กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--บลจ.ทิสโก้
บลจ.ทิสโก้ ชูภูมิภาคเอเชีย จีน-อินเดีย มาแรงต่อเนื่องถึงปีหน้า แนะนำลงทุนโค้งสุดท้ายช่วงท้ายปี เพิ่มพอร์ตหุ้นเอเชียเป็น 50:50 สร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มและกระจายความเสี่ยงจากหุ้นไทย
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในแถบภูมิภาคเอเชียว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน และ อินเดีย ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 8% โดยมีปัจจัยจากภาคการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเป็นแรงขับเคลื่อน เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม G3 อย่างอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจช้ากว่าประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวยังต้องเผชิญกับปัญหาการว่างงาน และปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นภูมิภาคเอเชียจึงเป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่า
ทั้งนี้ในสิ้นปี บลจ.ทิสโก้ มองว่า การลงทุนหุ้นในกลุ่มภูมิภาคเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตที่สูงสุดในบรรดาทุกภูมิภาค และมีการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศจีน และ อินเดีย เป็น 2 ประเทศหลักที่มีความน่าสนใจ โอกาสที่หุ้นในแถบภูมิภาคดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นก็มีอย่างต่อเนื่อง โดย บลจ. ทิสโก้ ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า PE ปีหน้า ของดัชนี MSCI Asia Pacific ex Japan จะอยู่ที่ประมาณ 15-16 เท่า และมีอัพไซด์ประมาณ 15%-20% โดยเฉพาะหุ้นจีนมีโอกาสทำกำไรได้มากถึง 30% หากดัชนี HSCEI ปรับตัวขึ้นถึงเป้าหมายที่ 17,500 จุด จึงมองว่าโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย และ จีน ยังมีโอกาสทางการลงทุนที่ดีอยู่
ดังนั้น สำหรับการเลือกลงทุนในช่วงส่งท้ายปีนี้ บลจ.ทิสโก้ จึงแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นได้ อาจพิจารณาเพิ่มการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นในแถบเอเชียมากขึ้น โดยแนะนำลงทุนหุ้นเอเชีย และหุ้นในประเทศ ที่สัดส่วน 50: 50 เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากหุ้นไทย
“การเลือกลงทุนหุ้นในประเทศกลุ่มเอเชีย เช่น จีน อินเดีย หากนักลงทุนรับความความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นไทยได้ ก็สามารถรับความเสี่ยงหุ้นเอเชียได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยในตลาดยังในระดับที่ต่ำอยู่ เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของหุ้นจึงนับว่าน่าสนใจกว่า ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจเอเชียปีหน้า ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง” นายสาห์รัช กล่าว
สำหรับการลงทุนในหุ้นเอเชีย ปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้ มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชีย ให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนตามความต้องการ ที่สามารถทำการซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ อาทิ กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น, กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Shares อิควิตี้ ลงทุนในบริษัทชั้นนำประเทศจีน มุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับ HSCEI, กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย ดิวิเดนด์ ฟันด์ ลงทุนในหุ้นจีน อินเดีย เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กฤตยาภรณ์ ธีระอรรถ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์
บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร.02 633 6906