TAC 2011 ถกแนวโน้ม โอกาส และ ความท้าทายของธุรกิจอารักขาพืช

ข่าวทั่วไป Monday November 29, 2010 10:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--สป็อตมาร์ก “แนวโน้ม โอกาส และ ความท้าทายของธุรกิจอารักขาพืช” จะเป็นหนึ่งในประเด็นเด่นของการสัมมนา “แนวโน้มธุรกิจการเกษตรปี 2554” ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ไขทางตันเกษตรไทย” การสูงขึ้นของราคาอาหาร การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร และ ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ทำให้การนำเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีการอารักขาพืช เข้ามาใช้ เพื่อผลิตอาหารให้เพียงพอกับ ความต้องการของโลกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนี้ เทคโนโลยียังเป็นปัจจัยสำคัญ ในการรับมือกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ และ ทรัพยาการธรรมชาติที่จำกัด เดอะ มาร์เก็ต พับลิชเชอร์ บริษัทวิจัยชั้นนำ คาดว่า ความต้องการของเทคโนโลยี และ ผลิตภัณฑ์การอารักขาพืช มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อไปในอนาคต ตามปริมาณความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของ พืชอาหาร พืชพลังงาน และ พืชอาหารสัตว์ นอกจากนี้ พื้นที่เพื่อการเกษตรที่ลดลง ความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น จากประเทศเศรษฐกิจใหม่ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเร่งการเติบโต ของอุตสาหกรรมอารักขาพืช เมื่อพิจารณาตามภูมิภาคแล้ว ยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ตามด้วยเอเซีย-แปซิฟิก และ อเมริกาเหนือ ในบรรดาผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม คือ สารกำจัดวัชพืช สารกำจัดแมลง และ สารป้องกันและกำจัดโรคพืช เดอะ มาร์เก็ต พับลิชเชอร์ เชื่อว่า ผลิตภัณฑ์กำจัดวัชพืชมีแนวโน้มดีที่สุด ตามด้วย สารกำจัดแมลง และ สารป้องกันและกำจัดโรคพืช ถึงแม้ ตลาดผลิตภัณฑ์อารักขาพืช จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากปริมาณการบริโภคอาหารต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น การอพยพย้ายถิ่นสู่สังคมเมือง และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก แต่ในอนาคตอุตสาหกรรมอารักขาพืชจะต้องเผชิญกับกฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นไม่ว่จะเป็นจากสหภาพยุโรป หรือองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ อย่างไรก็ดี บริษัทชั้นนำในประเทศผู้นำด้านเกษตรกรรมอย่าง เยอรมัน และ ฝรั่งเศสก็ได้เตรียมพร้อมและเผชิญกับกฎระเบียบที่เคร่งครัดในการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการอารักขาพืชอยู่แล้ว นอกจากมาตรการที่เข้มงวดแล้ว การประกาศห้ามใช้สารหรือผลิตภัณฑ์บางตัว และ มาตรการด้านการวิจัยและพัฒนาใหม่ๆ จะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมในวงกว้าง นอกจากปัญหาด้านการจดทะเบียนและกฎระเบียบต่างๆ แล้ว อีกปัญหาหนึ่งที่จะรบกวนใจของผู้ผลิตคือ ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือ ผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของอุตสาหกรรมในอนาคต ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชค่อนข้างมาก สถิติที่น่าสนใจคือ จากการายงานของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า จากสถิติปี 2551 ประเทศไทยซึ่งมีเนื้อที่ทางการเกษตรเป็นอันดับที่ 48 ของโลก แต่ใช้ยาฆ่าแมลงเป็นอันดับ 5 ของโลก และใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก ข้อมูลจากฝ่ายวัตถุมีพิษ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร แสดงว่า ในปี 2552 ประเทศไทยนำเข้าสารกำจัดศัตรูพืช 118,152 ตัน คิดเป็นมูลค่า 16,816 ล้านบาท “สำหรับในประเทศไทย ปี 2554 น่าจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธุรกิจอารักขาพืช สืบเนื่องจาก ผลบังคับใช้ของ พรบ. วัตถุอันตรายจะส่งผลต่อธุรกิจอารักขาพืชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงหยิบยก ประเด็นเรื่อง แนวโน้ม โอกาส และความท้าทายของธุรกิจอารักขาพืช มาเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของการสัมมนา แนวโน้มธุรกิจการเกษตรปี 2554” หรือ “งาน Thailand Agribusiness Conference 2011” เพื่อหาแนวทางและทางออกสำหรับภาคธุรกิจการเกษตรและธุรกิจอารักขาพืช” ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนายศิระพัฒน์ เกตุธาร กรรมการผู้จัดการบริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Agribusiness Conference 2011 งาน Thailand Agribusiness Conference 2011 จัดขึ้นเพื่อจะเป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจการเกษตรทุกแขนงได้มาแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และ รับทราบแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อรับมือกับภาวะการแข่งขันระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และ ระดับโลก” นายศิระพัฒน์ กล่าว ท่านที่สนใจเกี่ยวกับงาน Thailand Agribusiness Conference 2011 สามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด โทรศัพท์ 02 978 2519 โทรสาร 02 978 4548 หรือ อีเมลล์ info@sptmrk.com หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.agrireview.com
แท็ก รักข  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ