กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--ซีพีเอฟ
น.สพ.บุญเพ็ง สันติวัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเดินหน้าจัดทำโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ต่อเนื่องอีกร่วม 40 ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งฟาร์มปศุสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการอีก 115 ฟาร์ม หลังประสบความสำเร็จจากการที่ผลิตภัณฑ์ไก่ของซีพีเอฟ เป็นผลิตภัณฑ์ไก่รายแรกของโลกที่ได้รับเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์
“ซีพีเอฟ เป็นผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่มีธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบต้นน้ำ และอาหารสัตว์ การมีฟาร์มปศุสัตว์และฟาร์มสัตว์น้ำ มีโรงชำแหละและแปรรูปอาหาร การผลิตบรรจุภัณฑ์ การจัดการระบบโลจิสติก ต่อเนื่องไปจนถึงการจัดจำหน่ายสินค้า ซึ่งการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์กับธุรกิจอาหารถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอาหารแบบยั่งยืน และมีส่วนผลักดันให้ซีพีเอฟเป็นผู้นำทางธุรกิจ โดยสร้างความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ ด้านสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ CP ทั้งยังสามารถขายวัตถุดิบให้แก่ผู้ผลิตรายอื่นที่มีการรณรงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นเดียวกับเรา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Green consumer ขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตจากการใช้พลังงานและวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และยังแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ในแง่ของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซอุปทาน ตลอดจนส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” น.สพ.บุญเพ็ง กล่าวและว่า
การที่ซีพีเอฟจัดทำโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์นี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสู่ ระบบเศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) ที่ประเทศในสหภาพยุโรปให้ความสำคัญ อาทิ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ทั้งนี้ฝรั่งเศสมีกำหนดจะประกาศใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เป็นกฎหมาย ประมาณกลางปี 2554 การที่ซีพีเอฟดำเนินการตามมาตรฐานสากลนี้เท่ากับบริษัทมีความพร้อมต่อการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในสหภาพยุโรปต่อไป สำหรับการจัดทำโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ปี 2553-2554 ที่ซีพีเอฟกำลังดำเนินการนี้ ประกอบไปด้วย 2 ระดับ คือ ระดับโรงงาน(Food Industry) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไก่ 20 ผลิตภัณฑ์ ขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัข 10 ผลิตภัณฑ์ และอาหารสัตว์ (ไก่) 7 ผลิตภัณฑ์ ส่วนระดับฟาร์ม (Agriculture) ได้แก่ ฟาร์มปศุสัตว์ ทั้งไก่พ่อ-แม่พันธุ์ ไก่กระทง และโรงฟักไข่รวม 115 ฟาร์ม
ทั้งนี้ ซีพีเอฟได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ตามโครงการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับมหาวิทยาลัย Lueneburg และสถาบันสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ (International for Environmental Institute of Hamburg) ประเทศเยอรมันนี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางบริการข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ CP เพื่อวิเคราะห์แนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและยังเป็นฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยแห่งแรกของภาคอุตสาหกรรมไทย นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังร่วมมือกับภาครัฐบาลและสถาบันการศึกษา อาทิ องค์การบริหารจัดการเรือนกระจก (อบก.) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อร่วมกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม คาร์บอนฟุตพริ้นท์ รวมทั้งฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับประเทศไทย./
สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ ซีพีเอฟ
โทร.0-2625-7343-5 , 0-2631-0641, 0-2638-2713 / E-mail : pr@cpf.co.th