กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) ประกาศเปิดตัวศูนย์ธุรกิจเสมือนจริงแห่งใหม่ของไอบีเอ็ม เพื่อเป็นสถานที่พบปะ เรียนรู้ ร่วมมือ และทำธุรกิจร่วมกัน สำหรับพนักงานขาย ลูกค้า และคู่ค้าของไอบีเอ็มศูนย์นี้แบ่งพื้นที่ออกเป็นหกส่วน ได้แก่ พื้นที่ต้อนรับ ศูนย์การขาย ห้องสมุดสนับสนุนด้านเทคนิค ศูนย์นวัตกรรม ศูนย์สรุปข้อมูลสำหรับลูกค้า และศูนย์การประชุม ลูกค้าและบริษัทคู่ค้าสามารถเข้าถึงศูนย์แห่งนี้ผ่านโลกเสมือนจริง Second Life แต่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะเนื่องจากจะมีพนักงานขายของไอบีเอ็มจากทั่วโลกประจำอยู่จริงๆ ไม่ใช่หุ่นยนต์หรือตู้แสดงข้อมูล (kiosk) โดยพนักงานเหล่านี้สามารถพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมในภาษาต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจได้
หากมีผู้ต้องการซื้อฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการ หรือต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ ตัว แสดงจำลอง (Avatar) ของพนักงานขายของไอบีเอ็มก็สามารถทำงานร่วมกับตัวแสดงจำลองของลูกค้าจนถึงจุดที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การลงนามในสัญญาและการส่งข้อมูลการชำระเงินหรือข้อมูลเครดิต ซึ่งจะจัดการโดยอาศัยลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของไอบีเอ็มหรือทางโทรศัพท์
"ไอบีเอ็มกำลังรวมประสบการณ์เสมือนจริง 3 มิติ เว็บไซต์ 2 มิติที่มีอยู่ และบุคลากรของไอบีเอ็มเข้าด้วยกันในการทำธุรกิจ และเนื่องจากโดยปกติแล้ว เรามักจะเตรียมระบบไว้สำหรับ 3 มิติอยู่แล้ว เราจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้ประสบการณ์ทางธุรกิจของลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น " ลี เดียร์ดอฟ รองประธานฝ่ายกลยุทธ์และการสร้างความสามารถทางเว็บ (Web Strategy and Enablement) ของ ibm.com กล่าว "นี่นับเป็นวิธีการใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของเรา" เขากล่าวเสริมตามความเห็นของการ์ทเนอร์ (Gartner) "ภายในสิ้นปี 2554 ร้อยละ 80 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและองค์กรที่ติดอันดับ Fortune 500 จะมี 'ชีวิตที่สอง' แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ใน Second Life เสมอไป"
"นี่เป็นการขยายช่องทางการขายผ่านเทเลเว็บที่มีอยู่ของเรา ถ้าการทดลองเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้านี้ได้รับการตอบรับที่ดี เราจะขยายบริการนี้ด้วยการเพิ่มพนักงานและภาษา " เดียร์ดอฟ กล่าว ตัวอย่างเช่น ทีมขายวางแผนที่จะสนับสนุนภาษาเอเชียภายในปีนี้ พนักงานของไอบีเอ็มจะประจำอยู่ที่สำนักงานแห่งใหม่นี้ในระหว่างเวลาทำการในประเทศของตน โดยพูดภาษาต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งภาษา ได้แก่ อังกฤษ โปรตุเกส เยอรมัน สเปน ดัตช์ อิตาลี ฝรั่งเศส และฝรั่งเศสแคนาดา ห้องสมุดสนับสนุนทางเทคนิคประจำศูนย์ธุรกิจเสมือนของไอบีเอ็มเปิดให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าถึงข้อมูลทางเทคนิค รวมถึง IBM Redbooks และ Systems Journals
ข้อดีอย่างหนึ่งของการไปยังโลกเสมือนจริงเพื่อรับข้อมูลคือ การค้นหาข้อมูลสามารถทำได้เร็วขึ้นและสะดวกง่ายดายกว่าการท่องเว็บไซต์ ในศูนย์ธุรกิจเสมือนจริง คุณสามารถเรียกดูชั้นหนังสือ 3 มิติ ดูหนังสือ 3 มิติ หรือเพียงแต่
สอบถามบรรณารักษ์ เหมือนในโลกความเป็นจริง
ไอบีเอ็มได้พัฒนาศูนย์แห่งนี้ร่วมกับ NMC Virtual Worlds ซึ่งเป็นหน่วยบริการเสมือนจริงของ New Media Consortium (NMC) โดย NMC ซึ่งเป็นองค์กรแม่ เป็นกลุ่มธุรกิจที่ไม่แสวงหากำไรระดับนานาชาติ ประกอบด้วยวิทยาลัย มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วิจัย มูลนิธิ และบริษัทชั้นนำที่มีวิสัยทัศน์แห่งอนาคต 250 แห่ง รวมทั้งไอบีเอ็ม โลกเสมือนจริงถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับไอบีเอ็ม เนื่องจากทางบริษัทมีพนักงาน 4,000 คนที่ทำงานอยู่ในโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า Second Life โดยเพิ่มขึ้นจาก 800 คนในเดือนธันวาคม
นักวิจัย ที่ปรึกษา และนักพัฒนาของไอบีเอ็มกว่า 230 คน ใช้โลกเสมือนจริงเพื่อทดลองและพัฒนาเครื่องมือเครือข่ายสังคม และออกแบบวิธีการใหม่ๆ ในการเรียนรู้และทำธุรกิจ ทั้งนี้ ไอบีเอ็มมีเกาะเสมือนจริง (virtual islands) อื่นๆ มากกว่า 30 แห่ง เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การวิจัย การเริ่มงานของพนักงานใหม่ การสนับสนุนนักพัฒนา การประชุมภายในไอบีเอ็ม และการประชุมกับลูกค้า
เยี่ยมชมศูนย์ธุรกิจเสมือนจริงแห่งใหม่ของไอบีเอ็มได้ที่ http://slurl.com/secondlife/IBM%20Business%20Center////
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
คุณอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ โทร 02-273-4117 อีเมล์ onumav@th.ibm.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net