กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--โลว์
ชมรมผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทย ยกขบวนยนตรกรรมหรูทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถเพื่อ การพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 11 คัน จัดแสดงในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 27 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2553
นายอนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล ประธานชมรมผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทย กล่าวว่า “ชมรมผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ฯ เข้าร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เตรียมนำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดทั้งหมด 11 รุ่น ประกอบด้วย C-Class, E-Class, S-Class โดยไฮไลท์ที่เตรียมไว้ในครั้งนี้จะอยู่ที่การเปิดตัวยนตรกรรมหรูพร้อมกันถึงสองรุ่น คือ the new E-Class Estate และ the new generation R-Class”.
“สำหรับบูธของเราในปีนี้ นำเสนอด้วยคอนเซ็ป ‘StarMobile’ ซึ่งจำลองมาจากโชว์รูมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในสไตล์การตกแต่งแบบ ‘AutoHaus’ อันเป็นมาตรฐานโชว์รูมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ซึ่งจะมอบความสะดวกสบายและให้ความรู้สึกอบอุ่นในบรรยากาศที่เป็นอันเอง ประหนึ่งอยู่ในโชว์รูม” นายอนุพล กล่าวเสริม
“The new E-Class Estate เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในตระกูล E-Class family โดยในงานนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำเสนอรุ่น E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับรุ่น E-Class ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย โดยยนตรกรรมรุ่นนี้ มาพร้อมกับความหรูหรา ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ด้วยเนื้อที่การใช้งานที่เหมาะเจาะลงตัว นอกจาก the new E-Class Estate แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้นำเสนอ the new-generation R-Class ซึ่งมีให้เลือกถึงสองรุ่นด้วยกัน คือ R 300 CDI 4MATIC Family และ R 300 CDI 4MATIC Executive โดยเรามั่นใจว่าทั้งสองรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และยังจะเป็นไฮไลท์ของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกด้วย”
ศาสตราจารย์ ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เลือก E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate และ R 300 CDI 4MATIC ในรุ่น Family และ Executive เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหายนตรกรรมคู่ใจ ที่มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางเป็นพิเศษ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งสองรุ่นนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟมิลี่”
“นอกจากรถหรูรุ่นต่างๆ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้ตอกย้ำแนวคิด BlueEFFICIENCY อันเป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนอย่างไร้มลพิษเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับของงานมอเตอร์เอกซโปร์ในครั้งนี้ ด้วยธีม ‘น้ำหนึ่งใจเดียว สร้างสรรค์ยานยนต์รักษ์โลก’ โดยในงานนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำยนตรกรรมในรุ่น BlueEFFICIENCY มาแสดงถึง 7 รุ่นด้วยกัน” ดร.เพาฟเลอร์ กล่าวเสริม
The new E-Class Estate
หนึ่งในไฮไลท์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานนี้คือ E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในตระกูล E-Class ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติในภาวะฉุกเฉิน ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบปกป้องผู้สัญจรบนท้องถนน หรือระบบกันสะเทือนที่รักษาสมดุลของรถตั้งแต่หัวจรดท้ายแบบอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถเพิ่มที่นั่งแถวที่สาม ซึ่งไม่มีในรถอื่นๆ ในรุ่น
นอกจากนี้ E-Class Estate ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถ Estate ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง โดยมีความจุถึง 1,950 ลิตร ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากมายเมื่อเทียบกับรถ Estate รุ่นอื่นๆ อาทิ ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติ EASY-PACK tailgate เพียงปลายนิ้วสัมผัส และระบบ quickfold ซึ่งปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ในด้านความสะดวกสบาย E-Class Estate มาพร้อมกับระบบ Air Suspension ซึ่งสามารถทำให้รถทรงตัวได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในขณะที่บรรจุสัมภาระซึ่งมีน้ำหนักมากไว้ด้านหลัง รถก็ยังสามารถทรงตัวได้ในระดับขนาน ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เครื่องยนต์ขนาด 1,796 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ 204 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 310 นิวตันเมตร ต่อ 2,000 — 4,300 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 — 100 กม. ภายใน 8.4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 230 กม. ต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยที่ 8.0 — 8.2 ลิตร ต่อ 100 กม. และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ยที่ 185 — 191 กรัม ต่อ กม. E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate สนนราคาที่ 4, 949,000 บาท
The new-generation R-Class
อีกหนึ่งยนตรกรรมไฮไลท์ของเมอร์เซเดสเบนซ์ในงานนี้คือ R 300 CDI 4MATIC ด้วยรูปโฉมที่ปรับแต่งให้ดูสะดุดตายิ่งขึ้น ตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลัง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่ารถยนต์ซาลูนทั่วไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราแบบคลาสสิคในสไตล์เมอร์เซเดส-เบนซ์
R 300 CDI 4MATIC ผสมผสานระหว่างความเป็นซาลูนและยานยนต์ออฟโรดเข้าด้วยกัน โดยอุปกรณ์ภายในของ R 300 ในรุ่นปี 2010 นี้ถูกปรับแต่งให้เข้ากับอุปกรณ์ภายนอกอย่างกลมกลืน พร้อมพื้นที่ใช้สอยแบบยานยนต์เอนกประสงค์ หรูหราด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ประกอบกับความแข็งแกร่งทนทานที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คงสมรรถนะยานยนต์แบบออฟโรดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม
นอกจาก R 300 CDI 4MATIC ได้เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนจากรุ่นเดิมแล้ว ยังเป็นยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดอัตราสิ้นเปลื้องเชื้อเพลิงลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์ หรือ 9.3 — 9.5 ต่อ 100 กม. และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 246 — 253 กรัม ต่อ กม.โดยเฉลี่ย R 300 CDI 4MATIC มาพร้อมกับเครื่องยนต์V6 ขนาด 2,987 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 440 นิวตันเมตร ที่ 1,400 — 2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 — 100 กม. ที่ 9.8 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 210 กม. ต่อชั่วโมง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งราคาจำหน่าย R 300 CDI 4MATIC Family 7 ที่นั่ง สนนราคาที่ 5,899,000 บาท และ R 300 CDI 4MATIC Executive 6 ที่นั่ง สนนราคาที่ 6,449,000 บาท
สำหรับยนตรกรรมรุ่นอื่นๆที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ประกอบด้วยรุ่น standard model คือ C-Class, E-Class และ S-Class นอกจากนี้ยังมี Niche model และ รถเพื่อการพาณิชย์โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Mercedes-Benz C-Class:
ยานยนต์ยอดนิยม C-Class ซึ่งนำมาแสดงในงานนี้ประกอบด้วยรุ่น C 200 CGI BlueEFFICIENCY ELEGANCE และ C 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ แต่ยังเพิ่มสมรรถนะให้ขุมพลังของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น นอกจากนี้ C-Class ยังประกอบด้วยระบบ AGILITY CONTROL นวัตกรรมที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปแบบคล่องแคล่วปราดเปรียวและยังสามารถบังคับการควบคุมได้แม่นยำและเที่ยงตรงมากขึ้น จึงเพิ่มอารมณ์ความสนุกและปราดเปรียวในทุกการขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของของยนตรกรรม C-Class
Mercedes-Benz E-Class :
รถยนต์หรูที่สามารถครองใจลูกค้าตลอดกาล ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class’ นำมาแสดงในรุ่น E 200 CGI BlueEFFICIENCY ELEGANCE, E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE MercedesSport, E 250 CGI BlueEFFICIENCY Cabriolet และที่จะเปิดตัวในงานนี้คือ E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate โดย the new E-Class ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในเซ็กเม้นท์เดียวกัน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยขับ driver assistance systems ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ที่เดินทางบนท้องถนน
Mercedes-Benz S-Class :
สุดยอดยนตรกรรมแห่งความหรูหรา เมอร์เซเดส-เบนซ์ S-Class นำเสนอรุ่น the new generation S 300 ซึ่งมาในรุ่น Long Wheel Base ที่โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่เป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นระบบเซ็นเซอร์ที่รายล้อมตัวรถ รวมทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์และ Intelligent partner ระบบช่วยเหลือในการขับขี่แบบอัตโนมัติต่างๆอีกมากมาย ที่จะปกป้องผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ S-Class ยังประกอบด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่ให้ความสะดวกสบายและความเพลิดเพลินจากอุปกรณ์ความบันเทิงที่สร้างสรรค์มาเป็นพิเศษซึ่งทำให้ S-Class เป็นผู้นำของยนตรกรรมหรู ในทุกๆด้าน
Niche models:
นอกจากยนตรกรรมรุ่นหลักแล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้นำเสนอยนตรกรรมรุ่น Niche model ซึ่งประกอบด้วย ML 300 CDI BlueEFFICIENCY, SLK 200 KOMPRESSOR และ R 300 CDI 4MATIC
Vito 115 CDI Extra Long
ไม่เพียงแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ในงานนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังนำเสนอรถเพื่อการพาณิชย์ Vito 115 CDI เวอร์ชั่น extra long ความยาว 5,223 มม. ที่ให้เนื้อที่ใช้สอยกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมประตูเลื่อนไฟฟ้า ระบบช่วยจอด และระบบตั้งความเร็ว
BlueEFFICIENCY: นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับแนวคิดของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตอกย้ำกลยุทธ์การขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด BlueEFFICIENCY เทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ในปีนี้ คือ ‘น้ำหนึ่งใจเดียว สร้างสรรค์ยานยนต์รักษ์โลก’ BlueEFFICIENCY เป็นนวัตกรรมอันทรงประสิทธิภาพที่สุดในด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงรวมทั้งลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซด์จากท่อไอเสีย เพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการปรับโครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆของรถ ให้มีน้ำหนักเบา มีแรงเสียดทานต่ำและมีโครงสร้างที่ลู่ลมมากที่สุด ด้วยดีไซน์ โครงสร้างทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งปรับอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่การลดน้ำหนักเครื่องยนต์ กระจกหน้ารถ พวงมาลัย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษโดยยังคงสมรรถนะเต็มประสิทธิภาพในด้านสุนทรียภาพในการขับขี่ ความสะดวก สบายหรูหราและความปลอดภัย อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้อย่างครบถ้วน
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า
รุ่น SLK 200 KOMPRESSOR Roadster
- ผ่อนชำระ 0% นาน 48 เดือน หรือ ดาวน์น้อย ผ่อน 0% นาน 36 เดือน พร้อมรับประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี หมดเขตวันที่ 30 ธันวาคม 2553
Vito 115 CDI Extra Long
- ผ่อนชำระ 0% นาน 24 เดือน ข้อเสนอพิเศษนี้หมดเขตวันที่ 30 ธันวาคม 2553
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านสัมผัสขบวนยนตรกรรมหรูหลากรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยียานยนต์อันล้ำสมัย ที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 27 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2553
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ชมรมผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทย
คุณอนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล โทรศัพท์ 02 930 1888
หรือ PR Agency, บริษัท โลว์ จำกัด
ชาลิน, ธัญจิรา โทรศัพท์ 02 670 1000 ต่อ 143, 203
ท่านสามารถดาวน์โหลดข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th