [หัวเราะ] เขาบอกว่า ‘ไม่ ไม่ ไม่ ฉันให้ 10 คะแนนสำหรับการจูบ’ ฉันก็บอกว่า ‘ก็ได้ ก็ได้ ยังไงก็เป็นแง่บวก ฉันเดาว่ามันเป็นสิ่งดีละกัน’ [หัวเราะ]
คำถาม: เหมือนคุณจะเดินข้ามผ่านพวกสื่อต่างๆ
เอ็มม่า วัตสัน: มันคือประสบการณ์ ตอนนี้ฉันอายุ 20 แล้ว ตอนฉันอยู่ที่งานแถลงสื่อครั้งแรกฉันอายุ 9-10 ขวบ ฉันเลยชินกับมันแล้ว มันสะเทือนใจให้รู้สึกเศร้าทุกทีเวลามีอะไรเขียนถึงสิ่งที่เราไม่อยากเห็น เราทำได้แค่ปล่อยมันไป ไม่งั้นฉันต้องบ้าแน่
คำถาม: คุณรู้เช่นนี้มาล่วงหน้ามั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: ฉันใช้เวลาพอประมาณเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ฉันอาจโกหกถ้าบอกว่าไม่ได้โกรธ แต่ฉันก็โกรธ ฉันไม่ได้แคร์มากมาย ก็เป็นสิ่งที่ดี ฉันหมายความยว่าบางครั้งก็มีคนพูดผิดๆ ของฉันไปกล่าวตลอดเวลา เพราะมันมีข้อมูลมากมายข้างนอกเกี่ยวกับตัวฉัน ซึ่งมันงมง่ายมากที่จะค้นความจริง แต่ …
คำถาม: ประสบการณ์ที่ได้ไปที่ Brown และอยู่ที่อเมริกาเป็นอย่างไรบ้าง? คุณรู้สึกว่าเป็นชาวอเมริกันแล้วหรือยังเป็นชาวอังกฤษอยู่?
เอ็มม่า วัตสัน: มันแปลกมากจริงๆ นะ มันกลายเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับฉันไปแล้ว และฉันรักมันมาก ฉันมีความสุขสุดๆ ฉันเห็นตัวเองกระจายเวลาระหว่างที่นิวยอร์คกับลอนดอนได้ง่ายๆ เลย
คำถาม: ทำไมคุณถึงเลือกไปที่อเมริกามากกว่ามหาวิทยาลัยที่นี่? มั่นใจว่าคุณจะเข้าที่ไหนก็ได้
เอ็มม่า วัตสัน: ด้วยเหตุผลที่มากมายเลย เพื่อนคนหนึ่งของฉันเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกาได้ และพอเขาบอกให้ฉันฟังเกี่ยวกับความจริงว่า เขาสามารถเรียนได้มากกว่า 1 วิชาในเวลาเดียว และมันเหมือนการเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ฉันเกิดความสนใจมาก และเพราะฉันไม่เป็นที่รู้จักมากในอเมริกาด้วยแหละ ฉันต้องการการเปลี่ยนแปลง ฉันอยากได้การเริ่มต้นที่สดใส ที่ไหนก็ได้ที่ฉันไปแล้วรู้สึกว่าสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้จริง และนั่นแหละคือสิ่งที่ Brown มีให้ฉัน
คำถาม: ถ้างั้นคุณยังนึกถึงเรื่องอาชีพการแสดงหรือมันยังไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับคุณใช่มั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: แน่นอนเลยว่าไม่ และภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความมั่นใจให้ฉันเยอะมาก ฉันเพิ่งแสดงภาพยนตร์เรื่อง My Week with Marilyn ที่เป็นการอำนวยการสร้างของไวน์สตีนร่วมกับเอ็ดดี้ เรดเมย์นและมิเชล วิลเลียมส์ ซึ่งก็ผ่านไปได้ดีมาก ฉันคิดว่าจะเดินหน้าแสดงต่อไป ฉันว่าจะแสดงภาพยนตร์ปีละเรื่องหรืออะไรสักอย่าง จนกว่าจะเรียนจบที่ Brown แน่นอน เพราะมันยากมาก มันเหนื่อยจริงๆ ที่ต้องพยายามจัดสรรเวลาให้กับทั้ง 2 อย่าง มันต้องใช้ความพยายาม
คำถาม: คุณจัดเวลาให้ที่โรงเรียนกับการแสดงภาพยนตร์ได้อย่างไร?
เอ็มม่า วัตสัน: เราต้องบริหารเวลาของเราจริงๆ และฉันบอกอาจารย์ไว้ล่วงหน้าว่าฉันต้องหยุดช่วงนี้ ฉันหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจ ฉันต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้สมกับความไว้ใจและการพิจารณาที่พวกเขาอนุญาตให้ฉันทำได้ ฉันต้องทำให้เห็นว่าฉันเป็นคนทำงานหนักและเรียนอย่างตั้งใจ เพราะมิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่ยอมให้ฉันทำ ฉะนั้นช่วงต้นเทอม มันจะเกี่ยวกับการได้เกรดดีๆ แล้วพวกเขาก็จะ [หัวเราะ] ‘โอเค ไปได้ละ จะทำอะไรก็ทำ’
คำถาม: คุณทราบวิชาเอกหรือยัง?
เอ็มม่า วัตสัน: ค่ะ ทราบมาว่าประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอกของฉัน
คำถาม: ประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันหรอ?
เอ็มม่า วัตสัน: ไม่แน่ใจเหมือนกัน ฉันชอบประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แต่ก็ไม่รู้สิ ฉันต้องเลือกเฉพาะด้าน แต่ยังไม่ต้องรีบตอนนี้
คำถาม: คุณช่วยพูดถึงฉากเต้นรำกับแดนให้ฟังหน่อยได้มั้ย? เขาเป็นนักเต้นที่มีพรสวรรค์มาแต่เกิดหรือคุณต้องสอนการเต้นให้เขา?
เอ็มม่า วัตสัน: ถึงแม้ฉันจะรักแดน แต่เขาไม่ใช่นักเต้นที่มีพรสวรรค์อะไรหรอก [หัวเราะ] ฉันว่าเขารู้ดี แต่มันเป็นฉากที่เพอร์เฟคนะ ไม่ได้หมายความว่ามันดูเพอร์เฟค แต่หมายถึงมันดูใสๆ แบบธรรมชาติ
คำถาม: คุณเต้นเก่ง
เอ็มม่า วัตสัน: ขอบคุณ [หัวเราะ] ฉันรักการเต้นรำ
คำถาม: ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้โอกาสคุณได้แสดงออกจริงๆ เดวิด เยทส์ทำให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?
เอ็มม่า วัตสัน: สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับเดวิด เยทส์ นั่นคือเราจะได้ยินคำว่า “ความจริง” เสมอ การค้นหาความจริงและอยู่กับความซื่อตรงและเป็นจริง เขาเกลียดพวกของปลอมที่สุด; เขาอยากให้มันออกมาจากใจ ฉันว่านั่นทำให้ฉันเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นมา โดยเฉพาะในช่วงแรกเริ่ม ฉันรู้สึกฉันแสดงเหมือนเป็นตัวละครหนึ่ง และพอฉันแสดงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ ฉันสวมบทบาทการแสดงได้จริงๆ กลายเป็นตัวละครเด่น และใช้มันตระหนักถึงความซื่อสัตย์ เขาบอกว่า ‘เริ่มทำจากตรงนี้ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างตรงนั้นไป ต้องจริงใจกับมัน’ นั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามทำ ฉันว่ามันสร้างความแตกต่างขึ้นมานะ
คำถาม: ตัวละครของคุณแต่งตัวทันสมัยส่วนใหญ่ในภาคนี้ นั่นเป็นประสบการณ์ที่แปลกไปจากภาพยนตร์ก่อนหน้านี้มั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: รู้อะไรมั้ย? มันรู้สึกดีมากที่ไม่มีพื้นฐานโครงสร้างทั้งหมดของพวกคฤหาสน์และปีการศึกษา ฉันหมายถึงมันน่าประหลาดมากที่ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงอาวุโส มันอาจทำให้ฉันหวั่นไหวหากยังมีกำแพงเหล่านั้นอยู่ที่นี่ มันก็ดีที่มีเพียงเราสามคนกับสิ่งที่พวกเราจะแสดงได้ ฉันรักแบบนั้น
คำถาม: ฉากไหนของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ที่คุณชอบเป็นพิเศษในหนัง?
เอ็มม่า วัตสัน: ในภาค 2 เราต้องออกไปผจญภัยร่วมกันนิดหน่อยเพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ และมันเหมือนการแสดงตลก เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปในทางเดียวกัน โดยปกติแล้วมันไม่ใช่แนวเราเลย เราจะมีการคิดถึงกันและขัดแย้งกัน จากนั้นในฉากนี้เราเป็นทีมกันจริงๆ มันสนุกมากและเราทั้งคู่อินกับมันมาก เป็นคู่เดียวที่อยู่ในช่วงตลกสนุกสนาน และฉันก็เพลินไปกับพวกเขา รูเพิร์ทเป็นนักแสดงตลกที่เก่งและเรามีเวลาดีๆ ร่วมกัน แค่ดึงอารมณ์ขันออกมาจากทุกสิ่งเท่าที่เราทำได้
คำถาม: มันเป็นความท้าทายสำหรับคุณมั้ย ที่ต้องแสดงในฉากที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องกล่าวคำลากับพ่อแม่ของเธอ?
เอ็มม่า วัตสัน: มันเป็นความท้าทายนะ ฉันไม่อยากให้มันหนักเกินไปนะ แต่การมีชีวิตจากครอบครัวที่แตกแยก ฉันรู้ว่าการเดินจากมาและเข้าไปอยู่ระหว่าง 2 ครอบครัวที่แตกต่างกันมันเป็นอย่างไร มันยากนะ ฉันเดาว่าฉันต้องใช้วิธีนั้น
คำถาม: แสดงได้ดีนะ
เอ็มม่า วัตสัน: ขอบคุณ
คำถาม: ตอนที่เราเห็นรูปของเฮอร์ไมโอนี่ตอนเด็ก นั่นเป็นรูปที่ตัดต่อขึ้นมาหรือเป็นรูปตอนเด็กของคุณจริงๆ?
เอ็มม่า วัตสัน: ไม่ นั่นเป็นรูปฉันตอนเด็กจริงๆ [หัวเราะ] มีของโปรดอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับฉัน ฉันมีผ้าขนหนูที่มีหูกระต่ายอยู่บนนั้น แล้วก็มีภาพนั้นอยู่ด้วย ซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะใช้ภาพไหน พวกเขาขอรูปตอนฉันเป็นเด็กจากพ่อ แล้วพ่อก็ให้บางรูปมา มันเลยแปลกมากที่ได้เห็นภาพของจริงเหล่านั้นถูกผสมกับพ่อแม่ตัวปลอม แปลกดี
คำถาม: ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรที่ภาพยนตร์ใกล้ปิดตัวลงแล้ว? คุณคิดถึงบ้านมั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ง่ายหรือชัดเจนให้ตอบเลย สำหรับฉันมันยากที่จะตอบเพราะฉันยังไม่รู้จริงๆ ว่าฉันรู้สึกอย่างไร ฉันกำลังคิดอยู่ ฉะนั้นการตอบคำถามคุณมันเลยค่อนข้างยาก ฉันมีวันที่รู้สึกผ่อนคลายและมีวันที่ฉันรู้สึกเศร้า และก็มีวันที่ฉันรู้สึกเหมือน ‘ฉันตื่นเต้นสุดๆ’ เพราะสิ่งนี้ใช้เวลาในชีวิตของฉัน เวลาทั้งหมดของฉันด้วยซ้ำ ชีวิตของฉันโคจรอยู่รอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นเป็นศูนย์รวมของการมีชีวิตอยู่ของฉัน และตอนนี้มันตื่นเต้นที่ฉันมีช่วงเวลานั้น ฉันยอมรับสิ่งอื่นๆ ได้ หมายถึงฉันรู้ว่าโอกาสใหม่ก็จะมีตลอดเวลา แต่ก็มีช่วงเวลาตอนที่ฉันแสดงแล้วรู้สึกเหมือน ‘พระเจ้า ฉันหวังว่าฉันจะได้ไปทำแบบนั้น’ หรือบางสิ่งก็เกิดขึ้นได้ และตอนนี้มันถึงเวลาที่ฉันต้องทำสิ่งอื่นที่แตกต่างออกไปแล้ว มันก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ เหมือนฉันแกว่งลูกตุ้มไปมาระหว่างความรู้สึกพวกนี้ที่แตกต่างกัน
คำถาม: คุณยังเก็บแผ่นกระดาษเล็กๆ ที่มีการเปลี่ยนบทสนทนาของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หรือเปล่า?
เอ็มม่า วัตสัน: จริงๆ แล้วท้ายที่สุดแดน, รูพกับฉันต้องเขียนบทสนทนากันใหม่ เพราะฉันอ่านแล้วฉันพูดขึ้นทันทีว่า ‘เธอไม่ได้พูดแบบนั้น เธอไม่ได้พูดแบบนั้น’ และโชคดีที่ฉันแสดงเป็นเธอมา 10 ปีแล้ว สตีฟ โคลฟ์สกับเดวิดวางใจฉันมากพอ ฉันคิดจะพูดว่าให้ฉันมีอิสระที่จะได้ทำมันจริงๆ เถอะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีโอกาสนั้นอีกแล้ว มันดีจริงๆ
คำถาม: รู้สึกอึดอัดมั้ยที่ต้องแสดงฉากจูบกับพวกผู้ชายที่พวกเขาเหมือนจะเป็นพี่ชายของคุณไปแล้ว
เอ็มม่า วัตสัน: ใช่ มันน่าสยองมาก ฉันหมายถึง [หัวเราะ] ก็สยองจริงๆ ฉันรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มันดูดีนะ หมายความว่าถึงอย่างพวกเราก็ทำให้มันออกมาสมจริง ฉันเลยภูมิใจตัวเองที่ฉันควบคุมความสามารถและเป็นมืออาชีพได้ มันก็ดีนะ
คำถาม: ในภาคนี้มีการใช้เวลาไปกับตัวละครต่างๆ คุณว่ามันแปลกมั้ย?
เอ็มม่า วัตสัน: .ใช่ ฉันเข้าใจนะคุณหมายถึงอะไร มีช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าฉันเร่งความเร็วให้บทพูดของฉันนิดหน่อย มันเหมือนกับ ‘เรามีหลายอย่างที่จะใส่เข้าไป ช่วยพูดให้เร็วขึ้นหน่อยได้มั้ยขอร้อง?’ [หัวเราะ] และฉันเหมือนกับ ‘โอ้’ มันเลยดีที่จะอยู่อย่างเพลิดเพลินและรู้สึกเหมือนฉันมีพื้นที่ว่าง คุณพูดถูกเกี่ยวกับเรื่องเวลานั้น มันเป็น [งานยาก] นะ แต่ความน่ารักในการถ่ายทำภาพนยตร์สองเรื่องติดต่อกันคือ เราคัดสรรแรงกระตุ้นและเรื่องของจังหวะ รวมไปถึงเราเข้าถึงงานและตัวละครของเราได้จริงๆ เราแสดงได้อย่างไหลลื่นจริงๆ ฉันว่ามันทำให้เป็นหนังที่ดีมาก เพราะปัญหาใหญ่ที่สุดที่เรามีในพอตเตอร์คือ เรามีเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษเยอะและเรามีพวกสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงนักแสดงกว่าร้อยชีวิต และการคัดเลือกนักแสดงที่ยิ่งใหญ่—ฉันรู้สึกได้ว่ามันแบกรับเอาไว้อยู่บนไหล่ของฉัน
มันเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ และสำหรับเราในฐานะนักแสดงแล้วแล้วแcs ความท้าทายอันยิ่งใหญ่คือการรักษาความสดใส ความสมจริง และความใหม่ในแต่ละเทคเอาไว้ เพราะเวลาที่มันเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และเราใช้เวลาพักอยู่ในรถเทรลเลอร์เป็นเวลา 3 ชั่วโมง และเราต้องทำแบบนั้น 7 ครั้ง มันยากที่จะนำความสดชื่นออกมา มันเลยดีมากๆ ที่จะมีแรงกระตุ้นนั้นและความโกลาหลของการพยายามถ่ายทำ 2 ภาคในเวลาเดียวกัน