กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
มินิ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว MINI Countryman ทั้งในรุ่น MINI Cooper S ALL4 Countryman (ราคา 3,290,000 บาท) และ MINI Cooper Countryman (ราคา 2,790,000 บาท) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 Motor Expo 2010 ที่จะมีขึ้นที่อิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ MINI Countryman กำลังจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่สำหรับความสนุกในการขับขี่แบบ Go-kart feeling ในสไตล์ของมินิ ด้วยคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์แบบ Crossover ของ MINI Countryman มินิได้ขยายขอบเขตของอารมณ์การขับขี่ในสไตล์โกคาร์ทฟีลลิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์มินิออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด อีกทั้งยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและความอเนกประสงค์ได้อย่างสร้างสรรค์และชาญฉลาด
คุณ กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “MINI Countryman กำลังจะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับแฟนๆ มินิในเมืองไทย ด้วยคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์แบบ Crossover มีห้องโดยสารกว้างขวางสำหรับผู้ใหญ่ 4 คนได้อย่างสบาย อีกทั้งยังผสมผสานกับอารมณ์การขับที่สนุกสนานและปราดเปรียวว่องไวในสไตล์ Go-kart feeling ตามแบบฉบับของมินิ ความลงตัวด้านประโยชน์ใช้สอยและอารมณ์การขับที่สนุกสนานนี้เองจะช่วยขยายตลาดของมินิในเมืองไทยให้กว้างขึ้น ให้รวมถึงกลุ่มลูกค้าครอบครัวรุ่นใหม่ใจรักความสปอร์ตและดีไซน์ทรงเสน่ห์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ภายในของ MINI Countryman ยังมีรูปแบบที่แปลกใหม่สะดุดตา นอกจากจะมีความโดดเด่นแล้ว ยังมีประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัวด้วย เช่น นวัตกรรมใหม่ระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยสำหรับการจัดเก็บสิ่งของต่างๆภายในห้องโดยสารได้อย่างชาญฉลาด ในรุ่น MINI Cooper S ALL4 Countryman เรายังได้ติดตั้งระบบ MINI Connected ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่รถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ในขณะนี้ ระบบ MINI Connected สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรม Twitter, Web news และ Web radio ซึ่งทำให้การฟังวิทยุจากประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นไปได้อย่างง่ายดายและในอนาคตก็จะมีการเปิดบริการเพิ่มขึ้นในส่วนโปรแกรม Facebook และ Google Local Search ทั้งนี้ ระบบ MINI Connected จะทำงานร่วมกับ iPhone 4 ผ่านระบบเชื่อมต่อสัญญาณ Data GPRS หรือ 3G”
คอนเซ็ปต์ Crossover
ขับสนุกและอเนกประสงค์
MINI Countryman เป็นสมาชิกลำดับที่ 4 ในครอบครัวของมินิ (จากรุ่น Hatchback, Clubman และ Convertible) โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์สไตล์มินิในรูปแบบที่แตกต่าง ทั้งในด้านการขยายศักยภาพความอเนกประสงค์และการบุกตะลุยทางฝุ่นไปพร้อมๆกัน โดย MINI Countryman มาในรูปแบบตัวถังแบบ Crossover ที่มีความสูงอยู่ระหว่างรถยนต์แบบซาลูนและรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle ในขณะที่ MINI Countryman ยังคงไว้ซึ่งสัดส่วนและรูปลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของมินิในทุกมุมมอง แต่มันก็ได้ขยายมิติเพิ่มขึ้นในทุกด้านเช่นกัน โดย MINI Cooper S ALL4 Countryman มีความยาว 4,110 มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่น MINI Cooper S Clubman 149 มิลลิเมตร) ความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร (กว้างกว่ารุ่น Clubman 106 มิลลิเมตร) และความสูง 1,561 มิลลิเมตร (สูงกว่ารุ่น Clubman 129 มิลลิเมตร)
MINI Countryman ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้นิยาม ‘Urban Mobility + Impressive Flexibility’ ซึ่งมุ่งเน้นการขับขี่ในเมืองอย่างปราดเปรียว เปี่ยมด้วยสไตล์และรสนิยมที่โดดเด่น แต่ก็สามารถ ‘ยืดหยุ่น’ ได้อย่างน่าประทับใจ เพื่อตอบสนองความต้องการ ทั้งในด้านประโยชน์ใช้สอยด้วยคอนเซ็ปต์ตัวถังแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง พร้อมด้วยฝาท้ายขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง อีกทั้งคอนเซ็ปต์ห้องโดยสารที่สามารถปรับให้แปรเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงนวัตกรรมใหม่อย่างระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยสำหรับการจัดเก็บสิ่งของต่างๆภายในห้องโดยสารได้อย่างชาญฉลาด พร้อมทั้งยังเสริมศักยภาพการบุกตะลุยทางฝุ่นด้วยอ๊อปชั่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ MINI ALL4 สำหรับแฟนมินิที่รักความสปอร์ตไปพร้อมๆกับรักการผจญภัยโดยเฉพาะ
ด้วยคอนเซ็ปต์ 4 ที่นั่งที่สะดวกสบายเป็นพิเศษ โดยเบาะนั่งด้านหลังก็สามารถปรับเลื่อนเบาะให้เดินหน้า-ถอยหลังได้และพนักพิงหลังของที่นั่นทั้งสองก็สามารถปรับเอนแยกกันได้อย่างอิสระ มิติที่ใหญ่ขึ้นและความสามารถในการตอบสนองความต้องการ เช่น การเดินทางท่องเที่ยววันสุดสัปดาห์สำหรับครอบครัวหรือสำหรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ 4 คน ทำให้ MINI Countryman สามารถขยายฐานลูกค้าของมินิให้กว้างยิ่งขึ้น โดยรวมถึงกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ใจรักความสปอร์ตและกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ขี่จักรยาน หรือ เล่นเซิร์ฟบอร์ด ที่สำคัญที่สุด มันยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของมินิ ทั้งด้านรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวคล่องตัว ทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยอารมณ์การขับขี่สไตล์ Go-kart feeling ในรูปแบบใหม่
คอนเซ็ปต์ความยืดหยุ่นในด้านประโยชน์ใช้สอยความอเนกประสงค์ของ MINI Countryman ได้รับแรงบันดาลใจจาก Austin Seven Countryman ที่ออกแบบโดย Sir Alec Issigonis ซึ่งได้เพิ่มศักยภาพประโยชน์ใช้สอยให้กับมินิได้อย่างปราดเปรื่อง ในขณะนั้น Austin Seven Countryman และ Morris Mini Traveller ซึ่งเป็นรุ่นคู่หูภายใต้แบรนด์การตลาดที่แตกต่าง ได้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคทศวรรษที่ 1960 อีกทั้งยังมีรุ่น ‘Woody’ ที่เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งได้รับการตกแต่งด้วยลายไม้ในส่วนของประตูด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในสมัยนั้น และเป็นที่ค้นหาสำหรับนักสะสมในสมัยนี้ และจุดประสงค์ในการขยายขอบเขตความอเนกประสงค์นี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น ‘Countryman’
ดีไซน์ภายนอก: โดดเด่น บึกบึนและดุดัน
แฝงเสน่ห์แห่งความเป็นมิตรของมินิได้อย่างลงตัว
ในด้านดีไซน์ของ MINI Countryman นักออกแบบของมินิได้คงไว้ซึ่งสัดส่วนที่เป็นเอกลัษณ์ของมินิไว้อย่างเต็มรูปแบบ — ฐานล้อยาว โอเวอร์แฮงค์สั้น และแทร็คที่กว้าง — ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ทั้งความยาว ความกว้าง และความสูง MINI Countryman ก็สามารถสะท้อนความเป็นมินิในทุกมุมมอง ในขณะเดียวกัน นักออกแบบของมินิก็ได้รังสรรค์ความสดใสและแปลกตาที่ผสมผสานกับความดุดันและบึกบึนให้กับ MINI Countryman เช่น การแบ่งระดับตัวถังอย่างชัดเจนของส่วนบอดี้ตัวถัง ส่วน Greenhouse ที่เป็นส่วนกระจกของห้องโดยสาร และส่วนหลังคาที่มีแนวทางดีไซน์ที่แปลกใหม่ นอกจากนั้น ส่วนของด้านหน้าที่มีรูปทรงและการจัดวางของไฟหน้าใหม่ได้เพิ่มความสดใสแปลกตา พร้อมกระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยมและแนวกระจกหน้าที่ตั้งมากขึ้น — เพื่อแสดงออกถึงความมั่นคงพร้อมตะลุยไปทุกที่ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยสำหรับคนเดินถนนในกรณีอุบัติเหตุ ในด้านท้าย นักออกแบบของมินิได้บรรจงสร้างสรรค์รายละเอียดเป็นพิเศษ โดยการจัดเรียงรูปแบบของไฟท้ายใหม่และแนวตัวถังด้านข้างที่โป่งออก ให้ความรู้สึกความดุดันและบึกบึนในกลิ่นอายของรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle ซึ่งรายละเอียดด้านดีไซน์ดังกล่าวนี้ ให้มุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิได้อย่างหมดจด แต่ในขณะเดียวกับก็สามารถให้อารมณ์ที่ตื่นตาและแตกต่างจากสมาชิกรุ่นพี่ในตระกูลมินิทั้งสามได้อย่างลงตัว ดีไซน์ของ MINI Countryman จึงสะท้อนความตื่นเต้นเร้าใจในสไตล์ของมินิ และแฝงความดุดันและบึกบึนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังคงเสน่ห์แห่งความเป็นมิตรน่าคบหาให้กับทุกสายตาที่จ้องมอง
ดีไซน์ภายใน: ผสมผสานเอกลักษณ์ความคลาสสิก
เข้ากับดีไซน์และประโยชน์ใช้สอยได้อย่างชาญฉลาด
เพียงแรกมอง ดีไซน์ภายในของได้สะท้อนเอกลักษณ์ความคลาสสิกของมินิ เช่น มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางแดชบอร์ด พร้อมกับแผงประตูรูปวงรีซึ่งมีลายเส้นเชื่อมต่อกันจากประตูบานหน้าสู่ประตูบานหลังได้อย่างกลมกลืน MINI Cooper S ALL4 Countryman มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบสปอร์ตสำหรับที่นั่งด้านหน้า พร้อมวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของ Color Line ซึ่งเป็นเส้นต่อเนื่องจากมือจับประตูและแดชบอร์ดด้านล่าง เพื่อสร้างสีสรรและความแปลกตาสำหรับห้องโดยสารในโทนสีต่างๆ เช่น สีดำ Carbon Black, สีเบจ Polar Beige, สีแดง Pure Red, สีน้ำตาล Dark Tobacco หรือสีฟ้า Surf Blue ซึ่งเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่น MINI Cooper S ALL4 Countryman ลูกค้าจึงสามารถเลือกตกแต่งภายห้องโดยสารตามรสนิยมของแต่ละคนได้อย่างหลายหลาก
ด้วยคอนเซ็ปต์ Crossover ตำแหน่งนั่งขับของ MINI Countryman จึงถูกยกให้สูงขึ้นกว่าในรุ่นแฮ็ทแบ็ค ซึ่งนอกจากจะทำให้การเข้า-ออกรถเป็นไปได้อย่างสะดวกง่ายดายแล้ว ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในมุมมองที่สูงและกว้างยิ่งขึ้นด้วย ส่วนที่นั่งด้านหลังก็ได้รับการออกแบบให้ ‘ยืดหยุ่น’ เพื่อความอเนกประสงค์อย่างเต็มที่ เบาะนั่งด้านหลังสามารถเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ถึง 130 มิลลิเมตร อีกทั้งพนักพิงยังสามารถปรับเอนได้ จึงทำให้ MINI Countryman เหมาะสำหรับเดินทางใกล้และไกลสำหรับผู้โดยสารผู้ใหญ่ 4 คนได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนั้นเบาะนั่งด้านหลังสามารถเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้นี้ ยังช่วยเพิ่มความจุสัมภาระท้ายรถจาก 350 ลิตรเป็น 450 ลิตร และถ้าต้องการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ พนักพิงเบาะที่นั่งด้านหลังยังสามารถพับให้แบนราบ เพิ่มความจุสัมภาระเป็น 1,170 ลิตรได้อย่างง่ายดาย
MINI Countryman ยังมาพร้อมกับระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบจัดเก็บของภายในรถ ที่ผสมผสานความเท่ห์ในสไตล์มินิเข้ากับประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว โดย Center Rail Storage เป็นระบบรางรูปตัว U ที่มียาวตั้งแต่ส่วนที่นั่งด้านหน้าไปถึงส่วนที่นั่งด้านหลัง ซึ่งผู้ใช้สามารถ ‘Clip-in’ ช่องเก็บของรูปแบบต่างๆ เช่น ถาดเก็บของ, ที่วางโทรศัพท์มือถือ หรือที่วางแก้วน้ำ โดยสามารถล็อคในตำแหน่งต่างๆที่ใช้งานได้สะดวกมือ นอกจากนี้ยัง Center Rail ยังทำหน้าที่เป็นรางไฟ Ambient Light ที่เลือกปรับสีได้ตามแต่อารมณ์ของผู้ขับขี่ ทำให้ห้องโดยสารมีความงดงามแปลกตาด้วยสีสรรในยามค่ำคืน
MINI Cooper S ALL4 Countryman กับสุดยอดของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ
พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบ VALVETRONIC + Twin-scroll Turbo และ Direct Fuel Injection
MINI Cooper S ALL4 Countryman มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC ซึ่งจัดเป็นระบบเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในวันปัจจุบัน เครื่องยนต์นี้สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้าที่ 5,500 รอบและแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรที่ 1,600-5,000 รอบ และสามารถเพิ่มเป็น 260 นิวตัน-เมตรในขณะเร่งแซงด้วยฟังก์ชั่น Overboost ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น Steptronic และแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8.3 วินาที และมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 12.4 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมทั้งอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 189 กรัมต่อกิโลเมตร
นอกจาก MINI Cooper S ALL4 Countryman แล้ว มินิ ประเทศไทย ยังนำเสนอรุ่น MINI Cooper Countryman ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตรที่ 4,250 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น Steptronic มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 11.6 วินาที และมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมทั้งอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 177 กรัมต่อกิโลเมตร
ระบบแชสซีเหนือชั้น
Go-kart Feeling ไร้ขีดจำกัด
นอกจาก MINI Countryman จะมีอารมณ์ขับขี่แบบ Go-kart Feeling ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมินิแล้ว MINI Countryman ในรุ่น Cooper S ALL4 ยังได้เพิ่มศักยภาพการบุกตะลุยทางฝุ่นด้วยอ๊อปชั่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ MINI ALL4 ซึ่งทำงานผ่านระบบ Electromagnetic Center Differential ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับมินิโดยเฉพาะ เพื่อสร้างอารมณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวว่องไวในทุกสถานการณ์ โดยในสภาพการขับขี่บนถนนปกติ ระบบจะกระจายพลังขับเคลื่อนไปสู่ล้อหลังได้มากถึง 50% ตามที่รถต้องการ ส่วนในสภาพการขับขี่บนถนนเปียกลื่น เช่น บนพื้นน้ำแข็ง ระบบจะสามารถแปรผันแรงขับเคลื่อนไปสู่ล้อที่ต้องการได้ 100%
วิศวกรของมินิออกแบบให้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ MINI ALL4 นี้ทำงานเป็นส่วนหนึ่งของสมองกลอิเลคทรอนิคของระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control ซึ่งทำให้มันสามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วถึง 1/10 วินาที ทำให้มันมีความปราดเปรียวว่องไวอย่างเหนือชั้น ในขณะเดียวกัน ระบบแชสซีของ MINI Countryman ยังถูกออกแบบและเซ็ตเป็นพิเศษ ผสมผสานความสปอร์ตและความสบายได้อย่างมหัศจรรย์ มันใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson และ Forged Track Control Arms และช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ที่ให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีการติดตั้ง Anti-roll Bars ทั้งด้านหน้าและด้านหล้งเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนสำหรับการเข้าโค้งโดยเฉพาะ
MINI Countryman มาพร้อมระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering ที่นอกจากจะสามารถให้การควบคุมเฉียบคมและแม่นยำแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอีกด้วย นอกจากระบบแชสซีที่เหนือชั้นและระบบพวงมาลัยที่เฉียบคมแล้ว MINI Countryman ยังมีระบบอิเลคทรอนิคเสริมด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control, ระบบเบรก ABS Anti Brake-locking System, ระบบ EBD Electronic Brake force Distribution, ระบบ CBC Cornering Brake Control, ระบบ BA Brake Assist และระบบ HA Hill Assist
ไฮไลท์อ๊อปชั่น
ในด้านความปลอดภัยและความหรูหราสะดวกสบาย MINI Cooper S ALL4 Countryman ก็มีให้พร้อมสรรพ ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมระบบ Adaptive Headlights ซึ่งทำหน้าที่ปรับมุมการส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย, หลังคากระจก Panorama glass roof, ระบบ Comfort Access, ระบบ MINI Connected สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone 4 ผ่านระบบ Data GPRS หรือ 3G สามารถใช้โปรแกรม Twitter, Web news และ Web radio ซึ่งทำให้การฟังวิทยุจากประเทศต่างๆทั่วโลกเป็นไปได้อย่างง่ายดาย, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือและไฟล์เพลงจากโทรศัทท์มือถือ เช่น iPhone และ Blackberry, เครื่องเสียงไฮไฟ Harman Kardon 10 ลำโพง พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB, ระบบควบคุม iDrive พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5 นิ้ว, ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Control และพวงมาลัยสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น เป็นต้น
ราคาจำหน่าย
รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI MINI Service Inclusive 3 ปี / 50,000 กิโลเมตร
MINI Cooper S ALL4 Countryman ราคา 3,290,000 บาท
MINI Cooper Countryman ราคา 2,790,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce และรถมอเตอร์ไซค์ BMW เรามีเครือข่ายการผลิต 24 แห่งใน 13 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายจำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมียอดขายรถยนต์ 1.29 ล้านคันและรถมอเตอร์ไซค์ 87,000 คัน มีรายได้ 50.68 ล้านยูโร และมีพนักงาน 96,000 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิต และจากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ลดละ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Manufacturer โดยสถาบัน Dow Jones ถึง 6 ปีซ้อน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
โทร. 0-2305-8820 โทรสาร 0-2305-8882