กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
ในฐานะ ‘The World’s Most Sustainable Car Company’บีเอ็มดับเบิลยูชูความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี BMW EfficientDynamicsพร้อมเปิดตัว BMW 525d และ BMW 520d สองสุดยอดซาลูนดีเซลและมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยประกาศเปิดตัวรถยนต์ BMW 525d (ราคา 4,399,000) และ BMW 520d (ราคา 3,699,000) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 พร้อมทั้งจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั้งหมด 18 รุ่น รวมถึง BMW ซีรี่ย์ 3, BMW ซีรี่ย์ 5, BMW ซีรี่ย์ 7 รุ่นประกอบในประเทศ อีกทั้งยังมีรุ่นนำเข้า เช่น BMW 325i Coupe ใหม่, BMW 325i Convertible ใหม่ และ BMW X6 xDrive30d ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วย นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอทางการเงินจาก บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถในงานนี้ด้วย
มร. ราล์ฟ บิสซิงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า “ตามคอนเซ็ปต์ของงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 ‘Unify... Create Earth-loving Vehicles’ หรือ ‘น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก’ ... บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยตอบโจทย์ด้วยการจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการยกย่องให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Company จากการจัดอันดับของ Dow Jones Sustainability Index ถึง 6 สมัยซ้อน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Sustainability หรือ อนาคตที่ยั่งยืน ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ ‘ยานยนต์รักโลก’ เน้นการใช้พลังงานอย่างมีคุณค่าและประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นเรายังเปิดตัวรถยนต์ BMW 525d ซึ่งเป็นครั้งแรกในคลาสซาลูนผู้บริหารสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ซึ่ง BMW 525d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Advanced Diesel 6 สูบ 3.0 ลิตร 204 แรงม้าของ BMW 525d ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้นของบีเอ็มดับเบิลยู เช่น ระบบ Brake Energy Re-generation และระบบ Active Aerodynamics ที่นอกจากจะเป็นสุดยอดในด้านสมรรถนะแล้ว ยังเป็นเลิศในด้านประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนอีกรุ่นของเทคโนโลยี Advanced Diesel คือ BMW 520d ซึ่งได้พิสูจน์ความเหนือชั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ ประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาแล้วในรุ่นก่อน ซึ่งครั้งนี้ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันดีขึ้นอีก 8% เฉลี่ยที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร และคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร หรือน้อยลง 8% เมื่อเทียบกับ BMW 520d รุ่นก่อนหน้า นี่จะเป็นอีกครั้งที่บีเอ็มดับเบิลยูได้สร้างบรรทัดฐานความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยี ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบและ 4 สูบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภคชาวไทย”
ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ใหม่
BMW 525d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ
สุดยอดแห่งสมรรถนะ ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics
BMW 525d (ราคา 4,399,000) มาพร้อมเครื่องยนต์ Advanced Diesel แบบ 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP Sports Automatic 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 7.2 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 525d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 160 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 525d เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ทั้งด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมด้วยระบบ Headlight Beam-throw Control ที่ทำหน้าที่ปรับลำแสงของไฟหน้าตามระดับความเร็ว ในขณะที่ระบบ Adaptive Headlights ทำหน้าที่ปรับมุมการส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน, ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control พร้อมฟังก์ชั่นระบบ Dynamic Brake และระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้ออัจฉริยะ Integral Active Steering ซึ่งขณะความเร็วสูง เช่น การเปลี่ยนเลน ล้อหลังจะทำปรับมุมในทิศเดียวกับล้อหน้า เพื่อช่วยลดการโยนตัวด้านท้าย เพิ่มเสถียรภาพความปลอดภัยและความสบายสำหรับผู้โดยสาร และในขณะความเร็วต่ำ เช่น การบังคับเลี้ยวในลานจอดรถแคบๆ ล้อหลังจะทำมุมตรงข้ามกับล้อหน้า เพื่อช่วยลดรัศมีวงเลี้ยว เพิ่มความคล่องตัวและความสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน
ส่วนในด้านของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มความสบาย BMW 525d ก็มีให้อย่างครบครัน ยกตัวอย่างเช่น ระบบ Comfort Access ที่สามารถเปิด-ปิดล็อคและสตาร์ทรถเพียงแค่พกกุญแจไว้, ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional ที่มีฮาร์ดดิสก์ขนาด 12 กิ๊กกะไบท์สำรองไว้ให้สำหรับเก็บข้อมูลไฟล์เพลง mp3, เบาะนั่งด้านหน้าแบบ Comfort Seat, พวงมาลัยสปอร์ตพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย, ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และระบบเครื่องเสียงไฮไฟ 12 ลำโพง พร้อมระบบเล่นดีวีดีและจอมอนิเตอร์ขนาด 10.2 นิ้ว
BMW 520d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,900-2,750 รอบ
บรรทัดฐานแห่งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BMW 520d (ราคา 3,699,000) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Advanced Diesel ขนาด 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,900-2,750 รอบ (เพิ่มขึ้น 30 นิวตัน-เมตรหรือ 9% จากรุ่นก่อนหน้า) และกำลังสูงสุด 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 7 แรงม้าหรือ 4% จากรุ่นก่อนหน้า) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.1 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 520d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร (ดีขึ้น 8%) และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร (ลดลง 8%) ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 520d มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ทั้งด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมด้วยระบบ Headlight Beam-throw Control ที่ทำหน้าที่ปรับลำแสงของไฟหน้าตามระดับความเร็วเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน, ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control, ระบบ Comfort Access ที่สามารถเปิด-ปิด สตาร์ทรถ และล็อครถ เพียงแค่พกกุญแจไว้, ระบบ Ambient Light ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศการขับขี่ยามค่ำคืน, ระบบปรับอากาศแบบ Climate Control พร้อมระบบกรองอากาศ Microfiber และ Active Carbon Filter, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และระบบควบคุมสั่งการ iDrive ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 7.0 นิ้ว เป็นต้น
ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม
BMW X6 xDrive30d เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ SAC Sports Activity Coup? ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยการผสมผสานรูปแบบตัวถังของรถยนต์อเนกประสงค์เข้ากับความสปอร์ตดุดันและมีพลังได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นเลิศในด้านของสมรรถนะความคล่องแคล่วปราดเปรียวและความประหยัดน้ำมัน
BMW X6 xDrive30d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบรุ่นใหม่ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันดีที่สุดในโลกในปัจจุบัน บล็อคเครื่องยนต์ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้น มันสามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 540 นิวตัน-เมตรที่ 1,750-2,500 รอบ ซึ่งแรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำและในช่วงที่กว้างนี้ ทำให้ BMW X6 xDrive30d มีสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวคล่องตัว ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเร่งแซงที่มั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น มันยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ที่มีอัตราทดถึง 8 สปีด ที่นอกจากจะสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างฉับไวและนุ่มนวลแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้นด้วย
BMW X6 xDrive30d มาพร้อมกับเบาะนั่งด้านหน้าแบบสปอร์ต, หลังคากระจก Panorama glass roof, ระบบ Comfort Access, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ, เครื่องเสียงไฮไฟ 12 ลำโพง พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB, ม่านบังแดดสำหรับที่นั่งด้านหลัง, ระบบควบคุม iDrive พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5 นิ้ว, พวงมาลัยสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นและแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย และล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว
- BMW X6 xDrive30d ราคา 6,699,000 บาท: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิด 540 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุด 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.1 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 195 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW ซีรี่ย์ 3 Coup? และ Convertible ใหม่ ได้รับการปรับโฉมให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ทั้งในรุ่น BMW 320i ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และรุ่น BMW 325i ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 2.5 ลิตร 218 แรงม้า ซึ่งเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้
- BMW 320i Coup? ราคา 3,799,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมฟังก์ชั่น Steptronic อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 9.7 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 12.4 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 189 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
- BMW 320i Convertible ราคา 4,299,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมฟังก์ชั่น Steptronic อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 10.9 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.8 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 198 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
- BMW 325i Coup? ราคา 4,699,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,250 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.1 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.0 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 212 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
- BMW 325i Convertible ราคา 5,199,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,250 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8.4 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 222 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW X5 xDrive30d ใหม่ นอกจากได้รับการปรับโฉมให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นแล้ว ยังได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบใหม่และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวคล่องตัวให้ดียิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น และคายไอเสียน้อยลง
BMW X5 xDrive30d ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของรถอเนกประสงค์ระดับหรู ทั้งในด้านสมรรถนะ ความหรูหราสะดวกสบาย ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำลังจะทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในโลกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่ที่ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบานี้ มีแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 8% เป็น 540 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ ซึ่งแรงบิดมาเร็วขึ้นและในช่วงรอบที่กว้างขึ้นนี้ทำให้สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้นอย่างมาก ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเร่งแซงที่มั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ใหม่ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ที่มีอัตราทดถึง 8 สปีด ที่นอกจากจะสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างฉับไวและนุ่มนวลแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้นด้วย BMW X5 xDrive30d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร ดีกว่าเดิมถึง 18% และยังดีที่สุดในเซ็กเมนท์ด้วย
ในด้านความหรูหราสะดวกสบาย BMW X5 xDrive30d ก็มีให้พร้อมสรรพ ยกตัวอย่างเช่น หลังคากระจก Panorama glass roof, ระบบ Comfort Access, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ, เครื่องเสียงไฮไฟ 12 ลำโพง พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB, ม่านบังแดดสำหรับที่นั่งด้านหลัง, ระบบควบคุม iDrive พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5 นิ้ว และพวงมาลัยสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น เป็นต้น และในรุ่น ‘Highline’ มีการเสิรมอ๊อปชั่นเพิ่มขึ้น เช่น ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional, จอมอนิเตอร์ขนาด 8.8 นิ้ว และเบาะนั่งแถวที่ 3
- BMW X5 xDrive30d ราคา 6,399,000 บาท / BMW X5 xDrive30d Highline ราคา 6,999,000 บาท:: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิด 540 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุด 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.2 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 195 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
แคมเปญจ์พิเศษ
Motor Expo 2010
โปรแกรมเช่าซื้อสำหรับ BMW ซีรี่ย์ 3 “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ” สำหรับ BMW ซีรี่ย์ 3 ทั้งรุ่นซาลูน คูเป้ และคอนเวิร์ทติเบิ้ล บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทยมอบเงื่อนไขพิเศษด้วยโปรแกรม “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ” สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวอยู่บนเงื่อนไขการเช่าซื้อแบบบอลลูน ด้วยระยะเวลาผ่อน 48 งวด และส่วนบอลลูนที่ 40%
ตัวอย่างสำหรับโปรแกรมเช่าซื้อ “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ”
รุ่น ราคาจำหน่าย ค่างวดรายเดือน
(บาท) (บาท)
BMW ซีรี่ย์ 3 รุ่นประกอบในประเทศ
BMW 318i 2,299,000 22,990
BMW 320i SE 2,599,000 25,990
BMW 320d 2,699,000 26,990
BMW 320d SE 2,899,000 28,990
BMW 320d Sport 2,999,000 29,990
BMW ซีรี่ย์ 3 รุ่นนำเข้า
BMW 320i Coupe 3,799,000 37,990
BMW 320i Convertible 4,299,000 42,990
BMW 325i Coupe 4,699,000 46,990
BMW 325i Convertible 5,199,000 51,990
ของขวัญพิเศษ iPod Touch 4G. สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อรถรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 และรับรถภายใน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 นี้ จะได้รับของขวัญพิเศษเป็น iPod Touch 4G
สำหรับข้อมูลเพื่อเติมเกี่ยวกับแคมเปญจ์ Motor Expo 2010 นี้ (หรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทย) สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800 269-269 (ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269) หรือติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce และรถมอเตอร์ไซค์ BMW เรามีเครือข่ายการผลิต 24 แห่งใน 13 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายจำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมียอดขายรถยนต์ 1.29 ล้านคันและรถมอเตอร์ไซค์ 87,000 คัน มีรายได้ 50.68 ล้านยูโร และมีพนักงาน 96,000 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิต และจากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ลดละ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Manufacturer โดยสถาบัน Dow Jones ถึง 6 ปีซ้อน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
โทร. 0-2305-8820 โทรสาร 0-2305-8882