กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
แม้ว่าจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่มะเร็งปากมดลูก ยังคงเป็นมะเร็งร้ายที่ทำให้หญิงไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้หญิงไทยตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย จึงได้ร่วมกับ กรมอนามัยและกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, สมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย), เครือข่ายภาคประชาชนของสมาคมฯ และโครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิงจากมะเร็งปากมดลูก จัดกิจกรรม “รวมพลังปกป้องหญิงไทยจากภัยมะเร็งปากมดลูก” และได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศล ในโครงการ The Tour of Hope, the Fight against Cervical Cancer ขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นประธานเปิดงาน ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเมื่อเร็วๆนี้
รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันหญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดเพิ่มขึ้นเป็น 14 คนต่อวัน จากเดิม 7 คนต่อวัน ส่วนหนึ่งมาจากความเข้าใจผิดของผู้หญิงไทย ที่ส่วนใหญ่มักคิดว่าตัวเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง คิดว่าตนเองมีคู่นอนเดียว สามีไม่เจ้าชู้ ก็ไม่น่าจะเกิดโรคร้ายนี้ ทำให้ไม่เห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองและการฉีดวัคซีนป้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีชนิดก่อมะเร็ง ซึ่ง 50-80% ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมีโอกาสติดเชื้อนี้ได้ในช่วงชีวิตหนึ่ง การมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวหรือผู้หญิงที่มีคู่นอนคนเดียวก็มีโอกาสในการรับเชื้อเอชพีวีเช่นกัน
รศ.นพ.ชัยยศ ยังกล่าวเตือนอีกว่า การที่หญิงไทยส่วนใหญ่มักอายและกลัวที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ทำให้กว่าจะรู้ตัวว่ามีอาการผิดปกติ ความรุนแรงของโรคก็มักอยู่ในระยะลุกลามแล้ว ทำให้มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ผู้หญิงทุกคนควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดก็ควรฉีดวัคซีนร่วมด้วย
ภายในงานมีการร่วมปั่นจักรยานรณรงค์ต่อต้านมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยของนักปั่นชาวไทยกว่า 100 คน ซึ่งมาจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น องค์กรแพทย์ เครือข่ายประชาชน ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ นักเรียนนักศึกษา ร่วมด้วยนักปั่นจักรยานการกุศลนานาชาติจากคณะ The Tour of Hope, the Fight against Cervical Cancer ซึ่งประกอบด้วยไปกลุ่มนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์จาก 8 ประเทศอีก 40คน ที่ได้ร่วมปั่นจักรยานรณรงค์ต่อต้านโรคมะเร็งปากมดลูก จากจังหวัดกาญจนบุรี มาสิ้นสุดที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พร้อมระดมเงินบริจาคเงินจำนวน1,000,000.-บาท ให้แก่องค์กรเพื่อสุขภาพเจไปโก้ (JHPIEGO) แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และรณรงค์ในการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกของ Johns Hopkins University ประเทศสหรัฐอเมริกา
และยังได้รับเกียรติจากแขกผู้เกียรติร่วมงานมากมาย อาทิ นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย, นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์, ศ.กิตติคุณ พญ.คุณหญิงกอบจิตต์ ลิมปพะยอม ประธานมูลนิธิ Jhpiego, รศ.พญ.อรวรรณ คีรีวัฒน์ นายกสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย), คุณนวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา, คุณหญิงสุภา และดร.วีรภา กิจจาทร, ม.ร.ว.อัจฉรา ขจรวิทยา, ม.ร.ว.จิราภรณ์ จันทรทัต, รศ.อรุณีประภา และคุณอรญา หอมเศรษฐี,คุณพิริยาภรณ์ ธรรมมารักษ์, คุณลักษณ์ประไพ หัสดินทร, Countess Susanne von Korff ร่วมด้วย 4 สาว GET DIVAS (หัทยา วงศ์กระจ่าง สาลินี ปันยารชุน วินรัตน์ ศันสนะเกียรติ และ อัจฉริยา สินรัชตานันท์ ตัวแทนจากโครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิงจากมะเร็งปากมดลูก และประชาชนผู้สนใจอีกคับคั่ง
คุณหญิงสุภา กิจจาทร ให้ความเห็นว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่น่ากลัวและควรให้ความสำคัญ เพราะมีอัตราการตายสูงและมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ด้วยนิสัยของหญิงไทยมักจะอายเมื่อต้องตรวจภายใน จึงเป็นการดีที่มีโครงการฯ มาสนับสนุน ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงไทยมาก นอกจากหน่วยงานต่างๆ ของไทยแล้วยังมีชาวต่างชาติมาร่วมกันรณรงค์ปกป้องหญิงไทยและมอบเงินบริจาคให้ นับเป็นความเอื้อเฟื้อห่วงใยที่มีต่อหญิงไทยทุกคน”
ในขณะที่ คุณนวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา กล่าวเสริมว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก แต่ถึงอย่างไร ผู้หญิงเราก็ต้องให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ไม่ควรที่จะรอให้เป็นก่อน แล้วค่อยรักษา แต่ควรที่จะป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการสุขภาพของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และ Countess Susanne von Korff กล่าวปิดท้ายว่า สาวๆ ทั้งหลายอย่าได้อายที่จะไปพบแพทย์ และอยากให้เด็กๆ กล้าที่จะปรึกษา คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดๆ ก็ตามจะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และโดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ในงานครั้งนี้