กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--วีม คอมมิวนิเคชั่น
ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก โชว์ยอดขายทองคำ 10 เดือน ทะลุ 1.3 แสนล้านในขณะที่ครองส่วนแบ่งตลาด โกลด์ฟิวเจอร์สแบบต่อเนื่องกว่า 16%
ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ตอกย้ำความเป็นผู้นำการให้บริการลงทุนทองคำครบวงจร อัพเดทตัวเลขยอดการขายทองคำในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เติบโตทะลุกว่า 1.3 แสนล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจ โบรกเกอร์ทองคำก็ไปได้สวย มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สถึง 16% เป็นที่หนึ่งในโบรกเกอร์ทองคำด้วยกัน ล่าสุดประสบความสำเร็จจากการร่วมงานถนนสายทองคำในงาน Set in The City 2010 เพิ่มรายชื่อ นักลงทุนทองคำได้มากกว่า 300 ราย พร้อมสถานการณ์ทองสัปดาห์นี้ แนะนักลงทุนให้ขายทำกำไรเป็นช่วงๆเล่นเป็นรอบ
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุกเปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นปี ผลจากการวางกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจทองคำ สู่การเป็นผู้นำการให้บริการลงทุนทองคำที่ครบวงจร ส่งผลให้ยอดนำเข้า-ส่งออกทองคำของกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มียอดรายได้ที่แจ้งต่อกรมสรรพากรแล้ว เป็นมูลค่ารวมกว่า 130,000 ล้านบาท (หนึ่งแสนสามหมื่นล้านบาทถ้วน) ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ โดยยอดขายทองคำหลักนั้น ดำเนินการผ่านบริษัท เฮช.อาร์ โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และถือว่าเป็นบริษัทที่มีการเจริญเติบโตและมีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 47 ของประเทศ ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Business.com นั่นเอง ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด โบรกเกอร์ทองคำ ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดในการซื้อขายสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ส ประมาณร้อยละ 16% ซึ่งถือว่ายังคงครองอันอันดับหนึ่ง ในช่วง 6 เดือน เมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทโบรกเกอร์ทองคำทั้ง 5 บริษัท โดยในปีหน้ามีแผนที่จะรุกขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อย 20 ด้วย
งาน Set in the City ที่พึ่งผ่านมากลุ่ม MTS Gold แม่ทองสุก สามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนกว่า 300 ราย พร้อมกับการจองสัมมนา MTS Academy เพื่อความรู้การลงทุนในทองคำมากขึ้นอย่างหนาแน่น โดยที่นักลงทุนให้ความสนใจกับเครื่องมือการลงทุนทองคำประสมประสานไปกับการลงทุนใน Gold Futures นั่นคือ ระบบการซื้อขายผ่าน Online System ที่เรียกว่า MTS Gold Online ซึ่งกลุ่ม MTS Gold แม่ทองสุก สามารถพัฒนาเพิ่มระยะเวลาไปจนถึงเที่ยงคืนได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากตลาดทองคำมีการซื้อขายสูงในช่วงตลาดนิวยอร์ก อีกทั้งมีราคาที่ผันผวนขึ้นลงรุนแรงในช่วงตลาดดังกล่าว บางวันถึง $30 ซึ่งเกิดบ่อยขึ้น นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ย้ำว่าระบบ Gold Online ของบริษัทเป็น Real Time สามารถช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับนักลงทุนที่ซื้อขายทองแท่งอีกทั้งสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของการลงทุนได้ควบคู่ไปกับ Gold Futures จึงนับว่าเป็น เครื่องมือที่ช่วยนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำอย่างมากในขณะนี้
วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงิน US Dollar ซึ่งเป็นผลจากความกังวลในภาวะหนี้สินของประเทศกลุ่มยุโรป ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรเข้ามา ในตลาดทองคำช่วงปลายสัปดาห์อย่างหนาแน่น แต่จากการอ่อนค่าของเงินบาท สามารถเป็นตัวช่วยพยุงทอง ให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาขายทองคำในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนตัวทาง side way up ขึ้นอยู่กับแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ $1350 และ $1340 ตามลำดับ แนวต้านที่ระดับ $1370 และ $1385 สำหรับราคาทองคำแท่งของไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 19,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,700 บาท จึงแนะนำให้นักลงทุนทำกำไรเป็นรอบ เล่นช่วงสั้นมากขึ้นตามความผันผวนของราคา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บจก. วีม คอมมิวนิเคชั่น