กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--พม.
วันนี้ (๓ ธ.ค.๕๓) เวลา ๐๙.๐๐ น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสภาคนพิการทุกประเภท แห่งประเทศไทย จัดงานวันคนพิการสากล ประจำปี ๒๕๕๓ เพื่อมุ่งเน้นเปิดโอกาสให้คนพิการแสดงออกถึงศักยภาพให้สังคมได้ตระหนักถึงความเท่าเทียมและยอมรับความสามารถของคนพิการ และแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี และร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลที่จะทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา โดยนำบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” มาเป็นหัวข้อหลักในการจัดงานว่า “ยิ้มสู้เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียม” โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณดีเด่นแก่บุคคลและองค์กรด้านคนพิการ ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลลูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและดำเนินการเพื่อส่งเสริมสิทธิ โอกาส และความเสมอภาคเท่าเทียมของคนพิการมาโดยตลอด โดยในรอบปีที่ผ่านมา ได้ผลักดันนโยบายสำคัญ เช่น การจัดสวัสดิการสิทธิเบี้ยความพิการ เดือนละ ๕๐๐ บาท ให้แก่คนพิการทุกคน มากกว่า ๘ แสนคน และมีมติคณะรัฐมนตรีหลายประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เช่น เรื่องการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการอย่างทั่วถึงและครบถ้วนภายในปี ๒๕๕๔ เรื่องกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน ๑ : ๑๐๐ คน เรื่องมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ ได้แก่ การยกเว้นภาษีสำหรับองค์กรเอกชนที่จัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ การยกเว้นภาษีแก่สถานประกอบการ ที่จ้างคนพิการเข้าทำงานมากกว่าร้อยละหกสิบของลูกจ้างในสถานประกอบการนั้น และการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ในส่วนที่มีรายได้ไม่เกินหนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทในปีภาษีนั้น นอกจากนี้ ยังได้จัดระบบสวัสดิการต่างๆ โดยคำนึงถึงการไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ เช่น คนพิการสามารถเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี บริการล่ามภาษามือ ผู้ดูแลคนพิการ และผู้ช่วยคนพิการ และการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้มีมติประกาศให้วันที่ ๓ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิก ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม และแสดงถึงศักยภาพ ซึ่งจะทำให้สังคมเกิดเจตคติสร้างสรรค์ต่อคนพิการ และให้การยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม สำหรับในปี ๒๕๕๓ นี้ ได้กำหนดประเด็นหลัก“Keeping the Promise: Mainstreaming Disability in the Millennium Development Goals towards 2015 and beyond” หรือ“การยึดมั่นคำสัญญา:การผนวกประเด็นความพิการเข้ากับการพัฒนากระแสหลักในเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ และต่อจากนั้น”โดย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กำหนดให้มีการจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน — ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ในหัวข้อ “ยิ้มสู้...เพื่ออยู่อย่าง เท่าเทียม” โดยมาจากชื่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ซึ่งพระองค์ได้แต่งบทเพลงนี้ เพื่อเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้กับคนพิการ ประกอบกับในปี ๒๕๕๔ จะเป็นปีมหามงคลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษา จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่คนพิการและผู้มาร่วมงานวันคนพิการสากลในปีนี้ จะได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ โดยกิจกรรมในงานวันนี้ ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ การขับร้องหมู่บทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” พิธีมอบโล่เกียรติยศและประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล องค์กร ภาคธุรกิจเอกชน ด้านการส่งเสริมอาชีพคนพิการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่นที่สนับสนุนงานคนพิการ องค์กรด้านคนพิการที่ได้รับรองมาตรฐาน และการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนพิการ การอ่านสาส์นวันคนพิการสากล โดยผู้แทนองค์การสหประชาชาติ และเวทีจุดประกาย “ยิ้มสู้ เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียม”.