กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ไทยทีวีสีช่อง 3
หลังจากที่ได้ติดตามชมละครซี่รีย์ 4 หัวใจแห่งขุนเขาทั้ง 3 เรื่องไปแล้ว ก็มาถึงละครซีรี่ย์สุดท้ายที่กล่าวถึงบทสรุปของละครซีรี่ย์ทั้ง 4 เรื่อง โดยมีหนุ่มหล่อ มาดเข้ม อย่าง บอย “ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่เข้ามารับบทเป็นหนุ่มหล่อเพลย์บอยตัวพ่อแต่ต้องเจอกับนางเอกสาวหน้าหวานอย่าง มาร์กี้ “ราศี บาเล็นซิเอก้า” ที่จะเข้ามาถอดเขี้ยวเล็บเสือร้ายเพลย์บอยจนหมดสิ้น แถมละครเรื่องนี้ยังได้ผู้จัดมือดีอย่าง พี่อ๊อฟ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” และ พี่แดง “ธัญญา วชิรบรรจง” เข้ามาดูแลและถ่ายทอดอารมณ์ของละครให้น่าติดตามแถมยังแฝงความลึกลับและไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
โดยหนุ่มบอยได่เผยว่า “ต้องบอกก่อนเลยว่าจริงๆแล้วผมได้สัมผัสถึงกองละครทุกๆกองและทุกกองก็สนุกไม่แพ้กันเลยครับ อย่างละครเรื่องวายุภัคมนตรานี้เป็นละครเรื่องสุดท้ายที่จะปิดฉากความรักทั้งหมดของทั้ง 4 เรื่องรวมถึงความรักในแบบของตัววายุภัคเองที่จะสยบความเจ้าชู้ไว้ที่ทิชากรได้อย่างไร แถมยังต้องเจอมนต์ดำไสยศสาตร์ของนางโหงพรายที่ติดตามตัวตลอดเวลาทำให้ผมต้องเจอกับมาร์กี้ที่เข้ามาช่วยเหลือวายุภัครให้พ้นไสยสาตร์ในแบบโก๊ะๆของเธอนะครับ ซึ่งละครเรื่องนี้ก็เป็นละครรักโรแมนติกที่น่าติดตามมาก ตัวผมเองก็มีหลากหลายฉากที่ประทับใจ ทั้งความสมจริงในฉากด้านเอฟเฟคต่างๆน่าประทับใจมาก มีทั้งฉากบนโลกมนุษย์และฉากบนสวรรค์ ซึ่งบอกได้เลยว่าทุกอย่างดีมากๆครับ และผมก็ขอฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะครับใกล้จะออนแอร์แล้วยังไงก็ช่วยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ”
ส่วนนางเอกสาวสวยที่มาในลุคสาวโบฮีเมียนได้กล่าวว่า“เรื่องนี้กี้รู้สึกดีมากค่ะและเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละคร 40 ปี ช่อง 3 และก็ยังได้ร่วมงานกับพี่อ๊อฟ อีกด้วยค่ะ เมื่อก่อนเคยถ่ายละครแล้วรู้สึกอายๆแต่พอมาครั้งนี้เจอพี่อ๊อฟก็รู้สึกดีมากเลยค่ะ ซึ่งในเรื่องกี้จะเป็นลูกสาวของหมอไสยขาวแต่ก็พอมีวิชาอยู่บ้างซึ่งพอเจอพระเอกที่โดนโหงพรายทำร้ายเราก็เลยเข้าไปช่วยทำให้ความรักและความลับดำเนินเรื่องต่อไปค่ะ ละครเรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์และหลายรสชาตินะคะทั้งสนุก เศร้า ลึกลับ ปนความฮาไว้ให้ได้ชมมากมาย ยังไงก็ขอฝากละครชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขาโดยเฉพาตอนวายุภัคมนตรานะคะ”
จากพระนางคู่ขวัญได้กล่าวไปแล้วผู้กำกับมือดีอย่างพี่อ๊อฟก็ได้เอ่ยปากชมคู่ขวัญและเผยถึงละครเรื่องนี้ว่า “ครั้งนี้ผมรับหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดและผู้กำกับด้วยซึ่งละครเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องยากเลยเพราะต้องรู้คาแรคเตอร์ทั้งหมดของตัวละครจากเรื่องแรกจนมาถึงเรื่องนี้ เราต้องดำเนินเรื่องให้เรื่องสอดคล้องและเกี่ยวเนื่องกัน แต่จะต่างกันตรงที่ในส่วนนี้จะยากตรงการทำซีจีและเอฟเฟคต่างๆ โดยเฉพาการใช้สลิง ซึ่งที่ผ่านมาเคยทำในส่วนของละครผี แอคชั่น ดราม่า พีเรียดมาเยอะแล้วแต่แนวแฟนตาซียังไม่เคยทำ การดีไซด์งานจะยากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นการวางโครงเรื่องของผีทุกอย่างครับ แต่ก็โชคดีที่นักแสดงเป็นวัยใกล้เคียงกันทำให้การทำงานไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ด้วยครับ ยังไงดูเรื่องที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 แล้วก็อย่าลืมติดตามเรื่องที่ 4 นะครับรับรองว่าเป็นละครรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่น่ารักและยังได้ร่วมฉลองครบรอบ 40 ปี ของช่องด้วยนะครับ ขอให้มีความสุขกับละครนะครับ”
นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงฝีมืออีกมากมายที่นำทับมาสร้างสีสันความสนุกให้กับละครไม่ว่าจะเป็น สันติสุข พรหมศิริ, จินตหรา สุขพัฒน์, สุเชาว์ พงษ์วิไล, สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์, เบญจพล เชยอรุณ ขอแนะนำ “จุฬา ศรีคำมา” มิสก๊อสซิบสตาร์ ผู้รับบทเป็น “โหงพราย” ดาราดาวรุ่ง ใบเตย “สุชัญญา โยธิกุล” รับบทเป็น “พันทิรา” และน้องเบนซ์ “กัญญ์พัสวี ตั้งมั่นคงวรกุล” ผู้รับบท “ปิ่นมุก” งานนี้ยังมีนักแสดงรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่มากความสามารถเข้ามาสร้างความสนุกในครั้งนี้อีกด้วย
“วายุภัคมนตรา” เป็นบทประพันธ์ของ “แพรณัฐ” กำกับการแสดงโดย อ๊อฟ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” โดยเรื่องราวของวายุภัคมนตราเกิดขึ้นจากทิชากรหรือกะทิซึ่งเป็นนักเขียนนิยายโรมานที่ได้รับความนิยมในหมู่นักอ่าน เธอเป็นลูกสาวของอดีตหมอไสยจอมขมังเวทย์ที่ผันตัวมาเป็นหมอนวดแผนโบราณ วันหนึ่งเธอจำเป็นต้องเข้าไปไร่องุ่นสายลม แต่สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าหมอคล้ำของชายหนุ่มที่เหมือนถูกของและเงาของนางโหงพรายที่เกาะอยู่ด้านหลัง เธอพยายามบอกแต่ถูกว่ากลับ บางครั้งที่เธอจู่โจทเข้าเอาน้ำมนต์สาดใส่ไปทั่วตามประสาเธอ วายุภัคก็ยังหนีรอดไปได้ ทำให้บางครั้งวายุภัคแอบประทับใจในตัวเธออย่างไม่น่าเชื่อและยอมให้ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มไปด้วยดีแต่หากไม่มีซองแตลคู่รักเก่าเข้ามาเกี่ยวข้องแต่เธอก็ไม่ละความพยายามที่จะช่วยวายุภัค”
ทิชากรจะสามารถช่วยวายุภัคและปราบนางโหงพรายได้หรือไม่ บทสรุปของละครซีรี่ย์ทั้ง 4 เรื่องจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน “วายุภัคมนตรา” ทุกคืนวันศุกร์ — อาทิตย์ เวลา 20.30 น. เริ่มวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม ศกนี้