เจโทร รุดหน้าสนับสนุนการค้าขายภาคบริการไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday June 12, 2007 15:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--เจโทร
ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น
มุ่งเน้นการค้าขายภาคบริการที่มีคุณค่าของความเป็นไทยสูง โดยคุณค่าของความเป็นไทยมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดญี่ปุ่นและทั่วโลก
เปิดตัวด้วยการค้าขายภาคบริการในสามสาขา คือ การค้าขายฟรานไชส์สปาไทย ร้านอาหารไทย และการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคมีเดียคอนเทนท์ของไทย
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ ร่วมด้วยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้เริ่มแผนงานระยะยาวเพื่อสนับสนุน “การค้าขายภาคบริการ” โดยมุ่งเน้นด้านการค้าขายฟรานไชส์สปาไทยและร้านอาหารไทย รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคมีเดียคอนเทนท์ (Content) ของไทย แผนงานส่งเสริมการค้าขายภาคบริการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย และจะดำเนินไปอย่างราบรื่นเนื่องจากญี่ปุ่นและไทยได้ทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA)
มร. โยอิชิ คาโต ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบในการส่งออกเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในเอเชียอื่นๆ เนื่องจากมีการผสานคุณค่าของความเป็นไทยไว้กับการให้บริการอย่างลึกซึ้ง ทั้งประเทศไทยยังเป็นแหล่งกำเนิด “คุณค่าของความเป็นไทย” อย่างแท้จริง ซึ่งได้แก่ คุณค่าทางด้านภูมิปัญญา วัฒนธรรม และมรดกทางวิถีความเป็นไทย ผ่านการดำรงชีวิตแบบไทย คุณค่าของสินค้าและบริการเป็นข้อได้เปรียบที่ดีกว่าการมีต้นทุนที่ถูกกว่าในการแข่งขันทั่วโลก ณ ปัจจุบัน ในการนี้ เจโทร เล็งเห็นว่าภาคบริการไทยมีโอกาสเติบโตในตลาดญี่ปุ่น เราจึงริเริ่มแผนงานเพื่อสนับสนุน “การค้าขายภาคบริการ” ของไทย โดยจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจไทยในต่างประเทศ นอกเหนือจากการค้าขายภาคบริการในประเทศไทย เช่น การเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าไทย การยกระดับภาพลักษณ์ตรายี่ห้อไทย ตลอดจนความเชื่อมั่นในโอกาสทางการตลาดและศักยภาพของนักธุรกิจไทย เพราะการค้าขายภาคบริการเป็นพื้นฐานสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจไทยในตลาดโลก”
มร. ฮารุฮิโกะ โอซะสะ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือทางการค้า เจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า “เจโทร ได้เริ่มสนับสนุนการค้าขายภาคบริการใน 3 ภาค ได้แก่ การค้าขายฟรานไชส์สปาไทย ฟรานไชส์ร้านอาหารไทย และการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคมีเดียคอนเทนท์ของไทย ได้แก่ ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น ดนตรี และสารคดี ปัจจุบัน มีร้านอาหารของชาวไทยที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นแล้ว เช่น โคคา, เอ็ม.เค., และแมงโก ทรี สำหรับสปา ได้มีสปาของชาวญี่ปุ่นที่มีบริการนวดไทย และมีสปาไทยเปิดใหม่ในญี่ปุ่น คือ HAAN”
มร. โอซะสะกล่าวว่า “เจ้าของฟรานไชส์ชาวไทยจะได้รับค่าลิขสิทธิ์และรายได้จากการให้คำปรึกษาด้านรูปแบบธุรกิจ เช่น การดีไซน์แนวคิดหลัก การคิดค้นเมนูสปาและเมนูอาหาร การตกแต่ง และอื่นๆ ทั้งนี้ การเปิดฟรานไชส์ไทยในญี่ปุ่นจะส่งผลให้การส่งออกของสินค้าไทยไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับที่ดีจะใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหารจากไทยถึง 50% และร้านอาหารที่อยู่ในระดับดีเลิศจะได้วัตถุดิบชนิดแท้จากไทยถึง 80% ข้อมูลดังกล่าวมาจากการสัมภาษณ์ร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว”
มร. โอซะสะกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแผนงานส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคมีเดียคอนเทนท์ของไทย เจโทร ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นเพื่อให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่น และเพื่อจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้แก่นักธุรกิจไทย มีเดียคอนเทนท์ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ แอนิเมชั่น ดนตรี และสารคดี ล้วนเป็นสื่อประชาสัมพันธ์คุณค่าของความเป็นไทยได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีการสอดแทรกภูมิปัญญาไทยในเนื้อหา ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการบริการสไตล์ไทย และส่งผลให้ยอดการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในที่สุด”
ชาวญี่ปุ่นนิยมชมชอบภาพยนตร์แอคชั่นและภาพยนตร์เบาสมองจากประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2548 ภาพยนตร์เรื่อง “องค์บาก” ทำรายได้ถึง 800,000,000 เย็น ส่วน “สตรีเหล็ก ภาคสอง” ทำรายได้ 100,000,000 เย็น ทั้งนี้ “Infernal affairs 2” จากฮ่องกง ทำรายได้ 200,000,000 เย็น ส่วน “Untold Scandal” จากเกาหลี ทำรายได้ 900,000,000 เย็น
มร. คาซึโอะ คุโรอิ ผู้เชี่ยวชาญ เจโทร และผู้สร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง กล่าวว่า “ภาพยนตร์สามารถสื่อสารกับผู้ชมได้โดยปราศจากขีดจำกัด ในขณะที่สินค้าอาจไม่สามารถทำได้ เหตุเพราะสินค้ามีราคาเฉพาะตัว จึงเป็นการยากที่ความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อสินค้าจะสูงกว่าราคาที่จ่ายออกไป เนื่องจากความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญในการประเมินคุณค่าของสินค้า ทั้งนี้ การรับชมภาพยนตร์เป็นการสื่อสารด้วยความรู้สึก เป็นการสร้างความประทับใจ ซึ่งคุณค่าของความประทับใจนั้นมิได้มีขีดจำกัดแต่อย่างใด”
มร. คุโรอิ กล่าวว่า “การค้าขายระหว่างประเทศญี่ปุ่นและไทยนั้นเป็นไปอย่างดีเสมอมา ผมเชื่อว่าการค้าขายภาคบริการในด้านภาพยนตร์จะเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและไทย ภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของญี่ปุ่นนั้นมองหาแรงบันดาลใจเพื่อการสร้างภาพยนตร์จากทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น ผมได้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง “Virgin Snow” ร่วมกับประเทศเกาหลี เมื่อได้รับไอเดียจากชาวเกาหลีท่านหนึ่ง ผมมั่นใจว่ามีโอกาสมากมายในการร่วมงานกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เพราะประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เช่น สมัยอยุธยา และประเทศไทยยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมกันมากของชาวญี่ปุ่น ดังนั้น จึงเป็นที่น่ายินดีที่วงการภาพยนตร์ไทยจะทำงานและเสนอไอเดียร่วมกัน และผมหวังว่าการร่วมมือกันจะเป็นไปอย่างคึกคักมากยิ่งขึ้น”
มร. คุโรอิ เคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง Kadokawa Film Inc. และปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับบริษัทเดียวกัน มร. คุโรอิ ได้รับเชิญจากญี่ปุ่นเพื่อบรรยายในหัวข้อ “โอกาสในการทำตลาดมีเดียคอนเทนท์ในญี่ปุ่น (Opportunities for Penetrating the Japanese Content Market)” นอกจากนี้ มร. คุโรอิ ยังได้พบปะกับผู้แทนจากอุตสาหกรรมภาคมีเดียคอนเทนท์ ของไทย อาทิ สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย, สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย, อทางสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ, สมาคมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์เกมไทย, กันตนา กรุ๊ป, ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น และ จี.เอ็ม.เอ็ม ไท หับ
นอกจากนี้ บริษัท เดนท์สุ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาจากญี่ปุ่น ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ยังได้รับเชิญให้นำทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการทำแบรนดิ้งมาจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “เวิร์คชอปเพื่อการพัฒนาแบรนด์ (Brand Development Workshop)” โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการชาวไทยสามารถวิเคราะห์ด้านความรับรู้ต่อแบรนด์ของตนเอง รวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อสร้างคุณค่าแบรนด์ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ มีผู้แทนจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ภาคบริการ และฟรานไชส์เข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าวจำนวน 30 คน
ในอนาคต เป็นที่มุ่งหวังว่าการส่งเสริมการค้าขายภาคบริการไปยังประเทศญี่ปุ่นจะครอบคลุมอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากสปาไทย ร้านอาหารไทย และมีเดียคอนเทนท์ ซึ่งจะส่งผลให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
คุณชุติมา ดวงพาณิช ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เจโทร กรุงเทพฯโทร 02 253 6441 ต่อ 147

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ