อสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้า ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มดี คาดตลาดกรุงเทพฯ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตาขยายตัว

ข่าวอสังหา Wednesday December 1, 2010 10:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--โจนส์ แลง ลาซาลล์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าคุณภาพดีของกรุงเทพฯ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตา ได้เข้าสู่ช่วงขาขึ้น โดยอัตราค่าเช่ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ตามการรายงานจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์ จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศหลักๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เริ่มสงบลง สภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์การว่าจ้างงานในภูมิภาคนี้โดยรวมจึงมีการปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น และกำลังใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้ตลาดศูนย์การค้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คึกคักมากเป็นพิเศษและส่งผลให้ความต้องการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าปรับตัวสูงขึ้น กรุงเทพฯ ตัวเลขสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 13.3 ในเดือนพฤษภาคม เป็น 25.6 ในเดือนกันยายน สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและผลบวกที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจศูนย์การค้า ศูนย์การค้าคุณภาพดีของกรุงเทพฯ ณ สิ้นไตรมาสสามปีนี้ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 3.6 ล้านตารางเมตร ความต้องการใช้พื้นที่ศูนย์การค้าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ผู้ประกอบการค้าสินค้าและบริการแบรนด์ต่างๆยังคงมีการเปิดสาขาเพิ่มในศูนย์การค้าทันสมัยที่เปิดขึ้นใหม่ๆ ในย่านชานเมือง ส่วนทางด้านค่าเช่า หลังเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในสองไตรมาสแรก ค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าคุณภาพดีของกรุงเทพฯ ยังคงรักษาระดับเดิมในไตรมาสสาม โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย แม้แนวโน้มในระยะสั้นสำหรับตลาดศูนย์การค้าของกรุงเทพฯ ยังคงไม่ชัดเจนจากภาวะเงินบาทแข็งค่าและความไม่แน่นอนทางการเมืองยังคงอยู่ อย่างไรก็ดี จากที่มีการปรับตัวเลขประมาณการการเติบโตของจีดีพีสำหรับปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7-8% สื่อให้เห็นถึงการอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนในการกระตุ้นการขยายตัวของภาคธุรกิจศูนย์การค้า สิงคโปร์ ดัชนีมูลค่าค้าปลีกของสิงคโปร์มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2552 โดยในเดือนกรกฎาคม 2553 มูลค่าการค้าปลีก (ไม่รวมมูลค่าการจำหน่ายรถยนต์) ปรับเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ธุรกิจศูนย์การค้าของสิงคโปร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย โดยตัวเลขจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนสิงคโปร์ ณ เดือนสิงหาคมอยู่ที่ 996,000 คน เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ศูนย์การค้าในย่านการค้าชั้นเอกและชั้นรอง รวมถึงย่านชานเมืองของสิงคโปร์ มีค่าเช่าคงตัวถึงเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราการว่างพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าคาดว่าจะเริ่มมีเสถียรภาพ เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานเริ่มเข้าสู่จุดสมดุล หลังจากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีพื้นที่ศูนย์การค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นมากในย่านถนนออร์ชาร์ด กัวลาลัมเปอร์ ความต้องการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าคุณภาพดีส่วนใหญ่ในกัวลาลัมเปอร์มีอยู่ในระดับสูง ในขณะที่มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าไม่ถึง 10% ส่วนค่าเช่าในไตรมาสสามเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หลังจากทรงตัวในช่วงห้าไตรมาสก่อนหน้า คาดว่า ความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ประกอบการค้าปลีกจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่จะมีเทศกาลต่างๆ เกิดขึ้น ประกอบกับการที่จะมีศูนย์การค้าใหม่ๆ สร้างเสร็จเพิ่มขึ้นไม่มาก จึงเชื่อว่า พื้นที่เหลือเช่าในศูนย์การค้าของกัวลาลัมเปอร์เฉลี่ยโดยรวมจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ จาการ์ตา แม้อินโดนีเซียจะประสบเหตุการณ์ความท้าทายหลายเหตุการณ์ในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา แต่ความต้องการใช้พื้นที่ในศูนย์การค้าของจาการ์ตาในไตรมาสสามเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยมีกิจกรรมการเช่าพื้นที่รายการใหญ่ๆ หลายรายการในศูนย์การค้าที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการค้าสินค้าและบริการแบรนด์ต่างๆ มีการขยายกิจการ ในขณะที่ความต้องการในการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าปรับตัวดีขึ้น แต่การแข่งขันระหว่างโครงการศูนย์การค้ายังคงมีอยู่สูง ซึ่งเห็นได้จากการเสนอส่วนลดค่าเช่า แรงจูงใจอื่นๆ และเงื่อนไขการจ่ายค่าเช่าที่มีความยืดหยุ่นเพื่อดึงดูดผู้เช่า คาดว่า ตลาดศูนย์การค้าของจาการ์ตาจะปรับตัวดีขึ้นต่อไป เนื่องจากความต้องการใช้พื้นที่โดยผู้ประกอบการค้าทั้งแบรนด์ภายในและต่างประเทศมีอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี จากการที่จะมีศูนย์การค้าใหม่ๆ สร้างเสร็จเพิ่มขึ้นอีก คาดว่า อัตราการว่างของพื้นที่เช่า ณ สิ้นปีจะยังคงอยู่ในระดับเดิมคือ 13.3% นายคริส ฟอสสิค กรรมการผู้จัดการโจนส์ แลง ลาซาลล์ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า “มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตเพิ่มขึ้นระหว่าง 4-8% ประกอบกับการอุปโภคบริโภคของประชากรวัยเยาว์ โดยเฉพาะในเวียดนามและอินโดนีเซีย ทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดศูนย์การค้าของภูมิภาคนี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อไปอีก” โจนส์ แลง ลาซาลล์ โจนส์ แลง ลาซาลล์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค เป็นบริษัทบริการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยให้บริการที่ครบวงจรโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแก่ลูกค้าที่ต้องการคุณค่าสูงสุดจากการเป็นเจ้าของ ใช้ประโยชน์หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2552 โจนส์ แลง ลาซาลล์มีรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 2.5 พันล้านดอลลาร์ จากการให้บริการแก่ลูกค้าใน 750 เมืองของ 60 ประเทศ ผ่านสำนักงาน 180 สาขา ในประเทศไทย โจนส์ แลง ลาซาลล์ เปิดดำเนินการในปี 2533 และปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในไทย โดยมีพนักงานราว 1,000 คน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ วินัย ใจทน 02 624 6540 winai.jaiton@ap.jll.com www.joneslanglasalle.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ