กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยรวม 51 จังหวัด คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 46 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัด 14 อำเภอ 102 ตำบล 607 หมู่บ้าน 67,770 ครัวเรือน 215,047 คน ผู้เสียชีวิต 255 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ภาคกลาง1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่10 ตุลาคม — ปัจจุบัน ว่ามีพื้นที่ประสบภัยรวม 51 จังหวัด 558 อำเภอ 3,972 ตำบล 32,523 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,612,472 ครัวเรือน 8,970,653 คน คลี่คลายแล้ว 46 จังหวัด ขณะนี้ทั่วประเทศ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัด 14 อำเภอ 102 ตำบล
607 หมู่บ้าน 67,770 ครัวเรือน 215,047 คน ผู้เสียชีวิต 255 ราย ดังนี้
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง มีพื้นที่ประสบภัย รวม 39 จังหวัด 425 อำเภอ 3,098 ตำบล 26,226 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,002,961 ครัวเรือน 7,038,248 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู 36 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว นครนายก กำแพงเพชร พิษณุโลก หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม อุทัยธานี บุรีรัมย์ ฉะเชิงเทรา อ่างทอง ชัยภูมินครสวรรค์ นครราชสีมา สุรินทร์ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สระบุรี ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัด 9 อำเภอ 75 ตำบล 438 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 35,305 ครัวเรือน 111,046 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 7,784,368 ไร่ ผู้เสียชีวิต 177 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ภาคกลาง1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา
- ภาคใต้ มีพื้นที่ประสบภัยรวม 12 จังหวัด 133 อำเภอ 874 ตำบล 6,197 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 609,511 ครัวเรือน 1,932,405 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู 10 จังหวัด ได้แก่ สตูล นราธิวาส ยะลา กระบี่ ชุมพร ระนอง ปัตตานี ตรัง สงขลา และนครศรีธรรมราช ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด 5 อำเภอ 27 ตำบล 169 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 32,465 ครัวเรือน 104,001 คน ผู้เสียชีวิต 78 ราย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่กาฬสินธุ์ น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอฆ้องชัย และกมลาไสยราษฎรเดือดร้อน 48 ครัวเรือน 166 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 43,964 ไร่ ร้อยเอ็ด น้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 34 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอจังหาร โพนทราย และเชียงขวัญ ราษฎรเดือดร้อน 905 ครัวเรือน 2,738 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 39,822.50 ไร่
ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 64 ตำบล 393 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอบางไทร มหาราช ผักไห่ และบางบาลราษฎรเดือดร้อน 34,352 ครัวเรือน 108,142 คน
ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 19 ตำบล 79 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพุนพิน และนาเดิม ราษฎรเดือดร้อน 3,373 ครัวเรือน 10,775 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 261,784 ไร่พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 90 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 29,092 ครัวเรือน 93,226 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 482,330 ไร่ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ควนขนุน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนกว่า 2,000 ลำ ถุงยังชีพกว่า 500,000 ชุด เต๊นท์ที่พักอาศัยกว่า 4,600 หลัง รถผลิตน้ำดื่ม 17 คัน น้ำดื่มกว่า 400,000 ขวด เครื่องสูบน้ำกว่า 400 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิดรวมกว่า 700 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง15 คัน กระสอบทรายกว่า 4,120,000 ใบ ยารักษาโรค 33,000 ชุด เครื่องนุ่งห่ม 700 ชุด รถสุขา/สุขาเคลื่อนที่ 7,158 หลัง พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 2,800 คน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจน จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งจ่ายเงินชดเชยและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.